การเมือง

'ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.' โอด น้ำท่วมเชียงใหม่เกือบเท่าปี 54 ทำได้แค่ตะโกนถามหน้าบ้าน ปชช. ฝากหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ

MATICHON ONLINE
อัพเดต 04 ต.ค. 2565 เวลา 04.12 น. • เผยแพร่ 04 ต.ค. 2565 เวลา 03.31 น.

“ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.” โอด น้ำท่วมเชียงใหม่เกือบเท่าปี 54 ทำได้แค่ตะโกนถามหน้าบ้าน ปชช. ฝากหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ โวย จะทำอะไรก็พะวงหลังกลัวผิดกฎเหล็ก กกต.

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายบรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งเป็นผลพวงจากพายุโนรู

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าบนเทือกเขาไหลทะลักท่วมหลายพื้นที่ ทั้งที่ อ.เวียงแหง อ.เชียงดาว อ.ไชยปราการ เส้นทางสายแม่จา-เมืองแหง ดินสไลด์ ไม้ล้มขวางเส้นทาง พาดทับสายไฟฟ้าหลายจุด ตลอดสายทางพื้นถนนด้านล่างทรุดตัวเป็นโพรงขนาดใหญ่

นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ขณะที่ถนนโชตนา ช่วงระหว่าง อ.เชียงดาว เข้า อ.ไชยปราการ ถนนมีการทรุดตัว สุ่มเสี่ยงต่อการสัญจร สำหรับ อ.เชียงดาว พื้นที่ลุ่มได้รับความเสียหายจากน้ำที่เอ่อทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร ดินสไลด์ทับบ้านเรือนประชาชนที่บ้านห้วยตีนตั่ง น้ำพัดคอสะพานขาดที่บ้านห้วยทรายขาว ต.ทุ่งข้าวพวง ส่วนที่ อ.แม่แตง ดินถล่มสร้างความบ้านประชาชนจำนวนมาก นักท่องเที่ยวในเขต ต.เมืองก๋าย ต้องเดินเท้ากว่า 10 กิโลเมตร มาที่ศูนย์ชั่วคราวที่ อบต.เมืองก๋าย เนื่องจากเส้นทางสัญจรเสียหายอย่างหนัก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ด้าน น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. นายศรีเรศ โกฎคำลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. พร้อมด้วย น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำท่วมตั้งแต่คืนวันที่ 2 ตุลาคม ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ (4 ตุลาคม) โดย น.ส.ทัศนีย์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่าพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายหนักจากน้ำป่าทะลักลงแม่น้ำปิงจนถนนในท้องถิ่นพัง พี่น้องประชาชนต้องช่วยเหลือกันเองด้วยการสร้างคันกั้นน้ำซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรในท้องถิ่นริมแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันการกัดเซาะตลิ่งพังจากไม้ในพื้นที่และเสริมกระสอบทรายเพื่อความแข็งแรง โดยในเบื้องต้นได้ประสานงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเพิ่มเติมแล้ว

ขณะที่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และรองเลขาธิการพรรค พท. ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยกล่าวว่า หลังถูกน้ำป่าจากดอยเชียงดาวและใกล้เคียงไหลลงสู่แม่น้ำปิง จนเกินศักยภาพที่แม่น้ำจะรับได้ ระดับน้ำในแม่น้ำปิงสูงสุด ณ วันที่ 3 ตุลาคม อยู่ที่ 4.63 เมตร น้ำล้นตลิ่งจนไหลเข้าท่วมพื้นที่ตั้งแต่คืนวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ระดับน้ำเทียบเท่ากับปี 2554 ทำให้ ต.ช้างคลาน ต.ป่าแดด และพื้นที่ใกล้เคียงถูกน้ำท่วม ทั้งเมืองกลายเป็นอัมพาต สถานที่ราชการ วัด โรงเรียน ภาคเศรษฐกิจท้องถิ่น เช่น โรงแรมอนันตรา โรงเรียนมงฟอร์ด ไนท์บาซา กาดต้นลำไย ร้านอาหาร ไม่สามารถเปิดทำการได้ การคมนาคมไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เกือบ 100%

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายจักรพลกล่าวต่อว่า ตอนนี้การให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหยุดชะงักจากกฎเหล็ก 180 วันของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่กลายเป็นอุปสรรค ในภาวะที่พี่น้องประชาชนกำลังตกทุกข์ได้ยาก แต่ผู้แทนราษฎรที่พี่น้องประชาชนเลือกเข้ามาแก้ปัญหา ร่วมทุกข์-ร่วมสุข กลับไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างคล่องตัวและทันต่อความเดือดร้อน ไม่มีเวทีทำงานให้ ส.ส.เขต ตนทำได้เพียงตะโกนถามไถ่พี่น้องประชาชนหน้าบ้าน และประสานงานหน่วยงานท้องถิ่นซึ่งก็ประสบภัยเช่นเดียวกัน เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นไปด้วยความทุลักทุเล ไม่ทันการณ์ เช่น ประสานเทศบาลนครเชียงใหม่นำกระสอบทรายเข้าไปในพื้นที่เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังมีประชาชนส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊ก ขอความช่วยเหลือด้านอาหารแห้ง น้ำ และยารักษาเบื้องต้น ตนก็ทำได้เพียงให้หมายเลขโทรศัพท์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดต่อ เช่น ไฟฟ้า ประปา ฯลฯ หากเปรียบเทียบกับในอดีต วันแรกที่เกิดเหตุจะต้องโดยสารเรืออพยพพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วมสูง แจกจ่ายถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นไปแล้ว

“น้ำระลอกเดิมที่รอจะไหลผ่านไป รวมกับน้ำระลอกใหม่ เป็นสองระลอก ทำให้น้ำท่วมเกือบเทียบเท่าปี 54 แต่เราทำอะไรไม่ได้ เป็นได้เพียงสารตั้งต้น เป็นโทรโข่ง เรามีทีมงานก็ช่วยประชาชนไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ทำอะไรก็พะวงไปหมด ขยับแล้วจะผิดกฎหมาย สุดท้ายคนรับกรรมคือประชาชน” นายจักรพลกล่าว

ขณะที่พื้นที่ จ.ลำพูน นายรังสรรค์ มณีรัตน์ และนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรค พท. ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน หลังจากน้ำปริมาณมากได้ไหลเข้าท่วม 5 อำเภอในจังหวัดลำพูน ได้แก่ อ.ลี้ อ.ทุ่งหัวช้าง อ.เวียงหนองล่อง อ.บ้านโฮ่ง และ อ.ป่าซาง ปริมาณน้ำจำนวนมากสร้างความเสียหายให้กับวัดและโบราณสถานหลายแห่ง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน

ดูข่าวต้นฉบับ