เพลงอะไรเนี่ย! ไม่ได้เลย!
ถ้าติดตามโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง หลายคนคงเคยได้ยินเพลงฮิต "ปูหนีบอีปิ" ของพร จันทพร ที่ไอดอลสาวชื่อดัง ลิซ่า- แบล็กพิงก์ (Blackpink) นำท่าไปคัฟเวอร์ในรายการวาไรตี้เกาหลีที่เจ้าตัวไปเป็นแขกรับเชิญ งานนี้เรียกเสียงฮาก็จริง แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากในความสองแง่สองง่ามและไม่เหมาะสมของเนื้อเพลง ที่มีเนื้อความตอนหนึ่งว่า"ปูหนีบอีปิอีปิอีปิอีปิ เกือบตาย ปูหนีบอีปิอีปิอีปิอีปิ เจ็บหลาย" ซึ่งชาวเน็ตช่วยกันถอดเนื้อเพลงที่มีคำแปลเป็นภาษาอีสาน กล่าวถึงผู้หญิงผิวคล้ำ ทั้งยังพูดถึงอวัยวะเพศหญิงในท่อน "อีปิ" อย่างเนียน ๆ
ว่าด้วย "ความทะลึ่งตึงตัง" ของภาษาไทย
ก่อน "ปูหนีบอีปิ" วงการเพลงลูกทุ่งไทยก็มีเพลงเนื้อหาทะลึ่งตึงตังแบบนี้มาหลายยุคหลายสมัย ถ้าเป็นยุคนี้หลายคนคงต้องนึกถึงเพลง "คันหู" ที่ฟังยังไงก็คิดดีไม่ได้ ไหนจะเพลง "ครางชื่ออ้ายแน" ที่มีท่อนเลียนเสียงครางแบบติดตลก และถ้าย้อนไปในประวัติศาสตร์เพลง เรายังมีเพลง "ผู้ชายในฝัน" ที่มาพร้อมท่อน "เสียบหูให้ตั้งหลายหน เสียบหล่น เสียบหล่น ตั้งห้าหกที" และเพลง"น้องนอนไม่หลับ" ที่พูดถึงความ "กระสับกระส่าย" ยามค่ำคืนของหญิงสาวในบทเพลง
"เพลงฉ่อย" ของไทยก็ไม่น้อยหน้า เพราะเป็นเพลงที่ถูกนำมาขับร้องเพื่อเกี้ยวพาราสี และแน่นอนว่าในกิจกรรมการหลีสาวเหล่หนุ่มแบบนี้ เพลงฉ่อยก็ต้องร้องเล่นด้วยเจตนาปนทะลึ่งนิด ๆ มักมีเนื้อเพลงเชิงชู้สาวเป็นตัวชูโรง แต่ในหลาย ๆ ที่ก็ยังพูดถึงเรื่องทางโลกทั่วไป บางที่ร้องในเชิงธรรมะเสียด้วยซ้ำ เอกลักษณ์ของการแสดงเพลงฉ่อยคือ "ลูกคู่" ที่ต้องสลับกันร้องรับส่งไปมา เป็นการวัดความคมคายและชิงไหวชิงพริบของผู้ทำการแสดงอีกทาง
นอกจากบทเพลง วรรณกรรมไทยยังโดดเด่นด้านการเล่นคำให้อ่านสนุกและมีสีสัน ดูอย่าง "สรรพลี้หวน"(ใช่! มันเอาไว้ผวนนั่นแหละ!) วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ที่เน้นการแต่งโดยใช้คำผวน ซึ่งก็อย่างที่ทุกคนน่าจะเดากันได้จากชื่อเรื่อง ว่าวรรณกรรมเรื่องนี้แทรกคำผวนไปในทุกบท และแฝงความหมายทางเพศจนอาจเรียกได้ว่าเป็นความลามกเลยทีเดียว (ยกตัวอย่างชื่อตัวละคร เช่น ท้าวโคตวย เจ้าคีแหม และฤษีแหบ เป็นต้น)
แม้จะไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง แต่"สรรพลี้หวน" แสดงให้เราเห็นถึงวัฒนธรรมไทย ที่มีความเหนียมอายแต่ในใจแสนทะลึ่ง จึงต้องเลี่ยงคำลามกที่ถือกันว่าเป็นเรื่องสกปรกและไม่ควรนำมาพูดในที่สาธารณะ เปลี่ยนเป็นเทคนิคผวนคำ ให้ดูซอฟต์ลงและตลกขบขันแทน
ทะลึ่งมาตั้งนาน แล้วทำไมรับ "ปูหนีบอีปิ" ไม่ได้?
ในความทะลึ่งตึงตัง สังคมยังคาดหวังให้สื่อและสิ่งบันเทิงต่าง ๆ ถูกผลิตบนความเหมาะสม ในกรณีของ "ปูหนีบอีปิ" อาจติดขัดตรงเนื้อหาพูดถึงรูปลักษณ์ (ผิวคล้ำ) และมุ่งเน้นที่เพศหญิงจนเกินไป ชาวเน็ตยังวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่เพลงเนื้อหาแบบนี้ได้รับความนิยมในวงกว้าง แทนที่จะเป็นเพลงอื่นที่มีเนื้อหาน่าฟัง และไม่ "ทะลึ่ง" เท่านี้
อย่างไรก็ตาม เพลงที่เป็นต้นตอของดราม่าเรื่องนี้ได้รับยอดวิวเพิ่มเป็นล้าน หลังรายการวาไรตี้ที่ไอดอลสาวนำท่าเต้นไปคัฟเวอร์ออกอากาศเพียง 5 วัน และกลายเป็นไวรัลที่กำลังมาแรงที่สุดที่วัยรุ่นแห่เต้นตาม
-
อ้างอิง
老頑童 โลกสวยกันจริงๆ ทั้งๆที่ตอนนี้ผู้หญิงแทบจะแก้ผ้าเดินกันอยู่แล้ว
22 ต.ค. 2563 เวลา 00.33 น.
S.Klamsri (หมูน้อย) คนเขียนบทความนี้ยังไม่เข้าใจในบริบทของการใช้ถ้อยคำในบทเพลงของคนไทยดีพอ แถมการเขียนแบบนี้ก็คือการกระตุ้นให้เกิดดราม่า เนื่อเพลงมันไม่ได้หยาบ แต่คนฟังจะต้องคิดเองในเรื่องนั้นนะถึงดูหยาบ
22 ต.ค. 2563 เวลา 03.11 น.
สวยที่สุด คนเขียนเพิ่งเกิดนะ เดาๆไป รู้ไม่จริง ข้อมูลยังไม่ลึก
21 ต.ค. 2563 เวลา 23.56 น.
VJ Chen คนเขียนนี่หาข้อมูลได้หยาบมากก เพลงทะลึ่ง นี่ต้อง มานี มณีวรรณ ต้นฉบับเพลง จดหมายจากเมียเช่า เป็นต้นตำรับ เพลง จุดเทียน ทั้งหลาย ที่ทะลึ่งขำท้องแข็งสุด ก็เพลง จุดเทียนแก้รถ จะมีคู่ คืออดุลย์ กรีน ทั้งสองท่านได้จากโลกนี้ไปแล้ว
21 ต.ค. 2563 เวลา 22.24 น.
เจล ยูว์นะใจเย็นๆ ไม่ได้บอกว่าไม่เป็นแต่บอกว่าเดี๋ยวก่อน
22 ต.ค. 2563 เวลา 00.29 น.
ดูทั้งหมด