หนูแหม่ม สุริวิภา เปลือยชีวิต บ๊อบบี้ รัก 23 ปี แท้งมาแล้วมากกว่าสิบครั้ง
เป็นอีกหนึ่งคู่รักตัวอย่างที่หลายคนชื่นชอบ สำหรับ หนูแหม่ม สุริวิภา และ บ๊อบบี้ โรเบิร์ต พูนพิพัฒน์ ที่คู่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมากว่า 23 ปี ซึ่งชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย ล่าสุดทั้งคู่ ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ถึงเส้นทางรักของพวกเขา
คบกันมากี่ปีแล้ว?
หนูแหม่ม : “ถ้าแต่งงาน 23 ปีแล้วนะ”
บ๊อบบี้ : “ก่อนแต่งก็ 3 ปี ก็ 25 ปี รู้จักแหม่มผมอายุแค่ 17-18 ปี”
เขาว่ากันว่าพี่หนูแหม่มกับพี่บ๊อบบี้รักกันแบบสร้างภาพ จริงไหม?
หนูแหม่ม : “ไม่รู้สิ แล้วแต่คนจะบัญญัติมันว่าสร้างภาพ แต่จริงๆ เราอยากให้ทุกคนเห็นภาพที่ทุกคนพึงพอใจอยากจะเห็น ภาพที่มันทะเลาะกันอยู่ในบ้าน ให้มันเกิดขึ้นแต่ในบ้าน เราจะเอาภาพนี้ให้คนอื่นเห็นได้ไง มันก็ต้องมีทะเลาะตบตี มีทุกรูปแบบจะเอาเวอร์ชั่นไหน ถามว่าทะเลาะกันทุกวันไหม ทะเลาะกันเรื่องอะไรบ้างดีกว่า เราสามารถทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง คือน้ำเสียงที่พูดกัน บางทีมันทำให้เราขึ้น ปรับอยู่นานมากกว่าจะเข้าใจว่าอันนี้มันเป็นธรรมชาติของเขา เราแก้เขาไม่ได้ต้องแก้ที่เรา”
แล้วทั้งคู่มารักกันตอนไหน?
บ๊อบบี้ : “มาเมืองไทยครั้งแรกไม่มีเพื่อน พ่อให้ไปรู้จักกับยุทธการขยับเหงือก แล้วในนั้นมีผู้ชายหมดเลย มีผู้หญิงอยู่คนเดียว หน้าตาเหมือนฝรั่งเขาน่าจะพูดภาษาอังกฤษได้”
หนูแหม่ม : “ตอนนั้นพี่รู้สึกเฉยๆ มากเลย เหมือนเพื่อนคนหนึ่งที่เดินมาแนะนำเพื่อนอีกคนให้รู้จัก แต่คนที่ไม่เฉยคือกลุ่มยุทธการทั้งหมด ทุกคนก็ยุ”
ตอนนั้นพี่หนูแหม่มมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า ผู้ชายคนนี้ถึงไม่ได้อยู่ในสายตา?
หนูแหม่ม : “มี ถามว่าคบซ้อนไหม ไม่ได้คบซ้อน คบทีละคนนี่แหละ แต่ว่าช่วงจังหวะเวลาที่บ๊อบบี้เจอพวกพี่ ไม่ได้เจอกันแค่ 2-3 เดือน รู้จักกันมาตั้งหลายปี เขากลับไปเรียนแล้วพี่ก็อยู่ของพี่ พี่ก็ทำงาน พี่ชอบใคร พี่จีบ พี่คบเลย ไม่ใช่มาทีเดียว 3 คน”
จีบกันนานไหมถึงติด?
บ๊อบบี้ : “มันบังเอิญมาก จบโรงเรียนบริษัทส่งมาที่เมืองไทยให้ทำงานอยู่พัทยา ไม่มีแฟน ไม่มีเพื่อน มีแต่แก๊งนี้ บังเอิญแหม่มเปิดร้านดอกไม้ข้างๆ บ้านผม แถวพหลโยธิน”
หนูแหม่ม : “จะไปซื้อของ ซื้อนี้ที่ไหน พี่ก็ต้องเป็นธุระให้ เพราะเขาทำงานอยู่ในโรงกลั่นน้ำมัน เพราะฉะนั้นการเข้ามาในกรุงเทพฯ เขาไม่ได้มีรถประจำตำแหน่ง เพราะว่าเป็นตำแหน่งเงินเดือน 8000 บาท ทุกวันศุกร์จะโทรหาบอกว่าผมเลิกงานแล้วนะ ให้ผมนั่งรถทัวร์กลับไป เดี๋ยวผมจะแวะหาแหม่มนะ เป็นอย่างนี้ตลอด เวลาเราไปเล่นขยับเหงือกบ๊อบบี้ก็จะขอไปด้วย แล้วจะนั่งอยู่บนรถตู้ แล้วพี่อยู่ของพี่ไม่ได้เกี่ยวกัน จนแบบเอะผู้ชายคนนี้มันแปลกๆ ถามมันเลยดีกว่าบ๊อบบี้ที่ตามเนี่ยจะเป็นแฟนฉันหรือเปล่า ฉันจะได้รู้ จะได้ทำตัวถูก บ๊อบบี้ก็บอกว่าใช่เป็นแฟนก็ได้”
พี่บ๊อบบี้น่ารัก แต่อาจจะไม่หล่อเท่าแฟนที่พี่เคยคบมา พี่มองข้ามจุดนั้นยังไง?
หนูแหม่ม : “จริงๆ พี่บ๊อบบี้มีความน่ารักในตัวเขาอยู่แล้ว สองเขามีความอบอุ่น ให้เกียรติ แล้วเขาพร้อมที่จะปกป้อง”
พี่บ๊อบบี้เป็นผู้ชายขี้หึงเหรอ?
บ๊อบบี้ : “เมื่อก่อนหนูแหม่มเป็นดาราในฮอลลีวูดทุกดาราก็ต้องมีผู้ชายที่ชอบในวงการอะไรแบบนี้ แหม่มต้องมีแฟนแน่ๆ เพราะเขาไม่พูดถึง พี่ดู๋ (สัญญา คุณากร) หล่อ สูงด้วย เท่ด้วย ถามแหม่มพี่หนูแหม่มชอบเหรอ เพราะว่าแหม่มเขาไนซ์กับทุกคน ผมถามก่อน ผมแค่ถามแบบแหม่มใครในวงการอาจจะเป็นแฟนแหม่มก็ได้ เรารู้ว่าเราไม่สูง ไม่ขาว ไม่หล่อ ไม่มีตังค์เยอะ
แล้วตอนแต่งงานใครขอ?
หนูแหม่ม : “พี่ถามเลย คบกันมา 2 ปีแล้ว ทุกอย่างบ๊อบบี้กำลังจะเปลี่ยน บ๊อบบี้จะต้องเดินทางมากขึ้น แล้วอยู่ในแต่ละที่นานๆ ทีนี้เรามานั่งคุยกัน เขาบอกผมต้องเลือกว่าผมต้องไปทำงาน การเลือกของเขาอยากให้เรามีส่วนรับรู้ด้วย บ๊อบบี้ก็ถามว่าแหม่มเอาไง เราเลยบอกว่าถ้าเราคบกันแบบนี้เฉยๆ เสียเวลา เลยบอกว่าถ้าเราจะเดินต่อไปเราต้องเป็นครอบครัวไหม ต้องแต่งงานไหม บ๊อบบี้ก็เลยบอกว่าผมเห็นด้วย”
แล้วครั้งแรกที่รู้ว่ามีลูกไม่ได้?
บ๊อบบี้ : “เราแต่งงานเสร็จแล้ว เรากลัวมากเลยว่าแหม่มจะท้อง ตอนนั้นแหม่มทำงาน 7 รายการ เดี๋ยวจะกระทบงาน”
หนูแหม่ม : “ตอนนั้นอายุ 36 ปี เราเริ่มปล่อยให้เป็นธรรมชาติ ปล่อยได้สัก 1-2 ปี มันเริ่มแบบไม่ติด ไปหาหมอ ทำตั้งแต่สเต็ปที่เบาสุด จนถึงผสมในหลอดแก้ว ทำทุกอย่างตอนแรกมันก็ติด เราก็กรี๊ดกันทั้งบ้าน พอ 3 เดือนก็ดิ่งลง มันทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ตอนนั้นเสียใจทั้งคู่เลย เราร้องไห้ในบ้านจนไม่รู้จะร้องไห้ยังไง บ๊อบบี้เห็นทุกครั้งเวลามันเจ็บ ตอนใส่ก็เจ็บ ตอนแท้งก็เจ็บ เจ็บเหมือนรถบดถนน มันบดมดลูกเรา พี่เคยแท้ง ขณะที่แท้ง หมอบอกว่ามันขูดไม่ได้ ต้องรอ ทุกอย่างมันเกาะหมดแล้ว แต่ว่ามันไม่มีหัวใจมันฝ่อ แต่ว่าการฝ่อก็คือการแท้ง แต่วิธีการแท้งมันก็มีตั้งหลายแบบ เราก็โดนมาแล้วทุกแบบทั้งขูดออก เขี่ยออก ให้ออกเอง เพราะว่าพี่ทำเป็นสิบครั้ง จนแบบพี่นั่งบนรถเวลาแท้งพี่ต้องโหนไว้แล้วก้นเนี่ยพี่ลอยจากจากเบาะตลอดเวลา เพราะมันเจ็บมาก มันบีบไปหมด พี่อายุ 40-41 พี่ก็เลยมานั่งคุยกันบอกว่าบ๊อบบี้เรามาถึงจุดที่เราต้องหยุดเปล่า ถ้าเราฝืนมันมากเกินไป บางทีลูกออกมาขาดกับเกิน ทีนี้เรามานั่งคุยกันเมื่อเราต้องเผชิญกับปัญหานั้นเราพร้อมไหม แล้วเราจะเดินไปด้วยกันยังไง แล้วใครจะตายก่อน ถ้าเผชิญพร้อมกันเราจะสู้ แต่ถ้าไม่เราจะหยุด บ๊อบบี้ก็เลยบอกว่าผมเห็นว่าแหม่มเจ็บมาก”
พี่หนูแหม่ม พี่บ๊อบบี้อยากมีลูกมาก ในฐานะที่เราเป็นภรรยา เราจะช่วยอะไรได้บ้าง?
หนูแหม่ม : “พี่รู้ว่าบ๊อบบี้อยากมีลูกมาก แล้วครอบครัวเขาก็คาดหวังว่าอยากให้มี พี่รู้สึกว่าคงหมดทางเราแล้วแหละ พี่บอกบ๊อบบี้ว่าไออนุญาตให้ยูมีเมียใหม่ จะเป็นน้อยหรือเป็นหลวงแล้วแต่เธอเลย เธอจัดการกับมันได้เลย ฉันจะอยู่ในพื้นที่ของฉัน ในวันนั้นพี่พูดจริงๆ แต่พี่ไม่รู้ว่าถ้าเกิดขึ้นจริงๆ พี่จะทำได้ไหม แต่รู้สึกว่าพี่ยอมรับอันนี้ได้”
วันที่พี่แหม่มพูดพี่บ๊อบบี้รู้สึกยังไง?
บ๊อบบี้ : “หลอกป่ะเนี่ย แหม่มพูดเพราะว่าเขาเห็นผมอยากมีลูกมาก แล้วที่บ้านด้วย แต่สุดท้ายผมไม่ได้ทำแบบนั้น ผมให้เกียรติแหม่ม ผมรักเขามาก”
หนูแหม่ม : “ถ้าถึงจุดนั้นจริงๆ เราคงต้องยอม เพราะเราไม่พร้อมกับกระบวนการอื่นๆ เลย อย่างเช่น ฝากท้อง ฝากให้คนอื่นท้อง เอาลูกคนอื่นมาเลี้ยง พี่รู้สึกว่าพวกเรายังไม่พร้อมที่จะมาถึงจุดนั้น แล้วหลังจากนั้นบ๊อบบี้ก็แสดงให้เห็นว่า ผมไม่ไปในทิศทางที่แหม่มบอกหรอก ต่อให้วันนั้นผมอยากมีลูกมากแค่ไหนก็ตาม เราเลยบอกว่าบ๊อบบี้ต่อไปนี้เราสองคนไปเที่ยวไหนไปกัน เรามีกันแค่สองคน เพราะฉะนั้นเราทำเพื่อเราสองคนในวันนี้ บ๊อบบี้อยากทำอะไร อะไรที่เป็นความสุขเราให้ทำ บ๊อบบี้อยากไปเที่ยวผับ เที่ยวคลับ บาร์ แบบไหนจัดให้หมด อาจจะเป็นความสุขอันเดียวในชีวิตที่เขามี ในวันที่เขาเป็นอิสระที่สุดก็ได้ พี่รู้สึกว่าต่อไปนี้อะไรที่เป็นความสุขเราจะทำให้กันและกัน แต่พี่ไม่ให้พี่บ๊อบบี้เที่ยวไกลเดี๋ยวโดนตำรวจเป่าเช็กเมา ก็เลยให้เที่ยวใกล้บ้าน”
ถ้าวิทยาศาสตร์ไม่ได้ไสยศาสตร์ไหมไปขอ?
หนูแหม่ม : “ตอนนี้ถ้าพี่ได้ลูกแล้วพี่ต้องไปแก้บนนะ พี่ต้องตั้งโต๊ะแก้บนกลางสนามหลวง เพราะพี่จำไม่ได้ว่าขออะไรไป แล้วพี่สัญญาอะไรไว้บ้าง”
แล้วเรื่องทะเลาะ ทะเลาะกันขนาดไหน?
หนูแหม่ม : “เก็บของออกจากบ้าน ถ้าโกรธสุดขีดจะไม่พูดด้วยเป็นอาทิตย์ ถ้าสุดขีดไปอีกก็จะเก็บของออกจากบ้านไปเลย พี่ไปนอนโรงแรม พี่ปิดโทรศัพท์ ไม่มีใครรู้ว่าพี่ไปไหน มันเคยมีเกือบหย่ากัน แล้วบอกว่าเราหยากันเถอะ ต่างคนต่างไปดีไหม เพราะว่าเหมือนเราไม่เข้าใจ แล้วตอนนั้นทะเลาะกันแค่เรื่องวัฒนธรรมที่มันแตกต่างกัน เราถูกเลี้ยงมาคนละแบบ อีกคนเลี้ยงแบบต้องสู้ด้วยตัวเอง แต่อีกคนเติบโตมาในแบบที่มีแต่ครอบครัว ถ้าให้พี่เลือกระหว่างบ๊อบบี้กับครอบครัววันนั้นที่เราคุยกันพี่เลือกครอบครัว แต่จุดนั้นพอเราเริ่มขอหย่ากัน แล้วเรามานั่งคุยกันมันทำให้เรารู้ว่าจริงๆ การที่มีคนละวัฒนธรรม หรือการโตมาคนละแบบ เราต้องมองคนละแบบแล้วต้องเข้าใจของอีกฝ่ายให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ ทุกวันนี้ก็เลยอยู่ด้วยกันได้”
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.35-14.35 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ : หนูแหม่ม-บ๊อบบี้
nicha เขียนหัวข้อข่าวใด้ไงว่าทำแท้ง เขาแท้งเองตะหาก .ข่าวมั่ว
24 ก.ค. 2562 เวลา 02.41 น.
น่ารักมากรักเลยคู่นี้ฉลาดคิดเข้าใจชีวิตสุดดดรักแท้มีหยู่จริงกราบบบ🙏
17 ก.ค. 2562 เวลา 14.54 น.
KukKai พาดหัว ทำให้เข้าใจผิดมาก
17 ก.ค. 2562 เวลา 12.16 น.
🐷หน่อย🧚 ชอบคู่นี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ เพราะเราก็อยู่กับแฟนมา26ปีแล้ว ไม่มีลูกเหมือนกันค่ะ และก็คงจะไม่มีโอกาสแล้วด้วยล่ะค่ะ
17 ก.ค. 2562 เวลา 12.12 น.
ทําแท้ง กับ แท้งเอง มันคนละความหมายนะคับ
17 ก.ค. 2562 เวลา 11.56 น.
ดูทั้งหมด