ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ถอดรหัส ‘วงใน’ ว่าที่เบอร์ 1 เทคสตาร์ทอัพเชื้อสายไทย

Rabbit Today
อัพเดต 16 มิ.ย. 2562 เวลา 14.01 น. • เผยแพร่ 16 มิ.ย. 2562 เวลา 14.01 น. • โชติ เวสสวานิชกูล

 “ถ้าอเมริกามีเฟซบุ๊ก กูเกิล และอเมซอน เป็นบริษัทสตาร์ตอัปยักษ์ใหญ่ของประเทศ

ถ้าประเทศจีนมีอาลีบาบา และเทนเซ็นต์ เป็นบริษัทสตาร์ตอัปยักษ์ใหญ่ของประเทศ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ประเทศไทยก็คงจะมี ‘วงใน’ เป็นบริษัทสตาร์ตอัปยักษ์ใหญ่รายแรกของประเทศในอนาคต”

นี่เป็นคำพูดของ ‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท วงใน มีเดีย เว็บไซต์และแอปลิเคชันสุดฮิตในใจมิตรรักนักกิน ที่กำลังพา ‘วงใน’ ก้าวเข้าสู่หลักปีที่ 9

สัมภาษณ์ ยอด ชินสุภัคกุล CEO วงใน,Rabbit Today
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วงในเป็นแหล่งข้อมูลร้านกินดื่มทั่วประเทศไทยที่มีฐานข้อมูลมากกว่า 3 แสนร้านค้า มีคนเข้าเยี่ยมชมช่องทางต่างๆ ของวงในต่อเดือนร่วมๆ 9 ล้านครั้ง มีฐานสมาชิกอยู่กว่า 4 ล้านราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหัศจรรย์ของสตาร์ตอัปสายพันธุ์ไทยรายนี้ที่ยังคงไต่เพดานยอดตัวเลขต่างๆ แบบไม่หยุดยั้ง

“วงใน เป็นธุรกิจที่เกิดจากความคิดที่อยากให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลร้านอาหารได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ อยากกินอะไร ที่ไหนดี แล้วต้องมีคำตอบ ซึ่งแนวคิดของธุรกิจในช่วงแรกๆ เรายังไม่ได้สนใจเรื่องของรายได้เป็นหลัก แต่เราอยากทำให้คนได้มีโอกาสเข้ามาใช้งานวงใน ถ้าคนเห็นว่ามันมีประโยชน์ จำนวนของคนที่เข้ามามากขึ้น ก็จะเปลี่ยนเป็นการหารายได้ได้เอง แต่มันก็มีเวลาที่เราต้องอดทนอยู่กับมันนานพอสมควร”

สัมภาษณ์ ยอด ชินสุภัคกุล CEO วงใน,Rabbit Today
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ค้นหายอดฮิตติดวงใน

อาหารไทย/สตรีตฟู้ด/อาหารจานเดียว/ก๋วยเตี๋ยว/อาหารญี่ปุ่น/ชาบู/ปิ้งย่าง/อาหารเกาหลี/อาหารจีน/อาหารทะเล

สัมภาษณ์ ยอด ชินสุภัคกุล CEO วงใน,Rabbit Today

จากอาหารสู่ไลฟ์สไตล์รอบตัวคน

ช่วง 3 ปีแรก เป็นจังหวะเวลาที่เหนื่อย แต่เมื่อผ่านมาได้ มีคนติดตามมากขึ้น เริ่มเห็นรายได้อย่างเป็นรูปเป็นร่าง ก็สามารถเติบโตในปีถัดไปได้แบบโค้งหักศอก จากนั้นเขาก็เริ่มคิดต่อว่าจะไปในด้านไหนต่อดี ไปอาหารต่อ หรือความสวยความงาม หรืออื่นๆ ที่จะต่อยอดไลฟ์สไตล์ของคนให้รอบด้านขึ้น

หรือแม้แต่เรื่องของอาหารก็ต้องพัฒนาต่อ เช่น ร่วมมือกับฟู้ดเดลิเวอรี่อย่างไลน์แมน ให้สั่งผ่านวงในได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ยังมีการสร้างระบบเพื่อร้านค้า โดยนำเอา POS (Point of sale หรือระบบการขายหน้าร้าน) มาเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการร้านอาหารที่สนใจได้นำไปใช้งาน สะดวกต่อเชื่อมต่อวงในกับไลน์แมนได้เวลามีออเดอร์ สามารถคิดเงินผ่าน POS ได้ หรือแม้แต่การทำตลาดก็ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าที่ใช้ระบบนี้ของวงในเป็นจำนวนมาก

“ถ้าจะบอกถึงสิ่งที่ทำให้วงในเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ผมมองว่ามาจากแนวคิดในการขยายธุรกิจของเราไม่ซับซ้อนนะ ผมมองแค่เราจะทำประโยชน์ให้กับใครได้บ้างผ่านธุรกิจของเรา ตอนนี้เราทำประโยชน์ให้คนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลร้านอาหารได้แล้ว เราก็ขยับมาให้ประโยชน์กับร้านค้าผ่านระบบวงใน POS ซึ่งเริ่มต้นเราเปิดบริการให้ใช้ฟรีเลย แต่ก็มีบริการพิเศษที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ถ้าใครสนใจ ก็ลองศึกษาดูได้ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องอาหาร แต่ตอนนี้เราเริ่มจับกลุ่มความสวยความงาม เช่น สปา คลินิกเสริมความงาม ร้านทำผม หรือแม้แต่เรื่องการท่องเที่ยว ก็มีระบบสถานที่โรงแรม ท่องเที่ยว ที่เปิดจองได้เข้ามาด้วย”

สัมภาษณ์ ยอด ชินสุภัคกุล CEO วงใน,Rabbit Today

เสิร์ฟอาหารลงอินสตาแกรม

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ ตอนนี้วงในได้ขยายไลน์ธุรกิจเก๋ๆ อย่างคอร์สสอนทำอาหารในชื่อ ‘วงใน โค-คุกกิ้ง สเปซ’ (Wongnai Co-Cooking Space) ซึ่งได้จากการรวบรวมไอเดียทันสมัยผ่านสูตรอาหารต่างๆ ที่มีผู้บริโภคแชร์กันในช่องทางของวงใน และรวมถึงเมนูที่วงในมีการสร้างสรรค์ขึ้นมา เปิดเป็นคลาสสอนทำอาหารที่พุ่งเป้าไปยังกลุ่มสาวๆ สายออฟฟิศ อายุ 25-34 ปี ที่ชื่นชอบการทำอาหารสายอินสตาแกรม หรือก็คือทำอาหารเพื่อสร้างความสุข งานอดิเรก และเพิ่มทักษะให้แก่ตนเองแล้ว ยังเอาไว้อวดเพื่อนๆ ในอินสตาแกรมได้อีกด้วย โดยปัจจุบันสูตรอาหารมีอยู่เกือบ 2 หมื่นสูตร หลากหลายแนว เปิดคลาสทุกวัน สาวๆ คนไหนสนใจเข้าใจดูรายละเอียดได้ที่ www.wongnai.com/co-cooking-space

ที่ตั้ง: วงใน โค-คุกกิ้ง สเปซ ชั้น 6 True Digital Park ใกล้สถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี

เวลา: 11.00-20.00 น.

เบอร์ติดต่อ: 09-8994-6567

สิ่งที่เกิดขึ้นกับวงในตลอด 9 ปีมานี้ คงปฏิเสธไม่ได้ถึงความสำเร็จที่กำลังจะนำพาแบรนด์วงในให้ก้าวไปได้ไกลในระดับโลกได้ไม่ยาก แม้ ‘ยอด’ จะบอกกับ Rabbit Today ว่า ไม่คิดฝันว่าจะมาได้ไกลขนาดนี้ แต่เมื่อเส้นทางมันไปต่อได้ ก็ต้องขอตั้งเป้าทางธุรกิจต่อให้สุดทาง (แสดงให้เห็นถึงพลังของการเติบโตแบบสตาร์ตอัปจริงๆ)

“แรกๆ คิดแค่ว่าทำให้ได้ 3 ปีแรก มีทีมสัก 50 คน มูลค่าบริษัทประมาณหนึ่ง ผมก็พอใจแล้ว แต่ตอนนี้มันขยายขอบเขตธุรกิจกว้างขึ้น คนของเราก็เพิ่มกว่า 300 ชีวิต การเติบโตทางธุรกิจของปีก่อนก็โตมากกว่า 60%

ฉะนั้นเป้าหมายของเราเลยไกลขึ้นตามการเติบโต และผมก็ตั้งใจที่จะทำให้ได้ นั่นก็คือการเป็นบริษัทเทคโนโลยีหรือเทคสตาร์ตอัปเบอร์ 1 ของไทย”

อย่างไรก็ตาม หมุดหมายที่จะทำให้ไปถึงจุดนั้นได้ ‘ยอด’ ไม่มีการพูดถึงทริคหรือเคล็ดลับอะไรพิเศษนั้นๆ เพราะเขาบอกว่ามันไม่มีทริค มันมีแต่ว่าธุรกิจที่ทำอยู่ ‘สร้างประโยชน์’ ให้ผู้คนและสังคมแค่ไหน ถ้ามันมีประโยชน์ คนจะใช้เยอะโดยอัตโนมัติ

เพราะทริคมันแค่เปลือก แต่ประโยชน์ที่คนจะได้รับจากธุรกิจมันคือแก่นแท้ของความสำเร็จต่างหาก…

ประสบการณ์อยากแชร์

“มีคนไม่น้อยที่อยากทำธุรกิจ แต่มีความกลัว และไม่มั่นใจในสิ่งที่จะทำ ซึ่งผมมองว่านั่นคือความไม่ชัดเจนในเป้าหมาย ถ้าไม่มั่นใจ อย่าเพิ่งทำ ถามตัวเอง หยุดคิดก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่เรามั่นใจ เพราะการลงมือทำอะไรสักอย่างมันต้องเกิดจากความเชื่อ หรือตัวอย่างที่มันทำแล้วสำเร็จ ก็เอามาเป็นความเชื่อ เอามันมาเป็นแรงผลักดันครับ”

ดูข่าวต้นฉบับ