ไลฟ์สไตล์

นอนสมาธิอย่างไรให้หลับฝันดี - ดังตฤณ

TOP PICK TODAY
เผยแพร่ 12 ก.ย 2563 เวลา 17.00 น. • ดังตฤณ
ภาพโดย Orange Fox Pixabay

คนยุคเราเครียดจับหน้าผากกันเยอะ

ยิ่งช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ยิ่งเหมือนมีใครเอาคีมมาบีบขมับให้นอนไม่ลง

อย่าว่าแต่จะคิดหลับฝันหวาน

เอาแค่ตื่นมาให้รู้สึกนอนเต็มอิ่มก็บุญแล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

หลายคนอยากทำสมาธิเพื่อให้หายเครียด

หลับสบายเหมือนเด็กน้อยไร้ความกังวลได้บ้าง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่นั่งสมาธิไม่ไหว 

เพราะตกกลางคืนจะเหนื่อย เพลียจนหมดสภาพ

นั่งแป๊บเดียวเผลอนอนเหยียดยาวไม่รู้ตัว

 

ปัจจุบันจึงมีการถามหาสมาธิท่านอนกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เพราะนอกจากจะไม่ต้องจัดสรรเวลาเพิ่มเติม

อาศัยช่วงก่อนหลับในท่านอนที่ต้องมีอยู่แล้ว

ยังอยู่ในอิริยาบถที่สบาย

เป็นที่ถูกจริตกับคนรักท่านอนอีกด้วย

 

ก่อนอื่นต้องตั้งต้นด้วยความเข้าใจให้ถูกว่า

การทำสมาธิ ไม่ว่าด้วยวิธีไหน

มีทั้งทำถูกและทำผิด

ถ้าทำผิด จะอยู่ในอิริยาบถไหนก็อึดอัดขัดใจ

ฟุ้งซ่านไม่เป็นสมาธิได้ทั้งนั้น

แต่ถ้าทำถูก จะอยู่ในอิริยาบถใดก็สบายดี

มีแต่ความผ่อนคลาย 

กลายเป็นที่ตั้งของสมาธิได้ทั้งสิ้น

 

และถ้าโจทย์ของคุณ

คือทำสมาธิในท่านอนให้หลับสบาย

ก็ขอให้เข้าใจด้วยว่า

หนึ่ง ทั่วร่างต้องผ่อนคลาย

สอง ในหัวต้องระงับจากอาการฟุ้ง

และสาม จิตต้องเปิดแผ่ออกกว้าง ไม่ใช่หุบเข้าคับแคบ

ซึ่งถ้าท่องไว้เป็นลำดับที่แน่นอน

จดจำเอาไปใช้ได้ขึ้นใจ

ก็จะมีสมาธิแบบพร้อมหลับฝันดีได้ทุกคืน

 

ผ่อนคลายร่างกาย

ทำได้ง่ายๆ

โดยการหายใจครั้งแรก

พร้อมกับบอกตัวเองว่า

จะทำความรู้สึกผ่อนคลายฝ่าเท้า

อยู่นิ่งๆ กับความสบายฝ่าเท้านั้น

รอจนอยากหายใจครั้งต่อมาเอง

ค่อยทำความรู้สึกผ่อนคลายฝ่ามือ

อยู่นิ่งๆ กับความสบายฝ่ามือนั้น

รอจนอยากหายใจครั้งต่อมาเอง

ค่อยทำความรู้สึกผ่อนคลายทั่วใบหน้า

ถึงจุดนี้ คุณจะรู้สึกผ่อนคลาย สบายทั่วร่าง

พร้อมจะต่อยอดเป็นขั้นที่สอง

 

ทำให้หัวโล่ง ระงับจากความฟุ้ง

ทำได้ง่ายๆ

อย่าเห็นความฟุ้งเป็นศัตรูที่ต้องสู้กัน 

หรือขับไล่ไสส่งกัน

เพราะการวิวาทต่อยตีกัน

ระหว่างอยากฟุ้งกับอยากสงบ

มันจะเหมือนสนามรบที่ไร้วี่แววสงบศึก

จำไว้ว่าถ้าอารมณ์ของคุณแบ่งเป็นสองขั้ว สองข้าง

ใจคุณจะกลายเป็นสนามรบเสมอ

ไม่มีทางเป็นสวนสันติภาพเลย

 

แทนการสู้กับตัวเอง ให้สังเกตว่า

ความฟุ้งซ่าน หรือก้อนเครียด

เป็นอะไรขยุ้มหนึ่งให้ดูเล่นว่าแปลงร่างได้

เดี๋ยวหนาขึ้น เดี๋ยวบางลง

เดี๋ยวให้ความรู้สึกทรมาน 

เหมือนมีคนหน้าตาดุร้ายในหัว

เดี๋ยวให้ความรู้สึกชินๆ เฉยๆ

เหมือนคนคนนั้นเปลี่ยนจากหน้าดุเป็นหน้าเหม่อ

 

หากการสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางความฟุ้งซ่าน

ไม่ทำให้คุณลืมลมหายใจแห่งความผ่อนคลายทางกาย

ยังสำรวจพบความเบา 

เท่าทันความหนักที่เท้า ที่มือ ที่ใบหน้าได้เรื่อยๆ

ในที่สุดความฟุ้งซ่านจะทำอะไรคุณไม่ได้

เหมือนคุณแยกตัวออกไปเป็นต่างหาก

และนั่นแหละ จิตใจจะสงบเงียบเชียบ

แม้ความฟุ้งซ่านยังเหมือนส่งความกระเพื่อมรบกวน

ใจก็ไม่ดิ้นรนเป็นทุกข์ดังเคยแล้ว

 

ทำให้จิตเปิดแผ่

ทำได้ง่ายๆ

หลังจากผ่อนคลายทั่วร่าง

และในหัวสงบระงับจากพายุความฟุ้งแล้ว

แค่ทำความรู้สึกถึงกายในท่านอนหลับตานั้น

แล้วทอดตามองตรงขึ้นเพดาน

หากจิตเปิด จะเหมือนเพดานเปิดออกเห็นท้องฟ้ากว้าง

 

จิตที่เปิดแผ่ เป็นจิตที่อิ่มสุขเสมอ

และจิตที่เปิดแผ่อย่างเป็นสุข

คือจิตที่เอ่อด้วยเมตตา

แล้วเมตตาจะหลั่งริน 

ล้นหลามออกมาเป็นมุมกว้างเอง

คุณจะหลับอย่างมีสติ

พร้อมไปกับความสุขอย่างใหญ่

สมดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

คนที่แผ่เมตตาจนชำนาญ

ย่อมหลับอย่างเป็นสุข!

ความเห็น 7
  • .~★☆ PikaPiPi ☆★~.
    ทำเสมอ เป็นอิริยาบถที่ถูกจริตมาก 😌😌😌
    12 ก.ย 2563 เวลา 20.03 น.
  • OyKess_789
    ขอบคุณค่ะสำหรับวิธีการปฏิบัติดีๆ มีประโยชน์ 🙏
    13 ก.ย 2563 เวลา 11.22 น.
  • ในการปล่อยวางย่อมที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขเสมอ.
    13 ก.ย 2563 เวลา 01.09 น.
  • หวานเย็น
    ด้วยสิ่งแวดล้อมและสภาวะสังคมที่หมู่คนไม่ตระหนักในหน้าที่ของความ "เป็น อยู่ คือ" วิธีนี้ดีครับ ข้อเสนอเพิ่มเติม "อย่าสร้างกรอบ ขีดเส้น ให้ตัวเองหรือคนอื่นมากนัก"
    12 ก.ย 2563 เวลา 23.51 น.
  • Pichai
    คุณ Yong บอกว่าคิดดี ทำดี (ทำบุญ) ฝึกจิตดี ทำความดี จิตใจก็จะเบิกบาน ถ้าไม่คิดมาก กำหนดจิต ก็นอนหลับสบายแล้ว. ไม่ต้องคิดค้นท่านอนสมาธิอะไรให้มากเรื่อง
    13 ก.ย 2563 เวลา 11.42 น.
ดูทั้งหมด