วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี แต่คำตัดสินดังกล่าวกลับกลายเป็นที่ตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ก่อนกลายเป็นความเคลื่อนไหวในหมู่นักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องเสียงที่หายไปโดยเฉพาะเสียงของผู้เลือกพรรคอนาคตใหม่กว่า 6 ล้านคน
หลังความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นทั้งใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และดำเนินต่อเนื่องไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้มีความเคลื่อนไหวพร้อมกันของมหาวิทยาลัยชื่อดัง 2 แห่ง ทั้งในพื้นที่บางเขนและสามย่าน อย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อเวลา 17.30 น.ที่บริเวณหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน (ประตูพหลโยธิน) กลุ่มมอกะเสด (KU Daily) จัด กิจกรรม” มอกะเสดไม่ใช่ขนมหวานราดกะทิ ” เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย สนับสนุนสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางการเมือง และเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องสิทธิเสรีภาพให้กับสังคม
โดยมีนิสิตนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างหนาแน่นนับ 1,000 คน ร่วมกันออกมาแถลงจุดยืนของตนเอง เพื่อยืนหยัดเคียงข้างประชาธิปไตย และความยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงานเริ่มต้นด้วยการให้นิสิตนักศึกษา ร่วมกันเขียนข้อความบนป้ายผ้าเพื่อระบายความรู้สึกและแสดงออกถึงความคิดที่มีต่อรัฐบาล ในเรื่องของการบริหารประเทศ ความเหลื่อมล้ำ โดยมีนิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเขียนข้อความเป็นจำนวนมาก
จากนั้นต่อด้วยการขึ้นปราศรัยของ นายวุฒิ นิสิตชั้นปี 3 โดยพูดถึงเรื่องให้มีการปรับปรุงในเรื่องการลงทะเบียน และอีกทั้งให้ดูแลความปลอดภัยของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เนื่องจากที่ผ่านมีการก่ออาชญากรรมฉกชิงวิ่งราวขึ้นในมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยครั้งแต่ทางตำรวจก็ไม่ค่อยได้ให้ความสนใจ ต่างจากการจัดกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งมีการจัดกำลังมาดูแลเป็นจำนวนมาก และยังฝากข้อความไปยังผู้บริหารของมหาวิทยาลัยให้แสดงจุดยืนทางการเมืองให้ชัดเจนเลยว่าอยู่ตรงจุดไหน โดยไม่นำทัศนคติส่วนตัวเป็นตัววัดคะแนนหรือตัดเกรดนักศึกษา
จากนั้นได้มีการปราศรัยสลับกับเคารพธงชาติ และต่อด้วยการร้องเพลงมาร์ชของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพลงสามัญชน กระทั่งช่วงเวลา 19.00 น. นิสิตนักศึกษาทุกคนได้ร่วมส่องไฟโทรศัพท์มือถือ สว่างไปทั่วบริเวณหอประชุมใหญ่ เพื่อแสดงจุดยืนอีกครั้ง โดยใช้เวลาในการจัดกิจกรรมเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นเลิกการชุมนุมโดยสงบ และไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายแต่อย่างใด
อีกด้านหนึ่งในช่วงเวลาเดียวกัน บริเวณลานข้างหอประชุมใหญ่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝั่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ นิสิตสถาบันแห่งนี้ได้จัดกิจกรรม ‘จุฬารวมพล’ ภายใต้แนวคิด ‘เพราะเกียรติภูมิจุฬาฯ คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน’ ซึ่งจัดขึ้นหลังประกาศกิจกรรมผ่านโลกโซเชียลพร้อมแฮชแท็ก “#เสาหลักจะไม่หักอีกต่อไป”
โดยบรรยากาศมีนิสิตทยอยเข้าร่วมต่อเนื่องกว่า 1,000 คน โดยมีตำรวจ สน.ปทุมวัน มาสังเกตการณ์การจัดกิจกรรม ภาพรวมเป็นไปอย่างราบรื่น มีนิสิตร่วมกันนำป้ายผ้าจากคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งเคยถูกปลดมาวางบนพื้น มีความว่า ‘No Privacy No Security No Democracy จบ สวัสดี’
นอกจากนี้ยังประกาศเชิญชวนให้ร่วมกันติดแฮ็ชแท็ก #เสาหลักจะไม่หักอีกต่อไป สื่อถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เป็นหนึ่งในเสาหลักด้านการศึกษาของประเทศจะยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตยของประเทศ
จากนั้นเป็นการอ่านบทกวี ผลงานนิสิตจุฬาฯ นามปากกา ‘คนสาธารณ์’ เนื้อหาเกี่ยวกับอนาคตของคนรุ่นใหม่ที่ถูกทำลายลง ต่อมาเวลาประมาณ 16.40 น. นิสิตจากคณะต่างๆผลัดกันขึ้นปราศรัย
นายกนิษฐ์ วิเศษสิงห์ นิสิตชั้นปี 3 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ในวันนี้ขอขอบคุณทางมหาวิทยาลัยที่อนุญาตให้จัดงาน ที่ผ่านมาเวลานึกถึงการชุมนุมคนมักนึกถึงแต่โดมเท่านั้น แต่ในวันนี้เพื่อนพ้องชาวจุฬาฯ ร่วมกันออกมาแสดงพลังทำให้รู้สึกปลิ้มใจมาก ย้อนไปเมื่อ 80 ปีก่อน จุฬาฯ เคยชุมนุมเรียกร้องให้อินโดจีนคืนดินแดนที่สูญเสียไป มีผู้เข้าร่วมกว่า 3,000 คน นั่นเป็นครั้งแรกของการตั้งขบวนนักศึกษา ต่อมาใน พ.ศ.2500 นิสิตจุฬาฯ ก็เป็นกลุ่มแรกที่เรียกร้องประชาธิปไตย
นายสิรภพ อัตโตหิ นิสิตชั้นปี 3 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เรามารวมกันในที่นี้ด้วยเหตุผล 2 ประการ 1. ความรัก ไม่ใช่รักพรรคอนาคตใหม่ แต่รักประชาธิปไตย 2. ความเกลียด ไม่ใช่เกลียดรัฐบาล แต่เกลียดความอยุติธรรม การยุบพรรคอนค.ทำให้เห็นว่าประชาชนไร้ความหมาย คุณค่า สิทธิ เสียงปนะชาชนไม่มีค่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา เป็นเพียงการชุบตัวให้เป็นคนใหม่เพื่อบอกว่ามาจากการเลือกตั้งเท่านั้น เป็นเพียงข้ออ้างในการสืบทอดอำนาจ
นายนรากร พิสุทธิ์ นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า พวกตนมารวมตัวในวันนี้ ไม่กลัวว่าจะหมดอนาคต ถ้ากลัวคงไม่มา สิ่งที่กลัวคือประเทศชาติจะกลายเป็นเช่นนี้ อยากบอกผู้ใหญ่ว่า อำนาจเป็นของประชาชน ขอเรียกร้องความเป็นธรรม อนาคตไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่เยาวชนอย่างเราอย่าสิ้นหวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานยังมีการร้องเพลง ดอกไม้จะบาน และแสงดาวแห่งศรัทธา ซึ่งแระพันธ์โดย จิตร ภูมิศักดิ์ นิสิตจุฬาฯ นอกจากนี้ นิสิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ นำพวงหรีดวางแสดงความอาลัยต่อประชาธิปไตย ร่วมกับนิสิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ซึ่งแต่งกายชุดแฟนซีสีขาว มีโซ่พันรอบใบหน้า สื่อถึงโซ่ตรวนที่พันธนาการด้วยข้ออ้างของความดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิสิตหลายรายที่ขึ้นปราศรัย ได้กล่าวถึงประเด็นที่มักกล่าวว่า ชาวจุฬาฯ ไม่สนใจการเมืองว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
สำหรับป้ายผ้าที่ร่วมกันเขียน มีข้อความ อาทิ ประชาธิปไตยที่ปลิดปลิว , ประชาธิปตาย, ยุบให่ตายก็ไม่เลือกคุณ , #ไม่มีประชาธิปไตยเราจะตายกันหมด เป็นต้น
ในช่วงหนึ่ง นิสิตที่ร่วมกิจกรรมยังพร้อมใจชูสามนิ้ว ตะโกน ‘เผด็จการจงพินาศประชาธิปไตยจงเจริญ’ รวมถึงการทำ ‘มินิฮาร์ท’ อีกทั้งนิสิตที่ขึ้นปราศรัยกล่าวบนเวทีว่า การที่มีผู้ใหญ่บางรายระบุว่า การออกมาชุมนุมของนักศึกษาระวังจะไม่มีอนาคต ขอบอกว่าพวกตนไม่กบัว เพราะอนาคตเราถูกทำลายไปตั้งแต่ 6 ปีก่อนแล้ว
จากนั้น เวลาหลัง 18.00 น. เป็นการร่วมจุดเทียน และร้องเพลงภาษาอังกฤษ Do you here the people sing โดยมีการจุดเทียนแยกต่างหากอีก 88 เล่มเท่าจำนวนปีที่ประเทศไทยเข้าสู่ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาแสดงความเห็นความเคลื่อนไหวของทั้ง 2 มหาวิทยาลัยว่า
ตั้งแต่ทำงานกิจกรรมการเมืองในสมัยเป็นนักศึกษาเมื่อ ๒๐ กว่าปีที่แล้ว เท่าที่จำได้ ผมยังไม่เคยเห็นเวทีปราศรัยการเมืองกลางแจ้งที่จัดโดยนิสิตนักศึกษาในรั้วจุฬาฯ,และเกษตรศาสตร์ มาก่อนเลย สิ่งที่เกิดขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในวันนี้ (ณ ตอนนี้เลย) และที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวานจึงเป็นประวัติศาสตร์ และเป็นปรากฏการณ์ที่มีพลังมากในรอบสองทศวรรษ
ตอนนี้ ใครอยู่ใกล้ที่ไหน ไปแสดงพลังที่นั่น
นิสิตนักศึกษาตื่นแล้ว พลวัตรของการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว
“Injustice anywhere is a threat to justice everywhere”
-Martin Luther King Jr.-
.
ประชาชนจงเจริญ
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
ป.ล. พรุ่งนี้ ยังมีการจัดงานคล้ายกันที่มหาวิทยาลัยมหิดล และมะรืนนี้ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร
ทั้งนี้ ในช่วงค่ำ ได้ปรากฎความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล ที่จะจัดกิจกรรมแสดงพลังนักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัยตลอดสัปดาห์นี้ ได้แก่
มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา นักศึกษาภายใต้กลุ่ม ภาคีนักศึกษาศาลายา ได้นัดรวมตัวกันที่ ลานอาคารศูนย์การเรียนรู้มหิดล วันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) ตั้งแต่เวลา 18.15 น.- 18.45 น.
นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นัดรวมตัวเย็นวันพุธ ที่ 26 ก.พ. เวลาห้าโมง ณ ลานพญานาค มธ.ศูนย์รังสิต
ขณะที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเขียนจดหมาย ต่อต้านความอยุติธรรม อังคาร ที่ 25 ก.พ. เวลา 17.00 น. ภายใต้แฮชแท็ก #ช้างเผือกจะไม่ทน
ขณะที่มหาวิทยาลัยศิลปากร นักศึกษามีการนัดจัดกิจกรรม วันพุธ ที่ 26 ก.พ. ณ สะพานแก้ว เวลา 18.00 น.
ส่วนมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีการนัดรวมตัวกัน วันที่ 26 ก.พ. เวลา 17.00 น. – 17.30 น.ณ ลานพ่อขุน วิทยาเขตหัวหมาก
แมว เวรกรรมของพ่อแม่และประเทศชาติจริงๆ มีความรู้เสียป่าว ให้ไอ้พวกหนักแผ่นดินสนตะพาย บางสิ่งบางอย่างไม่รู้เชียวหรือว่า ประเทศไทยนั้นบางอย่างมันแยกกันไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีทั้งดีและไม่ดี แต่ก็อยู่กันมาได้ เพราะมันมีความดีมากกว่า พวกมึ.ไปเอาสิ่งที่ชั่วร้ายมาจากต่างแดน เอามามอมเมาเยาชน ป้อนข้อมูลเสียหายอย่างเดียว สิ่งที่ดีทำไมไม่สอน ทำมาหากินจนร่ำรวย ไม่เห็นบุญคุณของประเทศไทยบ้างเลยเหรอ ถ้าแบบนั้น สมควรแล้วละ ที่หนักแผ่นดิน ออกไปซะถ้าประเทศนี้ไม่ดี อย่าอยู่ให้เป็นเสนียดกับชาติบ้านเมืองเลย
25 ก.พ. 2563 เวลา 02.05 น.
ยงยุทธ เกียรติจรุงพั เด็กรุ่นใหม่ยังรู้สำนึกว่าบ้านเมืองแย่แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ชาติไม่รอดแน่กฎหมายที่เอียงด้านลบ แต่คนบางกลุ่มเกิดนานเสียเปล่ายังโง่เง่าเชิดชูเผด็จการไม่ลืมหูลืมตาว่าโลกเขาไปถึงไหน ไม่มียุคไหนของประเทศไทยที่แย่และเลวร้ายที่สุดเท่ารัฐบาลชุดนี้
25 ก.พ. 2563 เวลา 00.39 น.
ยุทธ คุณกำลังเป็นเครื่องของนักการเมืองที่ชอบวาดฝันนะครับ สงสารพ่อแม่ที่ส่งไปเรียนกันมั่ง
24 ก.พ. 2563 เวลา 23.45 น.
🌺"Min" 6549 เห้อ
24 ก.พ. 2563 เวลา 23.17 น.
ประทุมพร. ออกมาๆให้มันเอาครอบครัวมันออกมาด้วย
อย่ายุแยงลูกชาวบ้านออกมาตายแทน
24 ก.พ. 2563 เวลา 21.15 น.
ดูทั้งหมด