"เชลซี เวอร์เนอร์" นักยิมนาสติกดาวน์ซินโดรม ที่เอาชนะเหรียญโอลิมปิกส์และทุกขีดจำกัดในชีวิต ! - ดีกับใจ

เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะ 'เป็น' อะไรสักอย่างได้

นี่คือสิ่งที่เราฉุกคิดขึ้นมาหลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวชีวิตของนักกีฬายิมนาสติกและนางแบบสาวคนนี้ 

เธอเกิดมาพร้อมดาวน์ซินโดรม โรคที่ถูกตีตราเอาไว้แต่เกิดว่าเป็นผู้พิการ ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ และไม่น่าจะไปไหนได้ไกล แต่เชลซีและครอบครัวของเธอคือตัวอย่างที่สวยงามที่ลบเอาคำสบประมาทนั้น ๆ ด้วยความเชื่อที่แรงกล้าว่าเด็กที่เกิดมาพร้อมดาวน์ซินโดรมก็ควรได้รับโอกาสเหมือนมนุษย์คนอื่น ๆ และพวกเขาก็มีความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ในความไม่ปกตินั้นเช่นกัน 

มารู้จักกับเรื่องของเชลซีกันใน "ดีกับใจ" สัปดาห์นี้ เราเชื่อว่าชีวิตของเธอน่าจะเป็นกำลังใจที่ดีให้กับหลายคนที่กำลังย่อท้อกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตและเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนที่ยังคงติดกับความกลัวความกังวลต่าง ๆ กล้าที่จะเชื่อตัวเองมากยิ่งขึ้น!

เชลซี เวอร์เนอร์ คือเด็กสาวอายุที่เกิดมาพร้อมกับความไม่สมบูรณ์ แม่ของเธอบอกในสัมภาษณ์กับรายการ  The Today Show ว่าตอนที่เชลซีเกิด หมอบอกกับเธอว่ามีอะไรสักอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับเด็กน้อยคนนี้และพวกเขาคิดว่าเธอเกิดมาพร้อมโรคดาวน์ซินโดรม

เชลซีมีกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง เธอไม่สามารถเดินได้จนอายุ 2 ขวบซึ่งช้ากว่าเด็กคนอื่น ๆ และเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงยิ่งขึ้น คุณแม่เลยพาเธอไปสมัครเรียนยิมนาสติกสำหรับเด็กเล็กครั้งแรกตอนอายุ  4 ขวบ เชลซีมีพัฒนาการที่ดีขึ้นและด้วยการสนับสนุนของพ่อแม่ เธอได้ลงเรียนยิมนาสติกแบบจริงจังอย่างต่อเนื่องกับโค้ชที่เห็นแววในตัวเธอ 

"ตอนแรกเธอยังไม่ค่อยดีนัก เชลซีไม่สามารถแม้แต่จะเดินบนราวแบบไปกลับได้โดยไม่ตกจากมัน หลัก ๆ ก็คือเรื่องกล้ามเนื้อของเธอที่ไม่แข็งแรง แต่ฉันก็บอกกับพ่อแม่ของเธอว่าฉันจะสอนเชลซีเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ถ้าคนอื่นกระโดดตีลังกาได้ เชลซีก็ต้องทำได้" โค้ชดอนกล่าว และด้วยการฝึกซ้อมที่เป็นไปอย่างเข้มข้น เชลซีก็พร้อมลงแข่งยิมนาสติกระดับชาติและที่สำคัญคือเป็นโปรแกรมของบุคคลทั่วไปด้วยอายุแค่ 14 ปี

ถึงแม้เชลซีจะได้ตำแหน่งรั้งท้ายถึง 3 ปี นั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกย่อท้อ เธอฝึกฝนหนักขึ้นและตั้งใจจะคว้าแชมป์มาให้ได้ จนกระทั่งเธอทำสำเร็จจากการแข่งขัน Special Olympics หรือการแข่งขันโอลิมปิกส์สำหรับบุคคลพิเศษ เชลซีครองเหรียญทองในรายการระดับโลกนี้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน และระหว่างทางเธอก็ได้รับการทาบทามจากแบรนด์ดังต่าง ๆ อย่างเช่น P&G, H&M ให้เป็นนางแบบในแคมเปญโฆษณาของพวกเขา นั่นคือจุดเริ่มต้นที่พาเชลซีเข้าสู่วงการโมเดลลิ่ง

ถึงแม้โลกของแฟชั่นจะเริ่มเปิดรับความหลากหลายมากขึ้น แต่สิ่งที่เราได้เห็นนอกจากเรื่องของเชื้อชาติ สีผิว และรูปร่างแล้ว ยังไม่มีบุคคลพิเศษที่ถูกรวมอยู่ในการเปิดกว้างนี้ เชลซีถือเป็นหนึ่งในนางแบบของวงการคนแรก ๆ ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มบุคคลพิเศษ และเธอก็ทำให้ทั้งโลกได้เห็นว่าพวกเขาก็คือคน ๆ หนึ่งเหมือนกัน

"หนูว่ามันยากนะสำหรับการเป็นนางแบบ แต่หนูก็มีโจทย์ยาก ๆ ที่เข้ามาในชีวิตอยู่เสมอและหนูก็ไม่เคยยอมแพ้กับมัน เป็นเพราะว่าหนูมีแรงสนับสนุนที่ดีและก็เป็นคนที่มองโลกในแง่บวก หนูว่ามันไม่มีลิมิตหรอกสำหรับการทำอะไร หนูดื้อแล้วก็สู้กับมัน และวิธีที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงหนูมาก็ทำให้หนูรู้สึกดีกับตัวเองอยู่แล้ว" เชลซีกล่าว 

เธอคือแหล่งผลิตกำลังใจที่ดีมาก ๆ และเราหวังว่าเรื่องราวของเชลซีจะสามารถทำให้ใครบางคนมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาบ้าง 

หากคุณมีเรื่องราวดี ๆ ที่อยากจะแบ่งปันกับเรา ส่งเข้ามาได้ที่อีเมล nisara.s@linecorp.com หรือทางเฟซบุคแฟนเพจ LINE TODAY Thailand เรื่องที่ได้รับการคัดเลือกจะถูกนำมาเผยแพร่ในคอลัมน์ "ดีกับใจ" ในครั้งต่อ ๆ ไป แล้วเจอกันทุกวันพุธนะคะ : )

แหล่งที่มา:

เทปรายการ The Today Show จากยูทูบแชนแนล Chelsea Werner 

http://chelseaworldchampion.com/index.php/chelseas-story

https://truththeory.com/2019/01/25/a-champion-gymnast-with-down-syndrome-becomes-a-model-and-breaks-stereotypes/?fbclid=IwAR1fxzyLbjkCVuS951rduJelxdLSBiApRpRljKMxGzzq2Q8H1CQ1w3pQWNo