ไอที ธุรกิจ

ประกันสังคมผุดไอเดีย! ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เปิดทางดึง ‘เงินชราภาพ’ ใช้ยามฉุกเฉิน

The Bangkok Insight
อัพเดต 07 ส.ค. 2563 เวลา 17.58 น. • เผยแพร่ 07 ส.ค. 2563 เวลา 17.58 น. • The Bangkok Insight

“ประกันสังคม” ผุดไอเดีย! ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เปิดทางดึง “เงินชราภาพ” มาใช้ยามฉุกเฉิน ไม่ต้องรอถึงเกษียณอายุ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษาเทียบกับต่างประเทศ เผยต้องดูว่าแก้กฎหมายได้เร็วแค่ไหน

นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สำหรับนายจ้างและลูกจ้างในระบบกองทุนประกันสังคม ผ่านรายการสถานีประกันสังคม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สำหรับกรณีที่มีผู้ประกันตนเรียกร้องขอนำเงินสมทบกรณีชราภาพจากกองทุนประกันสังคมออกมาใช้ชั่วคราว เมื่อเกิดความเดือดร้อนหรือเหตุฉุกเฉินเหมือนกรณีโควิด-19 นั้น นางพิศมัยเปิดเผยว่า สำนักงานฯ รับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าวมาจากหลายช่องทางและกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้

ประกันสังคม

ทั้งนี้ การเปิดให้นำเงินสมทบกรณีชราภาพออกมาใช้ชั่วคราว ต้องไปแก้ไขกฎหมายในระดับ พ.ร.บ. ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร โดยสำนักงานฯ กำลังพิจาณาเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ที่ใช้วิธีเก็บเงินสมทบและจ่ายสิทธิประโยชน์คล้ายๆ กับประเทศไทยว่า จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งตอนนี้ก็ได้ประเทศต้นแบบมาหลายประเทศ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นางพิศมัยกล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางที่เป็นไปได้ในตอนนี้ คือ อาจปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกันตนผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กองทุนประกันสังคมกำหนด

แนวทางดังกล่าวคล้ายกับกรณีปัจจุบัน ซึ่งกองทุนฯ เปิดให้นายจ้างที่ประสบปัญหาไวรัสโควิด-19 กู้เงินดอกเบี้ยต่ำในอัตรา 3% โดยมีนายจ้างยื่นสมัครเข้ามาแล้วเป็นจำนวนมาก

กรณีที่ผู้ประกันตน หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ เสนอเข้ามา อยากจะนำเงินกรณีชราภาพของตัวเองไปใช้ เราอยู่ระหว่างการศึกษา ขณะเดียวกันก็ต้องดูด้วยว่า กฎหมายจะแก้ไขได้เร็วขนาดไหน

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ย้ำวัตถุประสงค์ "เงินสมทบชราภาพ"

อย่างไรก็ตาม เงินสมทบกรณีชราภาพของกองทุน ประกันสังคม มีวัตถุประสงค์ให้นำเงินไปใช้ยามชราภาพจริงๆ โดยผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน ก็จะได้รับเป็นเงินก้อนบำเหน็จ และถ้าจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือนขึ้นไป ก็จะได้รับบำนาญ เพื่อนำไปใช้ยามชรา จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

เพราะฉะนั้นการนำเงินชราภาพมาใช้ตอนนี้ ก็เป็นการทำให้เงินให้ผู้ประกันตนหายไปจากระบบ เมื่อถึงเวลาต้องใช้เงินอาจจะลดน้อยถอยลง แต่สำนักงานฯ ก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย

เตรียมจ่าย 1.5 หมื่นบาท สมทบ "ประกันสังคม" ไม่ถึง 6 เดือน

นางพิศมัยกล่าวต่อว่า ด้านโครงการจ่ายเงินชดเชยรายได้ 15,000 บาท แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 นั้น จะจ่ายให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 (ลูกจ้าง/พนักงานบริษัทเอกชน) ที่ไม่ได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยไวรัสโควิด-19 ในอัตรา 62% ของค่าจ้างรายวัน เนื่องจากจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมไม่ครบ 6 เดือน ภายใน 15 เดือนย้อนหลัง

โดยสำนักงาน ประกันสังคม ส่งรายชื่อสถานประกอบการที่หยุดกิจการชั่วคราวและรายชื่อลูกจ้างที่จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 6 เดือน จำนวน 5.9 หมื่นรายชื่อ ไปขอเงินชดเชยจากกระทรวงการคลังแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลังได้อนุมัติเงินชดเชยรายได้ให้เดือนละ 5,000 บาท ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2563 แต่เนื่องจากเวลาได้ผ่านไปแล้ว จึงจะจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวจำนวน 15,000 บาท

นางพิศมัยกล่าวต่อว่า หลังจากสำนักงานประกันสังคมได้รับงบประมาณจากกระทรวงการคลังแล้ว ก็คาดว่าจะโอนเงินให้ผู้ประกันตนที่เข้าเกณฑ์ได้ทันที 30,000 กว่าราย ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2563 เนื่องจากระบบประกันสังคมมีข้อมูลบัญชีเงินฝากของผู้ประกันตนกลุ่มนี้อยู่แล้ว

ด้านผู้ประกันตนที่เหลือ สำนักงานประกันสังคม ยังไม่สามารถโอนเงินได้ทันที เพราะลูกจ้างกลุ่มนี้ไม่เคยเบิกสิทธิ์ประโยชน์ใดๆ จากกองทุนประกันสังคมมาก่อน ทำให้ไม่มีเลขบัญชีเงินฝากอยู่ในระบบ สำนักงานฯ จึงจะติดต่อลูกจ้างกลุ่มนี้โดยตรง เพื่อให้ส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลบัญชีเงินฝาก

 ลูกจ้างไม่ต้องมายื่นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่าการจ่ายเงินส่วนนี้เป็นเงินของกระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่ประกันสังคมไม่ได้วินิจฉัย จะสั่งจ่ายโดยตรงจากส่วนกลาง เพราะฉะนั้นการติดตามลูกจ้างให้ยื่นเอกสารเพิ่มเติม จะดำเนินการโดยส่วนกลาง จังหวัดไม่ได้ดำเนินการตรงนี้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปตามจังหวัดหรือหน่วยบริการ

"เงินชดเชยว่างงานโควิด-19" จ่ายไปแล้ว1.4 หมื่นล้าน

สำหรับการจ่ายเงินกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัยโควิด-19 ในอัตรา 62% เป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วันของกองทุนประกันสังคมนั้น นางพิศมัยกล่าวว่า ล่าสุดกองทุนฯ จ่ายเงินไปแล้วประมาณ 9.1 แสนราย คิดเป็น 8% ของผู้ประกันตนมาตรา 33 ทั้งหมด 11 ล้านคนและคิดเป็นวงเงินประมาณ 14,000 กว่าล้านบาท

โดยคาดว่าคงจะไม่มีเพิ่มแล้ว เพราะมาตรการจ่ายเงินกรณีเหตุสุดวิสัยโควิด-19 จะเปิดรองรับกรณีว่างงานได้ถึงเดือนสิงหาคม 2563 เป็นเดือนสุดท้าย โดยขณะนี้การจ่ายเงินเหลือตกค้างอีกไม่กี่ราย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 85
  • จิ๋ว ซ่า
    จะให้ก็ให้เถอะ​ แล้วจะต้องเสียดอกเบี้ยทำไม​ ในเมื่อมันเป็นเงินของเราเองที่เก็บสะสมไว้
    10 ส.ค. 2563 เวลา 05.54 น.
  • Wick
    เราว่าหลอกและให้ความหวังปชช.ไปเรื่อย งานถนัด!!! เรื่องนี้สำคัญกับปากท้องคนส่วนใหญ่ แต่บอกเพิ่งศึกษาความเป็นไปได้และไม่รู้ว่าจะทำเมื่อไหร่!!!
    08 ส.ค. 2563 เวลา 11.59 น.
  • Mr. Binary
    ไปปรับปรุง​ระบบให้รวดเร็ว​ดีกว่ามั้ย​
    09 ส.ค. 2563 เวลา 04.38 น.
  • เด๋ว...เจอกัน
    มัวแต่ศึกษาสมอง
    08 ส.ค. 2563 เวลา 05.17 น.
  • $€k$@Π
    มันน่าจะคิดได้มาตั้งนานล่ะ..
    10 ส.ค. 2563 เวลา 05.52 น.
ดูทั้งหมด