ไลฟ์สไตล์

คนตาบอดไม่ต้องถอดรองเท้า - สมจุ้ย เจตนาน่าสนุก

THINK TODAY
เผยแพร่ 30 ม.ค. 2562 เวลา 03.24 น. • สมจุ้ย เจตนาน่าสนุก
ป้ายบริเวณหน้าห้องน้ำ ร้านอาหารบนถนนสายเอเซีย

ผู้พิการทางสายตา อาจไม่ใช่คนตาบอด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คนจำนวนมากอาจเข้าใจผิดว่า คำเรียก "ผู้พิการทางสายตา" เป็นคำสุภาพกว่าคำว่า "คนตาบอด" 

แต่คุณต่อพงศ์ เสลานนท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยฝากบอกต่อมาเพื่อให้เราสื่อสารคำที่ถูกความหมายและตรงกับสิ่งที่คนตาบอดอยากให้ใช้เรียกขานกันมากขึ้น

"คำว่า 'พิการทางสายตา' จริงๆ มีหลายอย่างมาก เช่น ตาบอดสองข้าง ตาบอดข้างเดียว สายตาสั้น สายตาเอียง ตาบอดสี ฯลฯ เป็นความหมายที่กว้างมากและไม่ใช่คำศัพท์ที่ตรงกับพวกเราครับ ถ้าศัพท์ที่ตรงกับพวกเราจริงๆ จะใช้คำว่า 'คนพิการทางการเห็น' หรือ 'คนตาบอด" 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ถ้าเรียก 'บอด' เฉยๆ โดยไม่มีคำว่า "คนตาบอด' ฟังแล้วจะรู้สึกเหมือนเหยียด ในมุมมองพวกเราแล้ว เราอยากให้ใช้คำว่าคนตาบอดครับ”

……………………

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

โดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะยกเว้น หรือมอบสิทธิพิเศษให้กับคนพิการ เนื่องจากเห็นว่า เขาเป็นคนที่ขาดอวัยวะบางอย่าง มีต้นทุนไม่เท่ากับคนอื่นๆ

เป็นต้นว่า ได้รับโอกาสให้ไม่ต้องเล่นกีฬาในชั่วโมงพละ หรือว่าครูยกเว้นให้ทำการบ้านเฉพาะบางข้อ

ในขณะที่คนพิการอีกบางคนซึ่ง ขยัน มานะ อดทน และพัฒนาฝีมือได้ยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ค่อยขยัน

ตอนเป็นวัยรุ่น มีวงดนตรีคนตาบอดมาเล่น ที่ใต้ถุนคณะ  

คนตาบอดไม่เห็นหรอกว่านิสิตหนุ่มสาวที่ดูอยู่ จะมีวัยรุ่นบางคนที่กำลังอยากจะเล่นดนตรีนั้น ได้ฟังได้มองและแอบอิจฉา

มันถามตัวเองว่าทำไมคนตาบอดวงนั้นจึงเล่นดนตรีได้อย่างมีอรรถสยิ่ง

วัยรุ่นคนนั้นฟังเพลงไปก็มองมือมองเท้าของตัวเอง แล้วตั้งปณิธานกับตนว่า จะกลับมาฝึกฝนพัฒนาการเล่นกีต้าร์งูๆ ปลาๆ ของตัวเอง ให้ดียิ่งขึ้น 

มันบอกกับตัวเองว่า เอ็งคิดดูสิ คนตาบอด เขามองไม่เห็นคอร์ด บนคอกีต้าร์เขายังอุตส่าห์จับคอร์ดยากๆได้ เล่นเป็นเพลง ไม่ก๊องๆ แก๊งๆอย่างกับที่เอ็งเล่นอวดสาวอยู่ใต้ถุนคณะ

พอวงคนตาบอดกลับไป ไฟที่เคยมอด ก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง

มันตั้งอกตั้งใจ เล่นดนตรีให้ดีขึ้น

เป็นแรงบันดาลใจที่ส่งต่อมา ให้วัยรุ่นคนนั้น เชื่อมั่นในพลังของมนุษย์ พลังของตัวเอง และมุมานะ กับการดนตรียิ่งขึ้นไปกว่าก่อน

จนกระทั่งเมื่อได้มีโอกาสฝึกฝน ศึกษา พัฒนาดนตรีมากๆ ยิ่งขึ้น 

จึงพบว่า อันคนตาบอดส่วนมากที่พานพบ สามารถเล่นดนตรีได้ดีนั้น ก็เป็นเหตุเป็นผลถูกต้องอยู่แล้ว

เนื่องจาก ดนตรีเป็นเรื่องของเสียง 

คนตาบอดขาดโอกาสในการมองเห็น จึงพัฒนาศักยภาพของการฟังเสียง เพื่อชดเชยทักษะทางการเห็นซึ่งขาดหายไป

พวกเขาจำต้องฟังให้มาก และในที่สุดก็มีความแม่นยำกับการฟังดีขึ้น เมื่อการฟังดีขึ้นการพัฒนาทางดนตรีจึงโดดเด่น

อีกหนึ่งเกร็ดความรู้ที่คนตาบอดไม่ชอบให้ใช้ คือ คำว่า "จูงคนตาบอด" เพราะมีความหมายเหมือนกับถูก "ลากจูง" 

ควรใช้คำว่า "จับมือคนตาบอด" ก้าวเดินไปด้วยกัน ฟังดูอบอุ่นกว่ากันเยอะเลย

(อันนี้ทาง ทีมงาน #ปักจิตปักใจ ฝากบอกมา)

เคยมีโอกาสได้ทำหน้าที่ คอยดูแล ศิลปินตาบอดจากเมืองไทยไปแสดงที่ประเทศญี่ปุ่น จำได้ว่าเวลาผ่านด่านตรวจตราต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่จะได้รับสิทธิพิเศษคือไม่ต้องต่อคิว เช่นคนปกติทั่วไป

เขามักจะเปิดช่องทางพิเศษ หรือช่วยในการลัดคิวให้ 

ซึ่ง คนที่จิตใจไม่พิการ ก็คงสามารถเข้าใจได้ คงจะไม่ว่ากระไร ไม่เรียกร้องว่าคนเราต้องเท่าเทียมกันเสมอไป ในเมื่อคนพิการมีต้นทุนที่ขาดแคลนกว่า

แต่เอ๊ะ ทำไมร้านอาหารในประเทศไทย ร้านหนึ่งร้านนี้ จึงยกเว้นหรือมอบสิทธิพิเศษ กับการถอดรองเท้าให้คนตาบอด

ในเมื่อคนตาบอดไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรองเท้านี่นา

เราถอดรองเท้า เดินเข้าห้องน้ำ รู้สึกได้ถึงความสะอาดของพื้นห้องน้ำ

ปัสสาวะเสร็จแล้ว ค่อยๆ เดินออกมาใส่รองเท้า

พลางสงสัยค้างคาใจในปริศนาของป้ายนี้

คนตาบอดไม่ต้องถอดรองเท้า

แต่เราคนตาดี ต้องถอด

ทำไมหนอทำไม?

ความเห็น 10
  • jonathan
    เค้าแค่กลัวคนตาบอดจะกลับมาหารองเท้าตัวเองไม่เจอรึเปล่า
    30 ม.ค. 2562 เวลา 11.16 น.
  • Jam Nahatai
    เป็นการเหน็บแนมคนตาดีที่ไม่ปฏิบัติตามได้อย่างแสบทรวง
    30 ม.ค. 2562 เวลา 11.49 น.
  • John
    คนตาบอดจะอ่านป้ายเห็นไหม
    30 ม.ค. 2562 เวลา 11.42 น.
  • 🎯KrittyOrtho
    คนเรามักจะเลือกมอง เลือกฟังที่ตนชอบ พอไม่ชอบจะทำ ก็แกล้งไม่มอง เหมือนคนตาบอดไหมละ ..คนเขียนจะสอนแบบนี้ไง
    30 ม.ค. 2562 เวลา 14.42 น.
  • Surarit
    เค้าด่าคนที่มั่วไม่ยอดถอดรองเท้าว่า ไอ้คนตาบอด ไง แต่สงสัยว่าทำไมติดป้ายไว้หน้าห้องนำ้ผู้หญิง คิดได้หลายอย่างนิ
    30 ม.ค. 2562 เวลา 11.42 น.
ดูทั้งหมด