"มุ้ย" เชื่อ "ราเยวัช" ไม่เรียกติดทีม "ซูซูกิคัพ" ชี้ "เจลีก" ซ้อมเข้มกว่าไทยลีก

ภายหลังจาก ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าวัย 30 ปี ทีมชาติไทย ถูกสโมสร ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า แห่งศึกฟุตบอลเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ยืมตัวไปร่วมทีมด้วยสัญญา 1 ฤดูกาล โดยมีผลงานยิงไปแล้ว 5 ประตูในลีกสูงสุด และ 1 ประตูในฟุตบอลถ้วย

ซึ่งกองหน้าจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถูกจับตามองจากสื่อมวลชนญี่ปุ่น ล่าสุดเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อแดนปลาดิบ ถึงการปรับตัวกับฟุตบอลเจลีก ว่าต้องพยายามอย่างหนัก และจำเป็นต้องแก้ไขจุดอ่อนของตน

"สิ่งที่สำคัญในช่วง 6 เดือนหลังสุดคือการปรับตัวเข้ากับปัจจัยแวดล้อมของญี่ปุ่น ถ้าเทียบกับการซ้อมหนแรกแล้วผมคิดว่าผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเล่นของคนญี่ปุ่นมากขึ้น แน่นอนว่ามันหนักกว่าการซ้อมของทีมในไทยลีกมาก หลังจากปรับตัวกับปัจจัยแวดล้อมได้แล้วนั้น เป้าหมายของผมในตอนนี้ก็คือการเรียนรู้เกี่ยวกับแผนการเล่นของทีมให้มากขึ้น และหาทางช่วยทีมให้ได้"

"ผมไม่คิดว่าผมจะปรับตัวเข้ากับ เจ ลีก ได้อย่างสมบูรณ์แบบหรอก แต่ผมคิดว่าการมาอยู่ที่นี่มันทำให้ผมมีแรงกระตุ้นที่จะพยายามให้หนักขึ้น และทำให้ผมมีความมุ่งมั่นกับการปรับปรุงเกมการเล่นของตัวเองมากขึ้น ผมได้รับคำติชมจากโค้ชหลายอย่าง และพยายามแก้ไขจุดอ่อนของตัวเอง โดยรวมแล้วผมต้องตั้งหน้าตั้งตาเรียนรู้ต่อไป"

นอกจากนี้ "มุ้ย" ยังกล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ปลายปีนี้ด้วยว่า " ผมไม่คิดว่าผมจะถูกเรียกตัวติดทีมชุด ซูซูกิ คัพ ซึ่งต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ที่ง่ายแน่นอน เพราะทุกทีมต่างก็พัฒนาสไตล์การเล่นของตัวเอง และยังพัฒนาสภาพร่างกายกันได้ดีด้วย ความสำเร็จของทีมชาติไทยจะขึ้นอยู่กับเรื่องที่ว่า มิโลวาน ราเยวัช จะทำทีมออกมาในรูปแบบไหน รวมถึงเรื่องที่ว่าเขาจะเรียกใครติดทีมลงเล่นในรายการนี้บ้าง เมื่อพิจารณาถึงรูปแบบการแข่งขันอันใหม่แล้วนั้น ผมก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะได้แชมป์มาครอง"

ขณะเดียวกันอดีตกองหน้าที่เคยผ่านการค้าแข้งในลาลีก้า สเปน กล่าวถึงฟุตบอลเอเชียนคัพ 2018 รอบสุดท้ายที่ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ เช่นกัน "เราได้กลับมาเล่นรายการนี้ หลังจากห่างหายไปนาน เราไม่ต้องไปสนใจทีมอื่นเลย เราต้องสนแต่เรื่องของเราเอง และเตรียมตัวให้ดี เราต้องมีความมั่นใจในสไตล์การเล่นที่เข้ากับเรา เราต้องตั้งเป้าหมายเอาไว้ให้สูง ทัวร์นาเมนต์ที่ ยูเออี จะเป็นสิ่งที่ชี้วัดว่าแท้จริงแล้วเราอยู่ในระดับไหนของทวีปเอเชียกันแน่ นี่เป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับบรรดานักเตะ และเราต้องคว้าประโยชน์จากโอกาสนี้ให้มากที่สุด"