เผยไทยเสี่ยงทำธุรกิจ 5 อันดับ ต่างชาติกังวล เศรษฐกิจฟองสบู่-ความล้มเหลวรัฐบาล
วันที่ 14 พ.ย. น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวถึงการศึกษารายงานเรื่อง “ความเสี่ยงระดับภูมิภาคในการประกอบธุรกิจ (Regional Risk of Doing Business2019 ) ที่จัดทำโดยสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ว่า อันดับความเสี่ยงในการทำธุรกิจทั่วโลกปี 2562 นี้
10 อันดับแรก ได้แก่ 1.วิกฤติทางการเงิน 2.การโจมตีทางไซเบอร์ 3. ภาวะการว่างงาน 4.วิกฤติราคาพลังงาน 5. ความล้มเหลวของรัฐบาล 6. ความวุ่นวายทางสังคม 7. การโจรกรรมข้อมูล 8.ความขัดแย้งระหว่างรัฐ 9. การขาดโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 10.เศรษฐกิจฟองสบู่
สำหรับความเสี่ยงในการทำธุรกิจสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกนั้น แบ่งได้เป็น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านเทคโนโลยี ด้านภูมิรัฐศาสตร์ และด้านเศรษฐกิจโดยสรุป 10 อันดับความเสี่ยงในการทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ได้แก่ 1.ภัยธรรมชาติ 2.การโจมตีทางไซเบอร์ 3.ความขัดแย้งระหว่างรัฐ 4.วิกฤตการณ์ทางการเงิน 5.เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศที่รุนแรง 6.เศรษฐกิจฟองสบู่ 7.การโจรกรรมข้อมูล 8. วิกฤติราคาพลังงาน 9. ภาวการณ์ว่างงาน และ 10.ความล้มเหลวของรัฐบาล
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวอีกว่า จากการศึกษายังพบว่า ความเสี่ยงในการทำธุรกิจในประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.เศรษฐกิจฟองสบู่ 2.ความล้มเหลวของรัฐบาล 3.การโจมตีทางไซเบอร์ 4.ภัยพิบัติทางธรรมชาติและโดยมนุษย์ และ 5.ความไม่มั่นคงทางสังคม
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรศึกษาเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการด้านการค้าและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการต่างประเทศ รวมทั้งหาทางแนวทางและมาตรการป้องกันและรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆอย่างเป็นรูปธรรมด้วย
“สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าจะดำเนินการการติดตามรายงานผลสำรวจ การจัดอันดับและการศึกษาต่าง ๆ ขององค์กรที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก อาทิ ธนาคารโลก และสภาเศรษฐกิจโลก อย่างต่อเนื่อง เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเด็นทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทย
ซึ่งนับเป็นหน้าที่สำคัญของสำนักงานฯ ที่จะสนับสนุนข้อมูลและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการ ให้ตระหนักถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีความเชื่อมโยงและเกี่ยวเนื่องกัน เพื่อส่งเสริมการค้าเชิงรุก (proactive strategy) ให้สามารถขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่าง ๆ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการประกอบธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้น” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว
ฟองสบู่ยังน้อยไปอาจเกิดฟองแชมพูหรือก็ฟองเบียรฺ์แน่ๆกับรัฐบาลบริหารประเทศที่มีแต่แจกอย่างเดียวเศรษฐกิจจึงทรุดลงเรื่อยๆ
14 พ.ย. 2562 เวลา 11.28 น.
คุณชายแว่น.😀. ประชาชนรุ้ดีว่าทุกวันนี้เป็นยังไง ขี้เกียจคอมเมนท์แล้ว พวกเชียร์รัฐบาลก็สีข้างเข้าถู เอาเป็นรอดูต่อไปแล้วจะเสียใจภายหลัง
14 พ.ย. 2562 เวลา 13.20 น.
กะเพา ไม่น่ากลัว ได้ไง โจรกรรม ทางการเงิน เสี่ย ฝากเงิน ในธนาคาร หาย 5,000,000ดังขนาดนี้ ใครจะกล้าลงทุน
14 พ.ย. 2562 เวลา 18.08 น.
zup เขียนข่าวได้มั่วมาก
14 พ.ย. 2562 เวลา 12.03 น.
Sarote P.24/99 อ่านแล้วงง ช่วยอธิบายหน่อย พาดข่าวได้งัย
14 พ.ย. 2562 เวลา 11.35 น.
ดูทั้งหมด