ทั่วไป

'ลุงดำ' ประกาศหยุดปลูกต้นกล้วย ลดคนตายจากอุบัติเหตุ

MThai.com - News
เผยแพร่ 17 ต.ค. 2561 เวลา 09.43 น.
'ลุงดำ' เจ้าของฉายา “มนุษย์กล้วย” ประกาศหยุดปลูกต้นกล้วย ลดคนตายจากอุบัติเหตุ

‘ลุงดำ’ เจ้าของฉายา “มนุษย์กล้วย” ประกาศหยุดปลูกต้นกล้วย ลดคนตายจากอุบัติเหตุ

จากกรณี ‘ลุงดำ’ นายจำรัส แซ่อื้อ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 254/1 หมู่ 2 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของฉายา “มนุษย์กล้วย” ที่ปลูกต้นกล้วยไว้สองข้างทางริมถนนหลายสายใน ต.นาบอน เพื่อช่วยลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุของรถที่วิ่งสัญจรไปมา หากเกิดอุบัติเหตุจะทำให้หนักกลายเป็นเบาได้ กระทั้งเมื่อ 2 – 3 วันที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช คนงาน และรถจักรขนาดใหญ่ ขุดทำลายต้นกล้วยที่ปลูกไว้ริมถนน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

วันนี้ 17 ต.ค.61 เมื่อเวลา 11.00 น. นายจำรัส หรือ ลุงดำ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยไปเที่ยวประเทศจีนมา และเห็นเขาปลูกต้นกล้วย พันธ์ไม้ต่างๆ ริมถนน และเท่าที่สอบถามทราบว่าต้นกล้วยช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จากนั้นจึงนำแนวความคิดนั้นมาใช้โดยเริ่มปลูกตั้งแต่ปี 2548

โดยใช้เวลาว่างปลูกต้นกล้วยริมถนนสองฝั่งสายนาบอน – แก้วแสน ต.นาบอน อ.นาบอน ซึ่งมีระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร กระทั่งต้นกล้วยเติบโต และก่อนหน้านี้หลังปลูกต้นกล้วยเคยมีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพราะต้นกล้วยริมถนนสามารถช่วยลดแรงปะทะ

ต่อมาจึงขยายปลูกไปตามสองฝั่งถนนหลายสายจนเป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน ที่เห็นประโยชน์ แม้กระทั้ง พล,อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำเรื่องราวของการปลูกต้นกล้วยของ ลุงดำ พูดชื่นชมในการทำสิ่งที่ดีมีประโยชน์กับสังคมทางโทรทัศน์ในรายการศาสตร์พระราชา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ลุงดำ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อ 2 – 3 วัน ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่หมวดการทางช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ถนนในเขต อ.นาบอน พร้อมรถเครื่องจักรมาทำลายขุดโค่นต้นกล้วยที่ตนปลูกริมถนนสาย ตนพยายามอธิบายให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงที่มาของการปลูกต้นกล้วย แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับฟัง และได้ขุดตัดโค่นต้นกล้วยจนเหลือแต่โค่น สองฝั่งริมถนนเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตง ตนจึงร้องเรียนกับนายอำเภอนาบอนและทางอำเภอได้ประสานไปยังหัวหน้าแขวงทางหลวงฯ เพื่อหาข้อยุติดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น.ที่สำนักงานหมวดทางหลวง ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ลุงดำ หรือนายจรัส แซ่อื้อ พร้อมเจ้าหน้าที่แขวงการทางนครศรีธรรมราง รวมทั้งฝ่ายปกครองอำเภอนาบอน ประกอบด้วย นายศรากร หนูเอก รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช ที่ 2 ทุ่งสง พร้อมด้วยนายนายณรงค์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าหมวดทางหลงช้างกลาง และนายประไพ กาละ ปลัดป้องกันอำเภอนาบอน ร่วมกันหารือเพื่อหาข้อยุติ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นายศรากร หนูเอก รองผู้อำนวยการ แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 2 ( ทุ่งสง ) กล่าวว่า หลังจากคุยกันกรณีที่เจ้าหน้าที่โค่นต้นกล้วยที่ปลูกอยู่ริมถนนข้างทางแล้ว ทางแขวงทางหลวง ฯ ยืนยันว่า การปลูกต้นกล้วยของลุงดำต้องปลูกเว้นระยะห่างจากถนน 6 เมตร เนื่องเป็นถนนเส้นที่ลุงดำ ปลูกต้นกล้วย เป็นถนนเส้นรอง ที่มาตรฐานความปลอดภัยที่ระบุชัดเจน ว่าต้องเว้นระยะห่างช่องว่างริมถนนกับผิวถนนเป็นระยะทาง 6 เมตร

ส่วนถนนสายหลักกำหนดเว้นระยะห่าง 9 เมตร ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายความปลอดภัยของกรมทางหลวง เพราะหากรถที่ประสบอุบัติเหตุตกข้างทางสามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาจากถนนได้ เป็นตามหลักวิชาการของการรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน

ที่สำคัญมีผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นทางดังกล่าวร้องเรียนไปยังกรมทางหลวงว่าต้นกล้วยที่ลุงดำปลูกบดบังป้ายบอกทาง บดบังทัศนียภาพในการขับขี่ หากมีผู้ร้องเรียนหางแขวงทางหลวงฯ ไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดตามมาตรา 157 คือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงยืนยันว่าหากลุงดำจะปลูกต้นกล้วย ให้ปลูกเว้นระยะห่างจากริมถนนไม่ต่ำกว่า 6 เมตร

นายประไพ กาละ ปลัดป้องกันอำเภอนาบอน กล่าว่า วันนี้ทางอำเภอนาบอน ซึ่งเป็นฝ่ายปกครองที่มีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ที่เป็นปัญหาอยู่ ระหว่าง ลุงดำ กับ แขวงทางงหลวงนครศรีธรรมราช จึงเป็นตัวกลางหารือทำความเข้าใจเพื่อหาข้อยุติดังกล่าว เบื้องต้นดังกล่าวแขวงทางหลวง

ยืนยันว่ากำหนดแนวเขตระยะห่างให้ลุงดำปลูกต้นกล้วยเป็นระยะทาง 6 เมตร ในส่วนของลุงดำยินยอมที่จะทำตามแขวงทางหลวง และจะมีการนัดลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่ลุงดำ ปลูกต้นกล้วย เพื่อวัดระยะแนวเขตให้ลุงดำ ปลูกต้นกล้วย และจะจัดกำลัง อส.ช่วยลุงดำ ปลุกต้นกล้วยทดแทนที่ถูกตัดทิ้งไป

ขณะที่ลุงดำ กล่าวเผยความรู้สึกหลังจากหารือกับแขวงทางหลวง ว่า การที่แขวงทางหลวงกำหนดให้ตนปลุกต้นกล้วยริมถนนให้เว้นระยะห่างไม่ต่ำกว่า 6 เมตร ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากพื้นที่ต่างระดับไม่เป็นแนวเรียบ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่หลังแนวเสาไฟฟ้า และใกล้แนวเขตที่ดินของชาวบ้าน ที่สำคัญตนมองว่าการปลูกต้นกล้วยไกลจากริมถนน 6 เมตร นั้นไม่สามารถช่วยละแรงปะทะเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ จึงตัดสินใจเลิกปลูกต้นกล้วยข้างทาง เพราะปลูกไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับคนใช้รถใช้ถนน ไม่สามารถลดความสูญเสียชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้

ยอมรับว่าเสียความรู้สึกมาก เพราะตนตั้งใจทำเพื่อสังคม แต่ส่วนราชการกลับอ้างเหตุกฎหมาย หลักเกณฑ์ ระเบียบของทางราชการที่จะตัดโค่นต้นกล้วยของตนทิ้ง ตนขอถามส่วนราชการที่เกี่ยวข้องคำสุดท้ายว่า

“ตอนที่เริ่มตนปลูกต้นกล้วยข้างทางริมถนน มานานตั้งแต่ ปี 2548 ทำไมถึงปลูกได้ ไม่มาห้าม”

ตนส่วนตัวตนมองว่าจุดเริ่มต้นที่ต้นกล้วยของตนถูกตัดโค่นทิ้ง เพราะนายทุนเจ้าของที่ดินที่อยู่แนวเขตที่ตนปลูกต้นกล้วย เคยแจ้งกับตนว่า ให้ตนตัดต้นกล้วยทิ้ง เพราะต้นกล้วยของตนบดบังทัศนียภาพที่ดินของเค้า

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 325
  • อีตอนปลูก ไม่มาห้ามแต่แรก ว่าปลูกไม่ได้ เสียเวลา เสียกำลังใจ เสียความรู้สึก (เป็นคนดีเพื่อสังคม มันลำบากแท้น้ออ)
    18 ต.ค. 2561 เวลา 07.32 น.
  • Tik
    อุบัติเหตุ​เกิดจากต้นกล้วยไม่ใช่เพราะ​คนขับรถเร็ว.. คิดได้.. ถ้ามุมไหนมันบดบังจริงๆก็ควรตัดแต่พาดหัวข่าวเหมือนต้นกล้วยกับลุงผิดเลย
    18 ต.ค. 2561 เวลา 07.13 น.
  • Npat
    คุณลุงเป็นแค่คนธรรมดา แต่มีน้ำใจมากกว่าคนมีเงินบางคนที่แล้งน้ำใจ คิดทำลายแผ่นดินเกิดอีกครับ การช่วยเหลือเพื่อนมยุษย์เป็นสิ่งดี แต่กับต้องพังเพราะผลประโยชน์ของคนเห็นแก่ตัว
    18 ต.ค. 2561 เวลา 06.23 น.
  • 085-621-7683
    ต้นมันยังอยุ่ รอ ออก ใหม่ .มัน ขยันตัด ก้ให้มันมาตัดเลย .ยังใงก้อ ออกใหม่ครับ.
    18 ต.ค. 2561 เวลา 05.52 น.
  • รอให้พ่อมะนแหกโค้งก่อน ถึงเวลานั้น แม้แต่หน่อกล้วยกูก็ไม่ให้เห็น กูจะเอาใบตองไปปิดพ่อมัน
    18 ต.ค. 2561 เวลา 05.40 น.
ดูทั้งหมด