ทีมบันเทิง คมชัดลึก - หลังจากที่ "ก้อง ห้วยไร่" ออกมาประกาศลงอินสตาแกรมส่วนตัวว่าเขามีลูกแล้ว กับภรรยาปัจจุบัน"เบลล์" ขนิษฐา และกับอดีตภรรยาอีก 2 คน จนทำให้อดีตคู่หมั้น"เอ๋" พัชรพร นักร้องลูกทุ่งสาว ออกมาแฉว่านักร้องลูกทุ่งชื่อดังคบซ้อน
ล่าสุดในงานแถลงข่าวรอบสื่อมวลชนภาพยนตร์ "ออนซอนเด" เจ้าตัวจึงเปิดใจถึงเรื่องนี้
พูดถึงกระแสดราม่าหลังจากเปิดตัวเรื่องครอบครัว
"มันเป็นความผิดของตัวเราเองเพราะว่าผมก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำไว้เจตนาคือเห็นแก่ตัวมากกลัวว่าความนิยมที่ตัวเองได้รับจะหายไปเป็นความคิดของเด็กบ้านนอกที่มีโอกาสได้มาอยู่ตรงนี้ก็เลยคิดไปต่างๆ นานาก็เลยทำสิ่งต่างๆนานาให้ตัวเองรอดแต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเรื่องที่ทำร้ายความรู้สึก พี่น้องแฟนเพลงผมต้องขอโทษทุกๆคน ซึ่งก็ขอโทษกับพี่สื่อหนึ่งคือ nine entertain ซึ่งเขาพยายามถามผมตลอดว่าเคยแต่งงานหรือยังมีรูปจริงไหมซึ่งก็โกหกเขามาตลอดเพราะเจตนาเหมือนเดิมคือคิดว่าฉันจะปกปิดเพื่อความนิยมของตัวฉันเองผมก็ต้องขอโทษจริงๆนะ (ยกมือไหว้)"
เรื่องราวทั้งหมดที่เราปกปิดมาเป็นระยะเวลานานแค่ไหน
"ผมอยากที่จะเล่าเรื่องที่หลายคนสงสัยให้มันจบให้มันจบความสงสัยไปเลยก็ตั้งแต่มีข่าวว่าผมกับคุณเอ๋คบหากันก่อนที่จะมีชื่อเสียง ซึ่งผมได้ไปคบกับคุณเบลล์ตอนที่คบกับคุณเอ๋อยู่ ซึ่งชาวเน็ตก็พยายามถามว่าคบซ้อนไหม ผมยอมรับครับว่าคบซ้อนผม ต้องขอโทษด้วยที่ผมทำร้ายจิตใจเอ๋ ทำให้เอ๋ต้องผิดหวัง เสียใจ แต่ก็พูดด้วยความจริงว่า ผมขอโทษ ผมเลือกที่จะรักเบลล์และกลับกลายมาเป็นว่าผมพร้อมที่จะแต่งงานกับเบลล์
ถามว่าตอนนั้นเบลเขารู้ไหมว่าเราคบกับเอ๋อยู่ ในตอนแรกเบลไม่รู้ แต่พอเริ่มคุยกันสักพักนึง ที่ผ่านมาผมไม่เคยเปิดตัวเอ๋ ทุกคนรับรู้ว่าผมโสด มีหลายคนก็ถามมาว่าโกหกใช่ไหม เรื่องที่โดนเมียทิ้งแล้วแต่งเพลง เรื่องของการแต่งเพลงมันเกิดจากภรรยาที่ผมมีบุตรด้วยกัน 2 คนและหย่าร้างกัน จนผมได้มาทำงานที่นิติพลคลินิก และได้รักกันกับผู้หญิงคนหนึ่ง และก็ตั้งความหวังว่าจะไปสร้างชีวิตครอบครัว ตอนนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก วัยรุ่นคึกคะนองคิดว่าตัวเองเจ๋ง และอีกอย่างหนึ่งผมไม่เคยคิดเลยว่าอนาคตข้างหน้า ผมจะได้มาเป็นก้อง ห้วยไร่ ตอนนั้นคึกคะนองมากก็สนุกสนาน เจ้าชู้ พอมีแฟน หลังจากจดทะเบียนหย่ากับภรรยาที่มีบุตรด้วยกัน ก็มีแฟนใหม่ปั๊บ โดนเขาบอกเลิก กลายเป็นความเจ็บปวดที่เราเคย กับภรรยาเก่าก็มาโดนกับตัวเราเอง ก็เขียนเพลงขึ้นมา ซึ่งเรื่องนี้ผมก็ต้องขอโทษอีกครั้งหนึ่ง งหลายคนก็เอามาโยงว่าไหนบอกว่าแต่งเพลง ไสว่าบ่ถิ่มกัน ทั้งที่จริงๆ แล้วผมเป็นคนทิ้งคุณเอ๋ เพื่อมาคบกับเบลล์ ทำไมถึงโกหกแฟนเพลงว่าคุณแต่งเพลงนี้ว่าเพราะคุณอกหัก"
ซึ่งพอหลังจากที่เบลรู้ว่าเราคบซ้อนแล้วเลิกกับคุณเอ๋มาคบกับเขาเขาว่ายังไงบ้าง
"คือตอนนั้นเรารักกันไปแล้ว ผมกับเบลล์ยอมรับผิดทุกอย่าง ขอโทษด้วย คือไม่ได้คุยกันตั้งแต่ตัดสินใจเลิกและแยกออกจากกัน เพราะว่าผมกับเอ๋ได้หมั้นกัน ได้มีการหมั้นเป็นพิธีของอีสาน ซึ่งก็ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ส่วนเรื่องประเด็นของสินทรัพย์ มันเป็นเรื่องของการเชื่อมโยงที่ไม่ใช่มาจากตัวเรา แล้วทำให้เขารู้สึกว่าเขาถูกทำร้าย ซึ่งผมเป็นเขาผมก็อยากที่จะออกมาพูดว่าจริงๆ ทุกคนออกมาด้วยความเจ็บป่วย เขาก็ออกไปด้วยความเจ็บปวด แล้วทำไมยังต้องไปตอกย้ำเขาอีกซึ่งเอ๋พูดมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ"
หลังจากที่เป็นข่าวได้คุยกับคุณเอ๋ไหม
"ยังไม่ได้พูด ยังไม่ได้คุยตั้งแต่วันที่ตัดสินใจแยกทางกันเป็นการแยกทางการ ในฐานะของคนที่เป็นคู่หมั้นและแยกทางกัน ส่วนเรื่องของเงินที่หมั้นหมายผมเป็นคนผิดสัญญาหมั้น เพราะผมเป็นคนเลิก ผมก็ได้ให้เอ๋ไปโดยที่ไม่ได้ทวงคืนในส่วนของเงินตรงนั้นไป แต่เรื่องที่เอ๋เขาออกมาพูดคือในเรื่องของรายได้จากการทำงานของผม ถึงตอนนั้นเราอาจจะไม่ได้ใช้คำว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขเพราะตอนนั้นผมเป็นแค่เน็ตไอดอล มีคนรู้จักเพลงจากการดีดกีต้าร์ลงเฟซบุ๊ค เป็นที่รู้จักจากการร้องเพลง ไสว่าบ่ทิ้งกัน ซึ่งตอนนั้นเราอยู่ในฐานะคู่หมั้นกัน เงินที่เราหาได้ทุกบาท ทุกสตางค์เราแบ่งคนละครึ่งได้ไหมตัวผมเองผมก็ต้องดำเนินชีวิตต่อ ผมมีค่าใช้จ่าย มีครอบครัวพ่อแม่พี่สาวและญาติๆ ที่ต้องดูแล ผมก็ขอตรงนี้จากเอ๋มา ซึ่งมันเป็น เงิน 1.8 ล้านบาท แบ่งกันได้ประมาณคนละ 9 แสนบาท ซึ่งหลังจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เคลียร์ใจ เพราะเรากลัวว่าเขาไปรับข้อมูลว่าเราอยากทำร้ายเขา เราทำร้ายเขาไปมากแล้ว ยิ่งพูดถึงเขาก็เป็นการทำร้ายเขามากไปอีก ก็ได้แต่ฝากพี่ๆ สื่อเพื่อความสบายใจของผมด้วย และของภรรยาของผม คือน้องเบลเราก็ไม่คุยกันเรื่องเก่าๆ ดีกว่าเนาะ ไม่ได้หมายถึงไม่ได้คุยกับพี่ๆ สื่อมวลชนนะ แต่หมายถึงว่าไม่ได้คุยกับคุณเอ๋ ทำให้เราปิดการติดต่อสื่อสารกันในทุกช่องทางคือเราอยากให้มันจบไป"
แปลว่าจบกันไม่สวย
"จบไม่สวยเพราะว่าผมคือคนที่คบซ้อนแล้วทำให้เขาต้องเสียใจผมจำได้ว่าผมเคยบอกสื่อว่าผมแอบชอบเบลมานานมากความรักของผมกับเอ๋เกิดขึ้นเร็วมากเกิดขึ้นเร็วและผมตัดสินใจหมั้นกันโดยที่เราไม่ได้ตกลงกันว่าเรารักกันดีไหมสุดท้ายแล้วเอ๋เขาคือคนดีแต่ผมกลับไม่เลือกเขาทั้งที่ผมมี เขาเป็นคู่หมั้นแล้วซึ่งผมทำให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจทุกสิ่งทุกอย่างมันกระทบตัวผมแน่นอน 100% ทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมต้องรับมันให้ได้"
พอเป็นข่าวออกมาเบลรู้สึกยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น
"ถามเบลว่า เอาตรงๆเลยนะเบลถ้าได้พูดกับเองโดยที่ไม่ต้องผ่านใครเพราะเวลาพูดผ่านใครมันเหมือนเป็นการแปลงสารคือเราฝากคนนี้ไปเขาก็ไปตีความในแบบของเขาถ้ามีโอกาสจริงๆก็อยากให้เขาได้คุยกันและอยากให้เบลขอโทษอีกผมกับน้องไข่เจียวก็อยากที่จะไปขอโทษเอ๋ ว่าถ้าไม่เลิกกันวันนั้นถ้าไม่มีเรื่องราวร้ายๆกันวันนั้นวันนี้ฉันมีครอบครัวที่อบอุ่นแต่ผมก็ต้องขอโทษแฟนเพลงของเอ๋ญาติของเอ๋และต้องขอโทษที่ทำลายรู้สึกของคนจากการที่ผมโพสรูปลูกเมียบ่อยๆ ผมก็ต้องขอโทษด้วย (ยกมือไหว้) มันเป็นความสุขของผมแต่ผมก็ลืมมองไปว่าความสุขของผมมันไปทำร้ายจิตใจคนอื่นด้วยอีกเรื่องนึงที่ผมอยากบอกผ่านพี่ๆ สื่อ ก็คือเรื่องลูกอีก 2 คนที่มีพี่ๆ น้องๆ แฟนเพลงเข้ามาถามว่าทำไมรักลูกไม่เท่ากัน ทำไมไม่โพสต์ถึงลูกทั้งสองคน ซึ่งลูกทั้งสองคนของผมคนนึงอายุ 11 ขวบส่วนอีกคนอายุ 10 ขวบเขาอายุไล่เลี่ยกันเขาอยู่ในช่วงที่เพื่อนๆ กำลังล้อวันนั้นวันที่ผมเปิดตัวน้องไข่เจียว เขาเองไม่ได้ตามข่าว แล้วเขาไปโรงเรียนเพื่อนๆ ก็ทักว่าเห็นปื๊งเป็นลูกพ่อก้องจริงๆ นึกว่าโกหก เพราะว่าผมได้เลิกรากับภรรยาเก่า ตั้งแต่ลูกอายุได้ 6 ขวบ ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว 4-5 ปีคือเรื่องเวลาผมไม่แน่ใจ ที่ผ่านมาผมคุยกับลูกตลอด ซึ่งลูกทั้งสามคนของผมเขาก็มาหากันทั้งปิ๊ง ปลื้มและไข่เจียว ลูกๆเข้าใจในสิ่งที่ผมเป็น แต่สิ่งที่ผมไม่ได้เอารูปลูกอีก 2 คนมาโพสต์ก็เพื่อความสบายใจของลูก และอีกอย่างคือเขารู้สึกไม่โอเคเวลาโดนเพื่อนล้อว่ าทำไมพ่อก้องเป็นพ่อของเขาแล้วทำไมไม่มาหาบ้าง ก็อย่างที่ผมบอกว่าผมได้เลิกรากันไปแล้ว ผมอยากให้เกียรติภรรยาเดิมที่จดทะเบียนสมรสครั้งแรก เพราะว่าวันที่จดทะเบียนหย่าจะต้องมีการเซ็นว่าใครจะเป็นผู้ดูแลบุตรซึ่งเขาคือคนที่ดูแลลูกตั้งแต่เล็กจนโตพอวันนึงที่ออกสื่อเสร็จปั๊บแล้วผมไปโพสอวดลูกทั้งสองคนทั้งที่ผมไม่ได้เลี้ยงเขา ก็ทำให้เขาไม่มีความสุขซึ่งหลังจากที่เป็นข่าววันนั้นผมกับปิ๊งและปลื้มยังไม่ได้พูดคุยกันเลยเขาบล็อกข้อความผมซึ่งเขาบอกผมว่าเขาไม่ได้โกรธผมแต่เขากลัวแม่กลัวแม่ด่ากลัวแม่คิดมาก"
ได้มีการส่งเสียเลี้ยงดูยังไง
"ก่อนที่เป็นก้อง ห้วยไร่ไม่ได้มีการส่งเสียเลี้ยงดูอะไรเพราะโดยตัวเองก็เอาตัวเองไม่รอดซึ่งหลังจากเลิกรากันไปผมก็ทำงานก่อสร้างแจกใบปลิวจนมาทำงานที่นิติพลคลินิกก็ยังไม่มีการส่งเสียจนเริ่มเป็นก้องห้วยไร่และมีงานคอนเสิร์ตที่เรณูนครซึ่งลูกของผมอยู่อำเภอป่าปาก ซึ่งมันใกล้กันคุยกับผู้จัดการว่าพี่ผมอยากไปทางครอบครัวพ่อแม่ฝ่ายหญิงเขาจะว่ายังไงเพราะผมทิ้งเขามา 5-6 ปีอยู่ดีๆจะไปตรงนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้นซึ่งผมก็บอกว่าผมขอเสียงก็เลยไปพอไปถึงเสร็จปั๊บลูกกอดร้องไห้ซึ่งตอนที่ผมได้บ้าง เพลงแล้วแต่ยังไม่ได้มีเงินอะไรมากมายผมก็ส่งให้เดือนละ 10,000 บาทโดยที่คุณพ่อคืออดีตพ่อตาของผมท่านเป็นคนดีมากก็เปิดให้เป็นบัญชีให้ลูกผมโดยที่ถ้าอายุ 18 ปีก่อนถึงจะเบิกได้เราก็ใส่เข้าไปแล้วหากลูกไปโรงเรียนอยากได้รองเท้าฟุตบอล อยากได้คอมพิวเตอร์อยากได้อะไรที่เป็นอุปกรณ์การเรียนได้โทรศัพท์มือถือผมก็จะให้เค้าถ้าหากเขาตั้งใจเรียนและสอบได้ที่ 1 ผมก็จะซื้อให้ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังส่งเสียให้ทุกเดือนจนมาถึงช่วงนี้ที่ผมบอกเขาว่าพ่อซื้อรถตู้ใหม่ แล้วใช้เงินเยอะมากเพราะขอซัก 2-3 เดือนนะที่ไม่ได้ให้เป็นตัวเงินแต่ก็ให้เป็นของอย่างเขาอยากได้กระเป๋าก็พาไปซื้อกระเป๋าอยากได้รองเท้าวิ่งเพราะเขาชอบวิ่งด้วยความที่แม่เขาเป็นนักกีฬาเป็นนักวิ่งทีมชาติเป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติ"
ภรรยาเก่าเขาเข้าใจไหมที่เราไม่ได้ส่งเสียในช่วงนี้
"จริงๆตั้งแต่เลิกลากันก็ไม่ได้คุยกันเลยเขาก็รู้สึกว่าคือเขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเขาสามารถเลี้ยงดูรูปได้รู้สึกว่าฉันเลี้ยงมาขนาดนี้แล้วก็ไม่ต้องมาเลี้ยงต่อหรอกแต่ผมก็เข้าไปขอให้ได้ทำหน้าที่พ่อหน่อยเพราะตอนนี้ผมมีรายได้แล้วต่างจากเมื่อก่อน ที่ลำพังตัวผมเองผมก็ยังเอาตัวเองไม่รอดทุกวันนี้ก็เป็นปกติเพราะตอนที่ไปเซ็นอย่าหักทะเลาะกันเจ้าทะเบียนเขาจะไปให้เซ็นถ้าผมพูดไปขอให้มันเป็นสตอรี่นี้นะครับคือว่าภรรยาเก่าผมเป็นนักกีฬาแล้วไปแอบมีอะไรกันจนเขาตั้งท้อง ผมขอพูดดีกว่าเพื่อความสบายใจของตัวผมเองด้วยและทำให้คนอื่นที่ถามกันมาว่าไม่รักเขาหรอทั้งที่เขาตั้งท้องลูกของเราแล้วทำไมถึงไปทิ้งเขาพอเขาตั้งท้องเสร็จปั๊บความเป็นวัยรุ่นก็จะเอาลูกไปทำแท้งซึ่งเขาก็ไม่สามารถบอกครอบครัวเขาได้เพราะตอนนั้นเขาเรียนต่อปริญญาโทอยู่และเป็นนักกีฬาทีมชาติผมก็เลยบอกเขาว่างั้นเอาอย่างนี้แล้วกันให้ปกปิดพ่อแม่ครู คุณคิดว่าคุณติดติดอะไรในขณะที่ท้องโตแล้วพอแล้วพอคลอดเสร็จปั๊บผมก็เอาลูกมาเลี้ยงอยู่ประมาณปีครึ่งไม่ได้มาเลี้ยงช่วยนะครับตอนนั้นผมอายุ 21 22 กำลังคะนองๆ ซึ่งเพื่อนๆที่เรียนอยู่ที่รามคำแหงจะรู้ว่าผมจะอุ้มลูกไปเรียนด้วยไปดีดกีต้าร์ร้องเพลง"
แล้วทำไมถึงมีลูกคนที่ 2 ได้
"ลูกคนที่ 2 มาจากการมาหากันแล้วก็มีอะไรกันแล้วก็ท้องอีกก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วคือจะปิดก็ปิดไม่อยู่แล้วซึ่งตอนนั้นเขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้วก็ไม่สามารถที่จะหลบได้พอท้องเสร็จปั๊บผมก็โทรไปหาพ่อของอดีตภรรยา ผมขอเบอร์พ่อของคุณหน่อยโทรไปบอกพ่อผมทำลูกพ่อท้อง ได้ลูกคนหนึ่งอายุขวบกว่า และในท้องอีกคนนึงซึ่งเขาก็ตกใจเพราะตอนนั้นอนาคตลูกเขากำลังไปได้ไกลและด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่ของพ่อเขาเขาก็บอกกับเราว่า งั้นให้กลับบ้าน เพราะว่าน้องปิ๊งลูกคนแรกเขากินอะไร เพราะผมเลี้ยงเองมาตั้งปีกว่าโดยที่ครอบครัวฝั่งนั้นไม่รู้เลยผมก็เลยบอกว่าผมก็เลี้ยงตามอัตภาพของผมนั่นแหละพ่อตาผมก็เลยบอกว่าให้มาทำให้ถูกต้องด้วยการแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันซึ่งก็อยู่ได้ไม่นานไม่กี่เดือนก็เลิกรากันเพราะว่าเขาไปทำงานและผมอยู่บ้านเลี้ยง ผมก็เลยตัดสินใจออกมาเพราะว่าลูกก็โตแล้ว และทางครอบครัวของเขาก็โอเค"
ช่วงเวลาที่เราเป็นก้องห้วยไร่และเราเลือกที่จะปกปิดเรื่องนี้เรารู้สึกอึดอัดไหม
"ไม่อยากโกหกเลย ทุกๆ เรื่อง แม้แต่เรื่อง ขอท้าวความว่าการก้าวเข้ามาเป็นนักร้องและถูกหาว่าไปโกงเงินเขา ถูกกล่าวหาว่าไปเป็นผัวของคนที่อยู่ต่างประเทศ ถูกทำร้ายแต่ก็พยายามคิดว่าถ้าเราไปสู้แล้วถ้าเรากลับไปอยู่เหมือนเดิมล่ะแล้วคนเกลียดเราก็เลยเลือกที่จะนิ่งดีกว่าทั้งที่อยากจะพูดแทบตาย"
แล้วเพราะเหตุผลอะไรถึงออกมายอมรับในเรื่องนี้
"เหตุผลที่ตัดสินใจโพสต์เพราะว่าถ้อยคำที่เขากล่าวหาเขาบอกว่าแม่ผมเป็นโสเภณีทั้งชาวเน็ตด้วยและตัวของเขาด้วยผมก็เลยไปตอบโต้อะไรบ้าง (เขาคือใคร) คือคนที่อยู่ต่างประเทศที่มีคดีความกันแล้วไม่ใช่คนที่มีปัญหากันเรื่องคอนเสิร์ตก่อนหน้านี้แต่เป็นผู้หญิงคนนึงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงตั้งแต่แรกก็น่าจะรู้้ ผมต้องเก็บความอดทนตรงนั้นถูกคนจมตีว่าเป็นครอบครัวที่เลวร้ายไปหลอกเงินฝรั่งซึ่งมันไม่มีเลยแม้แต่บาทเดียวแล้วเขาก็อัดคลิปด่าเป็นตุเป็นตะซึ่งผมก็เลือกที่จะนิ่งเพราะผมคิดว่าสักวันหนึ่งผมคงมีโอกาสเหมาะที่จะพูดจนวันนึงเพราะมันเป็นคดีความผมไปแจ้งความเพราะผมรู้สึกว่ามันไม่ไหวจริงๆ เพราะเขาด่าแรงมากสุดท้ายเขาก็ไปลบทุกอย่างออกซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรที่ต้องติดค้างกันแล้วนี่ซึ่งผมก็เลยไม่ได้พูดต่อแต่คนที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเขาก็คิดมาเสมอว่าผมคือคนที่ไปโกงเขาไปหลอกลวงเขา"
ณ ตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรที่เราปิดบังอยู่อีกไหม หรือมีอะไรที่อยากจะพูดไหม
"ขอโทษพี่ๆสื่อมวลชน ที่ผมตอบบ่ายเบี่ยงจนทำให้รู้สึกว่าสื่อเอาข้อความเท็จมาปรักปรำผมหรือดิสเครดิตทางที่มันคือความจริงแต่เราก็พยายามที่จะบ่ายเบี่ยงขอโทษพี่น้องแฟนเพลงทุกคนขอโทษความรู้สึกของทุกๆคนที่เสียไปและขอโทษคนที่สำคัญที่สุดคือทุกๆคนที่เข้ามาในชีวิตผมและผมไปทำร้ายเขาด้วยความคึกคะนองทำร้ายเขาด้วยกันเลิกรา ทำร้ายเขาในช่วงวัยรุ่นทำร้าย ขอโทษในความคึกคะนองของผม"
รับได้ไหมกับฟีดแบ็กที่ไม่ดี
"ผมไม่ได้ตามเลยว่าฟีดแบ็คมันออกมายังไงถามว่าที่คนตราหน้าว่าผมโกหกผมก็ยอมรับเพราะว่าผมโกหกจริงๆซึ่งวันนี้ที่ผมเลือกมาพูดผมไม่กังวลแล้วว่าผมเป็นก้องห้วยไร่เพราะผมอยากให้ครอบครัวของผมที่อยู่ในปัจจุบันอยู่อย่างมีความสุขครอบครัวของน้องเบลครอบครัวของคุณพ่อคุณแม่น้องเบล จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียใจที่รูปเขามาแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่กับเราเขาจะได้ไม่เสียใจที่เขามาใช้ชีวิตอยู่กับเรารูปของผมที่กำลังโตน้องไข่เจียว ซึ่งผมเชื่อว่าพอเขาโตเขาก็ไม่รู้อะไรหรอกหรือรู้ก็คงรู้น้อยเพราะฝนเพราะฉะนั้นผมจะไม่อ้างว่ามันเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจลูกแต่การที่ผมปิดบังเพราะผมเห็นแก่ตัวที่คิดว่าตัวเองจะเสื่อมความศรัทธาความรักเพราะช่วงนั้นรับงานหนังรับงานละครรับงานพรีเซ็นเตอร์เยอะมากจนมองแต่ผลประโยชน์ของตัวเองแต่ตอนนี้ผมไม่กลัวตรงนั้นแล้วแล้วสิ่งที่ผมได้รับมามัน สมกับสิ่งที่ผมได้โกหกไปในแทบทุกเรื่องแล้ววันนี้ได้พูดทุกอย่างก็รู้สึกโล่งใจ"
Champ Fits ลีลาต่างกันครับผมก็ชอบนะ
22 เม.ย. 2562 เวลา 03.39 น.
เพชร ไร้สาระ ไอ้เบี้ย
22 เม.ย. 2562 เวลา 03.07 น.
Aonxxx เอาแล้วไง.
ใจชั่วตั้งแต่แรก.
22 เม.ย. 2562 เวลา 02.22 น.
earn ให้เอาคนทำความดีมาเป็นข่าวดีกว่านะคะ เขาจะได้มีกำลังใจในการทำความดีต่อๆไป
22 เม.ย. 2562 เวลา 02.21 น.
phonwiwat ดีกว่านี้ไม่มีแล้วเหรอ..
22 เม.ย. 2562 เวลา 01.52 น.
ดูทั้งหมด