นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าเสือโคร่งของกลางที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ตรวจยึดจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี จำนวน 147 ตัว ได้ป่วยตาย ว่า กรณีดังกล่าวมีความเป็นมาจากการที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจยึดเสือโคร่งภายในสำนักสงฆ์ (หลวงตาบัว) จำนวน 7 ตัว เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 44 (คงเหลือ 6 ตัวเนื่องจากตายระหว่างการขนย้าย) ในบริเวณสำนักสงฆ์หลวงตาบัวทั้งหมด เพราะไม่มีบุคคลใดมาแสดงตนเป็นเจ้าของ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ พยายามที่จะจัดการกับสัตว์ป่าของกลาง โดยเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง 85 ตัวและสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน 62 ตัว
สำหรับปัญหาการเจ็บป่วยตาย ของเสือโคร่ง ที่รับมาจากวัดหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน พบว่าการเคลื่อนย้ายเสือโคร่งของกลางเป็นการดำเนินการที่ไม่ปกติ ทำให้เสือส่วนใหญ่มีภาวะเครียด ซึ่งต่อมาพบปัญหาการเจ็บป่วย คือ 1.พบว่ามีปัญหาระบบทางเดินหายใจมีอาการหายใจเสียงดังเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นอาการอัมพาตลิ้นกล่องเสียง ทำให้การหายใจเข้าออกลำบากเมื่ออาการหนักมากขึ้นจะไม่กินอาหาร มีอาการชักเกร็ง และตายในที่สุด 2.พบการติดเชื้อไวรัสไข้หัดสุนัข ซึ่งปัจจุบันยังไม่มียารักษา โดยการติดเชื้อทำให้เกิดอาการผิดปกติ ในระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร
สำหรับการดูแลเสือโคร่ง ที่ผ่านมานายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กล่าวว่า ภายหลังจากที่ตรวจพบอาการระบบทางเดินหายใจอันเนื่องมาจากลิ้นกล่องเสียงมีอาการบวมไม่สามารถขยับเปิดปิดระหว่างหลอดลมกับหลอดอาหารได้สนิททำให้หายใจลำบาก มีเสียงดังและมีอาการหอบ หากมีปัจจัยของอุณภูมิที่สูงขึ้นจะส่งผลต่ออาการเครียดและตายเฉียบพลัน ซึ่งการรักษาสัตวแพทย์จะให้การรักษาตามอาการ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดอาการของโรคที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเป็นผลกระทบจากการผสมพันธุ์แบบเลือดชิด เพราะเสือดังกล่าวมีการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว จาก 6 ตัว เป็น 147 ตัว ส่งผลให้เกิดความบกพร่องในพันธุกรรม และระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
ทั้งนี้จากการสรุปข้อมูลจำนวนเสือโคร่งในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน พบข้อมูลว่าปัจจุบันคงเหลือ เสือโคร่งรวมกัน 61 ตัว ตาย 86 ตัว
ด้านมาตรการดูแลสุขภาพเสือโคร่ง จากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการคัดแยกเสือโคร่งตามกลุ่มอาการเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจติดตามอาการและประเมินการรักษา โดยจะมีการใช้วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข และติดตามผลเป็นระยะ ส่วนการดูแลรักษาเสือโคร่งที่มีอาการป่วย สัตวแพทย์รักษาและให้ยาตามอาการ
นอกจากนี้ จะมีการควบคุมระบบความปลอดภัยทางชีวอนามัยภายในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ทั้ง 2 แห่ง อย่างเข้มงวด พร้อมการปรับกรงคอกให้มีอากาศถ่ายเทสะดวกและเพิ่มพื้นที่กรงคอก (สนาม) เพื่อลดความเครียดของเสือโคร่ง โดยจะมีสัตวแพทย์ปฏิบัติงานประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ทั้ง 2 แห่ง โดยจะมีการประชุมเพื่อประเมินผลการดูแลรักษาต่อไป
แส.. คืนให้วัดเขาดูแลดีกว่า ไม่ตาย ถ้าพวกแกไม่มีเวลาดูแล เดี๋ยก็ตายหมดเชื่อพระเถอะ อย่าอวดเก่ง
16 ก.ย 2562 เวลา 23.19 น.
พวกคุณรู้มากอธิบายได้เป็นวรรคเป็นเวรแต่ทำให้เสือ86ตัวรอดตายไม่ได้้ เปิดเวทีสาธารณะซิกล้ามั๊ยให้ ปชช ซักถาม ผมไม่ชอบพวกอ้างอะไรห่วยๆ ลาออกเถอะให้เด็กรุ่นใหม่ทำและตรวจสอบ บอกตรงๆ...เกลียดว่ะ !
16 ก.ย 2562 เวลา 22.18 น.
ชี้แจงแล้วจบ เลยหรือครับ..ง่ายดี?..
16 ก.ย 2562 เวลา 22.08 น.
สุวรรณชาติ ดูแลยังไง แค่ตายตัวแรกตัวสอง ไม่เอาสัตวแพทย์มาดู เพื่อป้องกัน แก้ไข แต่ละเลยไม่ใส่ใจ ปล่อยให้เสือตายเกือบร้อย อัปยศจริงๆ ต้องย้ายดำเนินการทางวินัย ตามกฎหมายยกเข่ง ส่วนซากอยู่ไหนไปขุดเอามา เอาหลักฐานมาดู
16 ก.ย 2562 เวลา 21.48 น.
อยู่กับจนท.แต่ตายมากขนาดนี้
มีอะไรแอบแฝงแน่ๆ
16 ก.ย 2562 เวลา 21.42 น.
ดูทั้งหมด