เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 3 เมษายน 2563 นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลีเซียนลุง ได้ประกาศใช้มาตรการตัดวงจร (Circuit Breaker)ทั่วประเทศ เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน โดยให้ปิดสถานที่ทำงาน ปิดโรงเรียน รวมถึงกำชับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เนื่องจากเคสที่เพิ่มมาในประเทศ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มแพร่เชื้อเดิม
โดยสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สิงคโปร์มีผู้ป่วยใหม่เพิ่มวันละกว่า 50 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเคสที่มาจากต่างประเทศ ต่อมาในสัปดาห์ที่แล้ว ยอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยรัฐบาลไม่สามารถติดตามได้ว่าได้รับเชื้อไวรัสมาจากที่แห่งไหน ดังนั้น ท้องถนนสิงคโปร์ในตอนนี้ อาจมีอีกหลายคนที่ติดเชื้อ เพียงแต่ไม่รู้ตัว
ดังนั้น รัฐบาลสิงคโปร์จึงตัดสินใจดำเนินมาตรการตัดวงจร โดยมีมาตรการ 3 ด้าน ด้านแรก ปิดสถานที่ทำงานทั้งหมดของประเทศ เหลือแต่เพียงภาคส่วนที่จำเป็นเท่านั้น อาทิ ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต คลินิก โรงพยาบาล ระบบขนส่งมวลชน และสถาบันทางการเงินที่สำคัญ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนเป็นต้นไป
ด้านที่สอง ภายในวันที่ 8 เมษายน สถาบันการศึกษาในระดับประถมศึกษาและสูงขึ้นไปทั้งหมดต้องเปลี่ยนสู่ Homebase Learning โดยกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์จะช่วยเหลือและทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาอย่างใกล้ชิด เนอสเซอรี่และสถานดูแลเด็กเล็กให้ทยอยปิดตัว
ด้านที่สาม ขอความร่วมมือลดการเดินทางสัญจรของประชาชน ให้อยู่ที่บ้านมากเท่าที่ทำได้ หลีกเลี่ยงการพบปะกับบุคคลภายนอกครอบครัว และไม่ควรหรือต้องระมัดระวังเมื่อต้องใกล้ชิดผู้สูงอายุ สาม หากต้องเดินทางขอให้เป็นในกรณีที่จำเป็น อาทิ ทำงาน ซื้อของใช้จำเป็น หรือออกกำลังกายเท่านั้น
ในกรณีที่เดินทางออกข้างนอก ขอความร่วมมือให้ประชาชนสวมใส่มาสก์ไม่ว่าจะมีอาการป่วยหรือไม่ก็ตาม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสจากกลุ่มที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งในวันที่ 5 เมษายนนี้ รัฐบาลสิงคโปร์จะแจกหน้ากากแบบใช้ซ้ำได้ให้กับทุกครัวเรือน
ลีเซียนลุง แสดงความมั่นใจด้วยว่า ถึงแม้มาตรการนี้จะทำให้ชาวสิงคโปร์ไม่ได้รับความสะดวกสบายในชีวิต แต่ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่าระบบที่สำคัญทั้งหมดของประเทศยังคงทำงาน ไม่ต้องกักตุนสินค้าเพราะอาหารมีเหลือพอสำหรับช่วงเวลานี้และวันข้างหน้า ทุกคนยังสามารถรับประทานอาหารหรือออกไปซื้อกาแฟได้อย่างปกติ เพียงแต่ขอให้นำกลับมาที่บ้าน แทนการดื่มกินกับเพื่อนฝูง นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าได้เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจและครัวเรือนเพิ่มเติม โดยจะประกาศภายในวันจันทร์ที่ 6 เมษายนนี้
เขาทิ้งท้ายไว้ว่าขอขอบคุณผู้ที่ทำงานรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างหนักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ในสัปดาห์ข้างหน้านี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแพร่ระบาด และชาวสิงคโปร์ทุกคนคือแนวหน้าที่ต้องเผชิญสถานการณ์นี้ด้วยกัน มันอาจจะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน และถ้าหากประเทศไหนจะผ่านมันไปได้ สิงคโปร์คือหนึ่งในนั้น
ภาพ: REUTERS/Edgar Su
ไทยเองก็ต้องทำครับ. เลี่ยงไม่ได้ยิ่งยือเวลาความเสียหายที่จะตายมาไทยจะต้องจ่ายแบบแสนแพง. ทำตอนนี้แค่จ่ายแบบเจ็บเฉยๆ. แต่ไม่รวดร้าวแสนแพงแน่นอน. คนทำธุรกิจก็กระทบหนักหนา กำไรไม่มีแต้ต้องจ่ายพนักงานนับร้อยให้เขาอยู่รอด. แต่มองมาถึงตรงนี้ต้องยอมเจ็บเอาครั้งเดียวให้จบครับแค่เดือนเดียว
04 เม.ย. 2563 เวลา 10.57 น.
Passing Through 🍁 มันต้องอย่างนี้ ตัดวงจร เพราะทุกวันนี้คนไม่ได้ไปที่สุ่มเสี่ยงก็ติดเป็นกันทั่วประเทศแล้ว ไปตรวจ รพ ก็ไม่ตรวจให้อีก บอกไม่สุ่มเสี่ยง สรุปสุดท้ายกลับมาตายที่บ้านกันกี่ศพแล้ว แถมแพร่ให้คนในครอบครัว คนในครอบครัวแพร่ให้เพื่อนบ้าน คนที่ทำงานอีก เห้อ ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าติดยัง มีไข้ ปวดเมื่อย มาหลายวันละ ตรวจเอกชน น่าจะมีสักเจ็ดพัน ชีวิตของฉัน
03 เม.ย. 2563 เวลา 12.03 น.
ใช่ ให้มีของขาย และบ.ต่างๆยอมจ่ายเงินเดือนฟรี1เดือน
แต่ประเทศไทย คนงานรายวันจะทำอย่างไร
03 เม.ย. 2563 เวลา 11.40 น.
ตาริน อย่าไปยุ่งกับอะไร แผ่นดินเล็กๆ ที่เรียกว่าประเทศเลยครับ
....เล็กขนาดนี้ จะทำอะไรก็ง่ายหมดแหละ
03 เม.ย. 2563 เวลา 11.39 น.
🔥MonaMeduza••Patz🔥 เด็ดขาดมาก 👍🏼👍🏼👍🏼 ตูบ มึง ดู ไว้ นะ แล้ว ช่วย ทำ ตาม
03 เม.ย. 2563 เวลา 11.28 น.
ดูทั้งหมด