เปิดใจ หนุ่มขับ ‘ลัมโบร์กีนี’ ลุยน้ำท่วมเชียงใหม่ ตกใจกลายเป็นคนดัง เผยค่าซ่อม
จากกรณีมีการแชร์คลิปรถหรู ลัมโบร์กีนี สีเหลือง ขับลุยน้ำท่วมบนถนนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้กันชนท้ายของรถคันดังกล่าวหลุดออกมา เนื่องจากเจอกระแสน้ำที่สูง โดยรถคันที่ขับตามมาสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไปเจอรถคันหนึ่งซึ่งเหมือนกับรถคันในคลิป จอดอยู่ที่หน้าร้านคาร์ฟคาเฟ่ เชียงใหม่ บนถนนคันคลองชลประทานขาเข้าช่วง ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เมื่อสอบถามจึงทราบว่า เจ้าของร้านเป็นเจ้าของรถลัมโบร์กีนีสีเหลืองและที่สำคัญเป็นคันเดียวกับที่ตกเป็นกระแสไวรัลดังกล่าวด้วย
นายธเนศร์ ชมภูวิเศษ อายุ 38 ปี เจ้าของรถลัมโบร์กีนีสีเหลือง ได้พาชมรถที่ได้รับความเสียหายเฉพาะชุดแต่งด้านท้ายรถ หรือสเกิร์ตด้านท้ายเท่านั้น ส่วนตัวรถไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ตอนนี้ก็ยังรอซ่อมชิ้นส่วนที่หลุดออกไปและเก็บสีเล็กน้อย
ทั้งนี้ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจนำรถคันนี้ไปลุยน้ำเล่นแต่อย่างใด แต่จริงๆ แล้วน่าจะตกเป็นผู้ประสบภัยมากกว่า เนื่องจากวันเกิดเหตุขับรถไปทำธุระ ไปเลือกซื้อวัสดุก่อสร้าง แต่พอขากลับก็ขับมาตามทางแล้ว จู่ๆ ก็เพิ่งทราบว่าเส้นทางที่ขับไปนั้นมีน้ำท่วมขังลงมาบนผิวจราจร และช่วงที่ขับก็เป็นช่องทางด้านซ้ายสุดที่มีน้ำลึก จะขับออกมาทางช่องทางตรงกลางก็ไม่ได้ เนื่องจากมีรถกระบะขวางทางอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของคลิป ครั้งจะกลับรถ หรือจอดรถก็ไม่ได้กลัวน้ำจะเข้ามาในตัวรถ จึงจำใจขับลุยน้ำไปตามทาง
นายธเนศร์ยังกล่าวว่า ระหว่างที่ขับนั้นเห็นว่าส่วนของรถด้านท้ายหลุด แต่ก็จำเป็นต้องขับต่อไปอีกประมาณหลายร้อยเมตรจนพ้นช่วงที่น้ำท่วม จึงจะสามารถจอดรถได้เพื่อตรวจดูความเสียหาย หลังจากนั้นก็ได้เรียกช่างมาจัดการรถ แต่โชคดีที่ว่าในตัวรถแม้จะขับลุยน้ำที่สูงกว่าครึ่งล้อและตัวถังรถ แต่ก็ไม่พบว่ามีเข้ามาสร้างความเสียหายภายในรถแต่อย่างใด
นายธเนศร์กล่าวด้วยว่า หลังจากที่มีผู้โพสต์คลิปจนมีผู้คนสนใจจำนวนมาก ก็มีคนพยายามติดตามหาตัวเจ้าของรถ ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องตลกดี และก็ดีที่มีคนให้ความสนใจมากขนาดหลายล้านวิวที่แชร์กันออกไป ตนไม่ได้ติดใจเจ้าของคลิป แต่กลับนึกขอบคุณเสียอีกที่ตอนนี้กลายเป็นคนดังไปแล้ว
ทั้งนี้ อยากบอกว่าไม่ได้ตั้งใจเอารถไปลุยน้ำ เป็นใครก็ไม่อยากเอารถไปลุยน้ำแบบนั้นหากไม่จำเป็น จะเป็นรถแพงหรือไม่ก็ช่าง
“ตอนนี้รอซ่อม แต่ค่าซ่อมก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด อยู่ที่หลักพันเท่านั้น และช่วงที่เป็นกระแสเพื่อนๆ ที่รู้จักก็โทรมาถามหาด้วยความเป็นห่วง บ้างก็โทรมาแซวเพราะรถแบบนี้สีนี้มีไม่กี่คันก็จะรู้กันเองว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ก็มีสำนักข่าวหลายสำนักพยายามตามหา ผมเป็นคนที่นิ่งๆ เพื่อนที่สนิทกันจะรู้ว่าผมเป็นคนแบบไหนเลยไม่ได้ออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ จนกระทั่งวันนี้บังเอิญมาเจอกับผู้สื่อข่าวก็เลยยอมเปิดใจในเรื่องนี้ ซึ่งก็มองว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้คนรู้จักตัวเองมากขึ้น และฝากขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ” นายธเนศร์กล่าว