แฟนปืนกุมขมับ! 3สิ่งผิดพลาดที่เอเมรี่ทำไว้กับอาร์เซน่อล

อาร์เซน่อล เพิ่งบุกไปแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาจนหล่นมารั้งอันดับ 6 ของตาราง พร้อมไม่ชนะใครเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันทุกรายการ ทำให้สถานการณ์ของ อูไน เอเมรี่ สุ่มเสี่ยงต่อการโดนปลดออกจากตำแหน่ง และโดนแฟนๆออกมาขับไล่รุนแรงขึ้นวันนี้เราจะพาไปดู 3 สิ่งที่ เอเมรี่ ทำผิดพลาดจนทำให้ทีมมีผลงานไม่ดีในฤดูกาลนี้ 

3.การเลือกกัปตัน 

ถึงเวลานี้หน้าจะพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า เอเมรี่ นั้นตัดสินใจเลือกกัปตันทีมคนใหม่ผิดพลาด หลังเลือก กรานิต ชาก้า สวมปลอกแขนเป็นผู้นำทีมคนใหม่แทน โลร็องต์ กอสเซียลนี่ กัปตันคนเก่าที่ย้ายไปบอร์กโดซ์ ท่ามกลางความไม่พอใจของเหล่าแฟนๆ "ปืนใหญ่" ที่คิดว่าเจ้าตัวได้มีความเหมาะสมในการมารับบาทบาทนี้แต่ทีแรก 

มิดฟิลด์ชาวสวิตฯเพิ่งจะสร้างเรื่องฉาวทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับแฟนบอลของทีมเลวร้ายมากยิ่งขึ้น เพราะหลังจากโดนโห่ใส่อย่างหนักในเกมลีกที่ต้นสังกัดเสมอกับ คริสตัล พาเลซ 2-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา เขาก็ทำท่าเหน็บกองเชียร์ของทีมตัวเอง พร้อมตะโกนด่าด้วยคำหยาบคาย

เรื่องดังกล่าวถือเป็นการส่งผลกระทบต่อสปิริต และมันแสดงให้เห็นว่าดาวเตะวัย 27 ปีไม่มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมในการรับปลอกแขน ซึ่งทั้งหมด เอเมรี่ ต้องรับผิดไปเต็มๆ 

ย้อนไปในยุคแรกๆของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ นั้นเจ้าตัวต้องใช้เวลาไตร่ตรองอยู่นานเพื่อเลือกกัปตันที่น่าจะมีวุฒิภาวะมากที่สุดในการนำลูกทีมลงสนาม ซึ่งหากย้อนไปในยุคกุนซือเลือดน้ำหอม มิดฟิลด์ชาวสวิตไม่สามารถเทียบกันได้เลยโดยเฉพาะ โทนี่ อดัมส์ หรือ ปาทริค วิเอร่า ที่ถูกยกให้เป็นผู้นำทีมที่เหมาะสมมากที่สุดของ "เดอะ กันเนอร์ส" แล้ว 

2.แนวรับสุดรั่ว

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล เซ็นสัญญาคว้าตัวสองแนวรับอย่าง ดาวิด ลุยซ์ ปราการหลังบราซิเลียนจากเชลซี และ คีแรน เทียร์นีย์ แบ็กซ้ายจาก กลาสโกว์ เซลติก มาร่วมทีม เพื่อมาเพิ่มประสิทธิภาพในแนวรับให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมทดแทนการขาดหายไปของ โลรองต์ กอสเซียลนี่ ที่ย้ายออกจากทีม 

ด้วยตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้นคาดว่าจะทำให้ อาร์เซน่อล มีสถิติการป้องกันที่ดีกว่าในซีซั่นที่แล้ว อย่างไรก็ตามจากสถิติหลายอย่างที่มันออกมาให้เห็นยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวของกุนซือรายนี้ เริ่มตั้งแต่การปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสส่องประตูได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะในเกมที่เจอวัตฟอร์ด พวกเขาโดนส่องประตูถึง 31 ครั้ง จากนั้นก็ถูก วูล์ฟแฮมป์ตัน ส่องประตู 25 ครั้ง ส่วนเกมที่ล่าสุดกับ เลสเตอร์ ถูกส่องประตูไป 19 ครั้ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่พวกเขาเสียประตูทั้งสามนัด และเก็บชัยชนะไม่ได้เลย 

กุนซือชาวสแปนิชยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเกมส์รับที่มีอยู่เดิมได้เลย ในช่วงท้ายยุคของอาร์แซน เวนเกอร์ ทีมปืนใหญ่ก็มีปัญหาเกมส์รับ แต่ตอนนี้มันกลับเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก นับตั้งแต่ที่ เอเมรี่ เข้าคุมทีมเมื่อฤดูกาล 2018/19 อาร์เซน่อลถูกคู่แข่งส่องเฉลี่ย 13.1 ครั้งต่อเกม และฤดูกาลนี้สูงขึ้นถึง 16.3 ครั้งต่อเกม ซึ่งมากกว่าในยุคของ เวนเกอร์ ในการกุมบังเหียน 8 ปีสุดท้ายที่ไม่เคยถูกคู่แข่งส่องประตูเฉลี่ยสูงเกิน 11.9 ครั้งต่อเกม

นอกจากนี้ยังมีสถิติเรื่องการเพลสซิ่งที่ย่ำแย่ ซึ่งมันแสดงให้เห็นแล้วว่า อาร์เซน่อล ไม่สามารถแย่งหรือตัดบอลจากคู่แข่งได้เลย ซึ่งหนึ่งในเหตุผลก็คือการปรับเปลี่ยนบทบาทของ ลูคัส ตอร์เรยร่า กองกลางที่ถนัดการเล่นเกมรับธรรมชาติขึ้นไปยืนสูงเพื่อเล่นเกมรุกมากกว่าที่จะทำงานถนัดของตัวเองและให้นักเตะที่ไม่มีสกิลเกมรับอย่าง กรานิต ชาก้า, มัตเตโอ เกนดูซี่, ดานี่ เซบายอส หรือ โจ วิลล็อค ในการคุมพื้นที่ป้องกันแผงแบ็คโฟร์

1.เกมรุกฝืดเคือง 

นอกจากเกมรับที่ย่ำแย่สุดกู่แล้ว เกมรุกที่เป็นสิ่งจุดขายมาตลอดในยุคของเวนเกอร์ก็พังทลายไปกับตา ซึ่ง เอเมรี่ กำลังทำให้อาร์เซน่อลสูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเองไป โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายบอลที่มีสถิติการจ่ายบอลย่ำแย่ที่สุดในรอบ 10 ปี หลังมีค่าเฉลี่ยเพียง 497 ครั้งต่อเกมเท่านั้น 

อาร์เซน่อลเป็นที่พยายามโจมตีเร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ไม่มีทีมไหนที่เล่นบอลยาวจากแดนตัวเองมากเท่าพวกเขาอีกแล้ว แถมยังเป็นทีมที่เน้นจังหวะฉาบฉวยเข้าโจมตีคู่แข่งซึ่งไร้ความสวยงามแบบที่เคยเป็น 

อย่างไรก็ตามพวกเขามีหลายๆเกมที่เอาตัวรอดมาได้นั่นเป็นเพราะ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ที่ยังผลิตสกอร์ได้เรื่อยๆช่วยเซฟทีมไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งจุดนี้เองก็ต้องยกความดีความชอบให้ดาวยิงทีมชาติกาบ็องไปเต็มๆ  ทั้งๆ ที่ทีมสร้างโอกาสทำประตูเฉลี่ยได้น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี เวลานี้ อาร์เซน่อล สร้างโอกาสยิงแบบจังแจ้งได้ 1.8 ครั้งต่อเกมเท่านั้น

เกาะติดข่าวที่นี่ 

website: www.TNNThailand.com  
facebook : TNNThailand 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNThailand 
Youtube Official : TNNThailand