ไอที ธุรกิจ

5 ฉาก Game Over ปลอมที่หลอกเกมเมอร์ตายใจแล้วหลายราย

GamingDose
เผยแพร่ 06 ธ.ค. 2562 เวลา 11.17 น. • GamingDose - ข่าวเกม รีวิวเกม บทความเกมจากเกมเมอร์ตัวจริง

ฉาก Game Over เป็นการแสดงให้เห็นว่าผู้เล่นสามารถปราบเกมจนจบเกม หรือเกมเมอร์ตายจนต้องรีสตาร์ทกลับจุด Checkpoint ล่าสุด แต่ทีมงานพัฒนาบางส่วนได้พยายามใส่ลูกเล่นสร้างสรรค์บางอย่าง เพื่อให้ฉาก Game Over ไม่มีหน้าที่อย่างที่มันควรจะเป็น ซึ่งทำให้ผู้เล่นหลายรายต้องคาดไม่ถึงแล้วหลายราย แล้วจะมีเกมอะไรบ้าง ก็สามารถรับชมได้เลยครับ

Hitman Blood Money

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
HITMAN

มิชชัน Requiem เป็นมิชชันสุดท้ายของเกม Hitman Blood Moneyที่ Agent 47 ถูกวางยาเซรุ่มแกล้งตายจาก Diana เพื่อให้หนีรอดจากองค์กรนักฆ่าลับสุดยอดอย่าง The Franchise และเข้าถึงตัวเป้าหมาย Alexander Leland Cayne ให้จงได้

ระหว่างการเล่นมิชชัน ตอนนั้น Agent 47 กำลังอยู่ในสภาพกึ่งตื่นกึ่งตายจากฤทธิ์ของยา และหน้าจอของผู้เล่นจะมีการเลื่อนเครดิตทีมพัฒนาเกมราวกับว่าเป็นจุดจบของตำนานนักฆ่าหมายเลข 47 อย่างแท้จริง แต่ถ้าหากเกมเมอร์กดปุ่มเพื่อพยายามฟื้น Agent 47 ให้ตื่นขึ้น ผลลัพธ์ออกมาทำให้ Agent 47 ตื่นขึ้นมาจากความตายพร้อมกับฉากยิงปืนสุดเท่ที่สังหารเป้าหมายทั้งหมดอย่างเลือดเย็น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

Metal Gear Solid 3: Snake Eater

Snake is Dead

ในเกม Metal Gear Solid 3 มียาชนิดหนึ่งเรียกว่า "Fake Death Pill" หรือยาแกล้งตาย ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้ Snake สามารถแกล้งตายจนรอดพ้นยามสถานการณ์คับขันต่าง ๆ แต่แน่นอนว่าหลังจากเกมเมอร์ได้ทดลองใช้ยาครั้งแรก ผู้เล่นต้องตกใจกับผลลัพธ์เป็นหน้าจอฉาก Game Over ที่มีให้เลือกเฉพาะ "Continue" ซึ่งเป็นการกลับสู่ Checkpoint และ "Exit" กลับหน้าเมนูเท่านั้น ทำให้เกมเมอร์หลายคนสับสนเป็นอย่างมาก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซึ่งความจริงแล้ว วิธีการฟื้นตัวเองจากการแกล้งตาย ผู้เล่นต้องเลือกใช้ "Revival Pill" แต่ถ้าหากผู้เล่นปล่อยทิ้งฉาก Game Over นานเกินไป ระวังเกมเมอร์จะ "Game Over" จริง ๆ ซะเสียเอง

Borderlands: The Zombie Island Of Dr Ned

Borderlands The Zombie Island Of Dr Ned

หลังจากปราบบอสตัวสุดท้ายอย่าง Dr Ned เสร็จสิ้นแล้ว ตัวเกมจะเข้าสู่ฉาก Anti-Climatic ด้วยการเปิดหน้าเครดิตอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าความรู้สึกครั้งแรกจากเกมเมอร์หลายคนที่เห็นฉาก Game Over ดังกล่าว ก็ต่างแสดงความผิดหวังกันหลายคนเพราะคาดหวังจะมีตอนจบที่ดีกว่านี้

เดี๋ยวก่อน! นี่ไม่ใช่ฉากจบหรือ Game Over ที่แท้จริง!? หลังจากเลื่อนเครดิตไปสักพัก บอสลับจะปรากฏตัวขึ้นเป็น "Undead NED" (HOLY F*#KING SHIT!!!) แล้วผู้เล่นต้องปราบบอสกันอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม แม้ผู้เล่นพบกับฉากจบ DLC อย่างแท้จริง แต่เกมเมอร์ก็ต้องผิดหวังกันอีกรอบด้วยฉากจบแบบ Anti-Climatic เหมือนกับการปราบบอสรอบแรก

Donkey Kong Country

Donkey Kong Country

เคสนี้อาจจะคล้ายคลึงกับ Borderlands: The Zombie Island Of Dr Ned ก็ว่าได้ เพราะฉาก Game Over ปลอมของเกม Donkey Kong Country จะปรากฏตัวขึ้นหลังผู้เล่นปราบบอสตัวสุดท้ายอย่าง King K. Rool ได้สำเร็จ แล้วหลังจากนั้น ตัวเกมจะขึ้นเครดิตโดยทันที

แต่ก่อนที่จะจบเครดิต ตัวเกมก็มีการขึ้นข้อความทิ้งท้ายว่า "The End? " ซึ่งแปลความหมายว่าตัวเกมอาจยังไม่ถึงจบอย่างที่เครดิตกล่าวโชว์ไว้ตั้งแต่แรก และสุดท้ายแล้ว ก็ปรากฏว่าเกมเมอร์ต้องปราบบอส King K. Rool อีกรอบด้วยความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าการปราบบอสรอบแรกอย่างได้เห็นชัด

P.T. (SILENT HILLS)

PT

การผจญภัยเดินวนห้องเหี้ยนในเกม P.T. นับว่าเป็นประสบการณ์เกมแบบใหม่ที่เขย่าวงการเกมสยองขวัญไปตลอดกาล ด้วยความซับซ้อนเนื้อหา Lore กับ Puzzle, บรรยากาศความหลอน และการทำลายกำแพงที่สี่ด้วยฉากหลอก Game Over ระดับตำนาน

ระหว่างการผจญภัยโลก P.T. ช่วงกลางเกม และเพิ่งผ่านพ้นวนลูป "นรก" ไปหมาด ๆ ตัวเกมจะเริ่มมีอาการเส้นแตกและสัญญาณโทรทัศน์ไม่ดีเกิดขึ้น ซึ่งไม่นานนัก ตัวเกมเริ่มมีเสียงกระซิบถึงผู้เล่น รวมถึงเพลงประกอบชวนหลอนประสาทเริ่มดังมากขึ้น จนกระทั่งตัวเกมแสดงภาพ Game Over เป็นภาพจอ Error ที่มีหลากหลายภาษาแล้วรีสตาร์ทเกมใหม่เองตามอัตโนมัติ

“ฉันจะโทรหาเธอคราวหน้า”

ตรงจุดนี้เกมเมอร์หลายคนคิดว่าเป็นตอนจบหรือเกิดปัญหาบั๊กเกมค้าง แต่ความจริงแล้ว การฉายภาพจอ Error เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินเนื้อหาเกมสุดหลอนต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ