กระแสข่าวว่า "ทักษิณ ชินวัตร" ไม่เปิดบ้านในนครดูไบเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 70 ปีในไม่กี่วันข้างหน้านี้ หลายคนตีความว่าคนแดนไกลจะไม่ใส่ใจการเมืองไทยแล้ว…
แต่นัยไม่ใช่แบบนั้น..เพราะคนที่ชื่อทักษิณยังคงติดตามจังหวะการเมืองทุกระยะและรู้ว่า "เวลาใดควรถอย ยามใดควรขยับ"
การถอยคราวนี้ที่ส่งข้อความมาถึงมิตรสหายว่าปีนี้งดร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ร่วมกันนั้น มันคือการหมอบชั่วขณะ?
การหมอบชั่วขณะนั้น แว่วเหตุผลมาว่าหลังการเปิดซูเปอร์ดีลจากฮ่องกงในช่วงต้นปีกับบทบาทของพรรคไทยรักษาชาตินั่นเอง ที่ตอนนั้นคนแดนไกลกล้าเล่นไพ่เสี่ยงใบสุดท้ายและโยนออกมา จากนั้นไม่นานคนแดนไกลมารู้ตัวว่า "โยนพลาด"
แปลความการโยนไพ่ใบสุดท้ายได้ไม่ยากสำหรับนักวิเคราะห์การเมืองไทยว่า "ทักษิณพลาดในหมากครั้งสุดท้ายและหมดเวลาแก้ตัว"
เห็นง่ายๆ หลังจากนั้นไม่นาน "รายการ Good Monday" ที่คนแดนไกลจัดรายการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ก็ม้วนเก็บฉาก มินับรวมการโพสต์หลากเรื่องราวของเจ้าตัวในหลากช่องทางก็ค่อยๆ จางไป ส่วนลูกโอ๊คก็เช่นกันเพราะนิ่งไปพักใหญ่แล้วกับการแสดงความเห็นทางสังคมออนไลน์ เหลือแค่น้องปูที่พอจะยังมีจังหวะขยับตัวมาโพสต์บ้างบางคราว
ดังนั้นการวางมือทางการเมืองคือละครบทหนึ่งที่วางโครงเรื่องไว้ว่าลีลาของคนแดนไกลนั้น เสมือนว่าจากนี้ไปจะอยู่นิ่งๆ แต่จริงๆ แล้วคนแดนไดลเล่นบท "แกล้งตาย" มากกว่า
การแกล้งตายที่น่าจะยาวนานครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าตัวน่าจะรู้อะไรบางอย่างมาแล้ว…เกี่ยวกับวิถีในกาลหน้า
แต่หลังฉากแล้วคนแดนไกลยังดูแลลูกชายคนเล็กที่ชื่อเพื่อไทย เพราะมันคือพรรคอันดับหนึ่งที่เป็นหมากตัวหลักของคนแดนไกลและคนแวดล้อม วันนี้เพื่อไทยแปรสภาพจากพลังประชาชนและไทยรักไทยในวันวาน
คะแนนนิยมของเพื่อไทยยังคงเป็นจุดขายที่คนในภูมิภาค (ยกเว้นปักษ์ใต้รวมทั้งกทม.ชั้นใน) ที่ชาวบ้านยอมรับสูงและยากที่พรรคอื่นๆ จะเจาะได้ง่ายๆ
ดังนั้นยากยิ่งที่คนแดนไกลจะดูดายและนิ่งเฉยกับจังหวะของเพื่อไทย แม้วันนี้พรรคสีส้มจะมาแรงและกำลังทาบรัศมีก็ตาม
ที่ผ่านมาคนการเมืองขั้วหัวก้าวหน้าในพรรคเพื่อไทยอยากให้ภาพตระกูลชินวัตรพ้นไปจากพท. เพราะต้องการสร้างพรรคให้โตได้เอง แต่ความพยายามนี้โดนล้มโต๊ะไป จนขั้วหัวก้าวหน้าและคนเสื้อแดงบางส่วนเตรียมแผนตั้งพรรคเองแล้ว
ดังนั้นการแกล้งตายดังกล่าวของคนแดนไกลมิเกี่ยวกับการวางแผนเดินหมากให้พรรคเพื่อแม้วทั้งหลายเพราะคนวงในบอกว่าคนแดนไกลยังร่วมวิเคราะห์และเคาะโต๊ะอยู่และไม่กี่วันข้างหน้านี้จะรู้ว่าพรรคอะไหล่พรรคใหม่ของเพื่อไทยนั้นใครจะไปนั่งทำงานบ้าง…เนื่องจากคนแดนไกลรู้ว่าหากกติกาหลักของประเทศฉบับนี้ยังบังคับใช้…การแตกแบงก์พันเป็นแบงก์ย่อยต้องนำมาใช้อีก แม้ตอนนี้เจ็ดพรรคต้านลุงตู่จะวางโปรแกรมรณรงค์ให้สังคมตื่นตัวและร่วมหนุนการแก้รัฐธรรมนูญก็ตาม
แต่ความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จนั้นน่าจะเหนื่อยยิ่งกว่าเหนื่อย….
ดังนั้นยามนี้คนแดนไกลคิดเกมแตกเซลล์แยกคนที่ไม่ลงรอยกันออกมาแล้วเตรียมไปขึ้นโครงสร้างพรรคใหม่รวมทั้งวางกลยุทธ์กุมสภาพการเมืองท้องถิ่นให้มาอยู่ในสาแหรกเพื่อไทยให้ได้มากที่สุดก่อนจะเป็นสิ่งสมควรทำในยามนี้และยามหน้า
เนื่องจากภาวะครม.ลุงตู่ 2 แม้ลุงตู่จะมีผนังทองแดง-กำแพงเหล็กไว้ประคอง "เรือเหล็ก" ยามลงไปเผชิญแผ่นน้ำและคลื่นลม แต่ภาวะเสียงปริ่มน้ำและความสามัคคีคนละทางที่สังคมแลเห็นกับรัฐนาวาประยุทธ์ 2 คือการบ้านที่ขั้วต้านลุงตู่ต้องทลายและมันมีโอกาสเป็นไปได้ไม่น้อยเพราะเรื่องเรือล่มปากอ่าวแบบนี้เกิดได้ทุกขณะกับการเมืองไทย
การวางบุคคล พรรค แคมเปญ ไว้รองรับจึงต้องเร่งเคลื่อนโดยน่าจะเห็นผลเบื้องต้นในเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
ความจริงแล้วสาแหรกของพรรคเพื่อแม้วนั้นแม้วันนี้ไม่มี ทษช.ในสารบบ แต่ประชาชาติ เพื่อชาติ เสรีรวมไทย ยังมีช่ื่อความเป็นพรรคการเมืองปรากฏอยู่ แต่พรรคเหล่านี้มันก็มิใช่แบรนด์ที่จะใช้เพื่อบอกสังคมว่าพรรคเหล่านี้คือพรรคสาขาของเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ
และอย่าลืม "เพื่อธรรม" ที่เคยฮือฮามาช่วงหนึ่งว่าเป็นพรรคสาขาเบอร์ต้นๆ ของพท. แต่ยามนั้นเพื่อธรรมต้องหมอบให้ทษช.รับบทพรรคสาขาอันดับสองของเพื่อไทยไปแทน
ยามนี้พรรคเพื่อธรรมจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำมาปัดฝุ่นแล้วผนวกบางส่วนที่ทษช.ขึ้นโครงไว้แล้วเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็นแบรนด์เบอร์สองของเพื่อไทย
ส่วนเกมปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทยเพลานี้ชัดแล้วว่าการประสานสิบทิศของขั้วเมืองหลวงที่นำโดย"คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" กุมสภาพบริหารพรรคเพื่อไทยได้เกือบเต็มตัว ส่วน "คนตึกชิน" คือ "ภูมิธรรม เวชยชัย" ยอมถอยตัวจากเก้าอี้พ่อบ้านพรรค ทั้งๆ ที่อยู่มาร่วมสองทศวรรษ รวมทั้ง "พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล" ก็ประกาศวางมือทางการเมืองและไปลุยธุรกิจเต็มตัว
ใครต่อใครรู้กันทั่วว่า "พี่อ้วนและเฮียเพ้ง" นั้น อยู่ในขั้นสายตรงคนแดนไกลมิน้อยหน้าเจ๊หน่อย แต่อาการที่เจ๊หน่อยปล่อยให้คนในขั้วออกมาตำหนิการทำงานของใครบางคนในพรรคแบบเย้ยฟ้าท้าดินนั้น รวมทั้งการแสดงพลังในหลากวาระ วันนี้ใครหลายคนยอมถอยให้เจ๊หน่อยแสดงบทนำแบบมิค่อยยินยอม…
เมื่อเจ๊หน่อยสวมบทประธานยุทธศาสตร์พรรคที่อยู่จุดบนสุดเหนือกว่า "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรค และเว้นทางให้นักเลงวังน้ำเย็นคือ "เสนาะ เทียนทอง" รับหน้าที่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคอีกทางหนึ่งเพื่อรักษาหน้าและบารมีของป๋าเหนาะไว้
ส่วนองคาพยพที่จะเป็นแขนขาในการปฏิรูปพรรคให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีสัดส่วนมากขึ้นในสังคมไทยและเป็นสิ่งที่พรรคสีส้มตีจุดนี้แตกก่อนพรรคอื่นๆ นั้น ยามนี้คนในเครือเจ๊หน่อยเข้ามาดูแลงานนี้ อาทิ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รับหน้าที่เลขาธิการพรรค น.อ.ศิธา ทิวารี จะสวมบทกุนซือประจำกายเจ๊หน่อย รวมทั้งว่านเครือการเมืองที่เจ๊หน่อยนำมาแทรกในทุกอณูของการกุมสภาพพรรค
แม้ขั้วเมืองหลวงจะสวมบทนำได้ในพรรคเพื่อไทยราวร้อยละ 70 และแบ่งให้แกนนำภาคอื่นๆ ที่อยู่ในช่วงวัยเก๋ามารับหน้าที่ด้วยนั้น เพราะคนแดนไกลไม่ปล่อยให้เจ๊หน่อยลุยเดี่ยว ดังนั้นคนแดนไกลจึงส่งตัวแทนภาคต่างๆ มาไว้ในโครงสร้างพรรคคละเคล้าไปเพื่อคานอำนาจ
และใครหลายคนบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่รอดูบทของเจ๊หน่อยวันนี้ว่าจะพาเพื่อไทยถึงฝั่งตามที่แจ้งเจตจำนงไว้และรอยลว่าจะเดินย้ำรอยเดิมเมื่อครั้งเป็นแม่บ้านพรรคพลังผักหรือไม่
เกมนี้น่าติดตามยิ่ง…
B วางได้ไง ลงไปเยอะ ไหนจะทรัพย์ที่โดนยึดอีก ต้องเอาคืนก่อนดิ
16 ก.ค. 2562 เวลา 04.56 น.
kai กลยุทธ จั๊กจั่นลอกคราบ
16 ก.ค. 2562 เวลา 05.08 น.
sakchai หลับให้สบายครับท่าน
16 ก.ค. 2562 เวลา 04.57 น.
ปีกฟ้าสันติภาพ ดี่ที่สุด หันไปทำธุรกิจต่างประเทศเต็มตัว สร้างองค์ความดี ปล่อยให้ประเทศไทย ไปตามกระแสที่เป็นไป สร้างทุนระหว่างประเทศ ให้โอกาสคนไทยทำมาหากิน
ผันตัวเป็นที่ปรึกษาธุรกิจระหว่างประเทศ
16 ก.ค. 2562 เวลา 06.26 น.
🇹🇭 say3684 🐯 อมขรี้มาพูดใครจะเชื่อครับ
16 ก.ค. 2562 เวลา 05.57 น.
ดูทั้งหมด