รถไฟฟ้าล้อยางไร้คนขับขบวนแรกของไทย ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง
นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด(เคที) วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง ช่วงสถานีกรุงธนบุรี- สถานีสำนักงานเขตคลองสาน(รถไฟฟ้าสายสีทอง) ที่กรุงเทพธนาคมได้รับมอบหมายจากกรุงเทพมหานครให้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเชื่อมต่อการเดินทางล้อรางเรือเพื่อคนกรุงเทพฯ
โดยระบุว่าหลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กำหนดการจัดส่งขบวนรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองต้องเลื่อนจากเดือนเมษายน2563 ที่กำหนดไว้เดิม ล่าสุดขณะนี้ทางบริษัทผู้ผลิตในจีน ได้จัดส่งขบวนรถไฟฟ้าในเส้นทางดังกล่าวมาแล้ว โดยขบวนรถจะมาถึงไทย ในวันที่10 มิถุนายน2563 นี้ โดยจัดส่งมาก่อน1 ขบวนมี2 ตู้โดยสาร จากจำนวนที่จัดซื้อทั้งหมด3 ขบวน โดยขบวนที่เหลือจะจัดส่งมาภายหลัง
รถไฟฟ้าสายสีทอง เตรียมทดสอบระบบในช่วงเดือน มิ.ย. - ก.ย. นี้ ก่อนเปิดให้บริการช่วงปลายเดือน ต.ค. 63
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง จะใช้รถรุ่นBombardier Innovia APM 300 ซึ่งผลิตจากเมืองอู่หู มณฑลอานฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อรถมาถึง และผ่านพิธีการทางศุลกากรแล้วจากนั้นจะมีการนำขบวนรถไฟฟ้ายกขึ้นสู่โรงจอดและซ่อมบำรุงที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อเตรียมการทดสอบระบบในช่วงเดือน มิถุนายน- กันยายน และทดสอบการเดินรถเสมือนจริง(Trial Running) ในเดือนกันยายน ก่อนเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนตุลาคม2563 นี้ ซึ่งกำลังเร่งรัดงานในส่วนที่ล่าช้าจากผลกระทบโควิด-19
รถไฟฟ้ารูปแบบไร้คนขับ ความจุผู้โดยสาร137 คน/ขบวน
สำหรับรถไฟฟ้ารุ่นBombardier Innovia APM 300 มีความพิเศษคือ เป็นระบบที่ใช้เป็นรถไฟฟ้ารูปแบบไร้คนขับโดยใช้รางนำทาง มีผิวสัมผัสระหว่างล้อและทางวิ่งเป็นยาง ซึ่งจะทำให้เกิดความนุ่มนวล และก่อให้เกิดเสียงรบกวนต่ำ ความเร็วการทำงานสูงสุดที่80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขบวนรถที่ใช้ในระบบมีทั้งหมด3 ขบวน ขบวนละ2 ตู้ โดยใช้รับส่งผู้โดยสารจำนวน2 ขบวน และสำรองไว้ในระบบ1 ขบวน ความจุผู้โดยสาร137 คน/ขบวน รถไฟฟ้ามีความกว้าง2.8 เมตร ความยาว12.75 เมตร ความสูง3.5 เมตร ประตูมีความกว้าง1.9 เมตร ความสูงของพื้นรถ1.1 เมตร น้ำหนัก16,300 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้างานก่อสร้างโรงจอดและซ่อมบำรุง รวมถึงสถานีกรุงธนบุรี(G1) สถานีเจริญนคร(G2) และสถานีคลองสาน(G3) มีความก้าวหน้าภาพรวม88 % แบ่งออกเป็นความก้าวหน้างานโยธา93% และความก้าวหน้างานระบบการเดินรถ81%
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่และการท่องเที่ยวย่านฝั่งธนบุรี โดยจะมีสวนพระปกเกล้าสกายปาร์คแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และโครงการยังเชื่อมต่อการเดินทางของเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
ToTone ไม่ใช้ระบบเดียววิ่งได้ทุกที่ แยกเป็นหลายๆอย่าง คง..... แน่นอน
28 พ.ค. 2563 เวลา 16.10 น.
Sittichai 2559 คนคิด ไม่ได้ใช้...คนใช้ ไม่ได้คิด
28 พ.ค. 2563 เวลา 15.56 น.
NAAT_CHA เพิ่งรู้ว่ามีโครงการรถไฟฟ้าลักษณะนี้
แต่ยังไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นแบบมีล้อ และมีข้อดียังไงถึงต้องแปลกไปจากแบบที่ใช้กันอยู่ แผนกช่างเดิมสามารถดูแลได้ไหม หรือต้องมีแผนกช่างเพิ่มเหมือนการบินไทย
รางก็ยังสร้างไม่เสร็จร้อย%แล้วจะเร่งให้เขาส่งตัวรถไฟมาทำไม ที่ควรเร่งคือเส้นทางไม่ใช่รึ
28 พ.ค. 2563 เวลา 15.52 น.
เอก ศรีสุข มีรัปทานกันแน่นอน
28 พ.ค. 2563 เวลา 15.43 น.
แปลกดีนะ รถไฟฟ้ามีล้อ
28 พ.ค. 2563 เวลา 15.24 น.
ดูทั้งหมด