โคโยตี้ ลำก้า ประกาศ 'หมดสต๊อก' สุรากลั่นลิ้นจี่-มะม่วง หลังรัสเซียออเดอร์อื้อจนผลิตไม่ทัน

“โคโยตี้ ลำก้า” ประกาศเหล้าหมดสต๊อกแล้ว เร่งผลิตสุรากลั่นจากลิ้นจี่-มะม่วง หลังรัสเซีย สั่งซื้อ 2 ตู้คอนเทนเนอร์ เผยวางขายดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ต่างชาติซื้อเป็นของฝาก ขอผลิตไม่จำกัดแรงม้า แก้ระเบียบห้ามตั้งโรงงานใกล้แหล่งน้ำ แนะ “พิธา” อย่าโปรโมตบางจังหวัด ให้ความสำคัญจังหวัดที่เลือก ส.ส.พรรค ก.ก.บ้าง

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน นายศรุต ประกาศกิจ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มประกาศกิจการสุรา หมู่ 11 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ผู้ผลิตสุรากลั่นชุมชน “KOYOTEY LUMKA” (โคโยตี้ ลำก้า) 60 ดีกรี เผยนโยบายพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ปลดล็อกสุราพื้นบ้าน เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนว่า

เห็นด้วย สนับสนุนนโยบายดังกล่าว ซึ่งกลุ่มผลิตสุรากลั่นขาวจากกาแฟ ลิ้นจี่ มะม่วง ลำไย สตรอเบอรี่ มะปราง ซึ่งเป็นผลไม้ตามฤดูกาล โดยรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร มาผลิตสุรากลั่นด้วยเครื่องจักร 5 แรงม้า พนักงานอีก 5 คน มีกำลังผลิตเฉลี่ย 70-80 ลัง/เดือน หรือ 1,000 ลัง/ปี บรรจุขวดใหญ่ ราคา 420 บาท ขวด
เล็ก 220 บาท ซึ่งผลิตไม่ทันต่อความต้องการของตลาด หลังกระแสนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ออกมาโปรโมตสุราพื้นบ้าน ทำให้ยอดขายเพิ่ม 20-30%

ช่วงนี้โรงงานกำลังเร่งผลิตสุรากลั่นจากลิ้นจี่และมะม่วง เนื่องจากเป็นที่ต้องการตลาดมาก ซึ่งเป็นสุรากลั่นชุมชนโอท็อประดับ 5 ดาว หรือของฝากเชียงใหม่ บางส่วนวางจำหน่ายในคิงเพาเวอร์ และดิวตี้ฟรี ในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติซื้อเป็นของฝากกลับประเทศ

ล่าสุด รัสเซียสั่งซื้อ 2 ตู้คอนเทนเนอร์แต่ไม่สามารถขายได้ เนื่องจากผลิตไม่ทันและหมดสต๊อกแล้ว ที่สำคัญไม่ส่งขายร้านสะดวกซื้อแต่อย่างใด

นายศรุตกล่าวว่า สุราพื้นบ้านถูกส่งเสริมตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ช่วงนั้นมีผู้ผลิตสุรากลั่นชุมชน ใน อ.สันทราย กว่า 90 ราย แต่โรงงานถูกสั่งปิดกว่า 80 ราย ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีทำให้เหลือผู้ผลิต 10 กว่ารายเท่านั้น เนื่องจากกรมสรรพสามิต ห้ามตั้งโรงงานผลิตใกล้แหล่งน้ำ หรือห่างจากแหล่งน้ำอย่างน้อย 100 เมตร ทำให้ต้องเลิกกิจการดังกล่าว

ดังนั้นอยากเรียกร้องรัฐบาลใหม่ แก้ระเบียบกฎหมายที่เป็นอุปสรรคการผลิตสุรากลั่นชุมชน อาทิ ไม่จำกัดแรงม้าการผลิต พร้อมผลักดัน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เข้าสู่การพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว พร้อมหาแหล่งเงินทุน ดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ผลิตรายย่อย เพื่อต่อยอดขยายกิจการ และยกมาตรฐานการผลิตสู่สากลมากขึ้น เพื่อขยายการส่งออกด้วย

นายศรุตกล่าวอีกว่า อยากฝากนายพิธาและทีมงาน อย่าได้โปรโมตสุราพื้นบ้านเพียงบางจังหวัด เช่น สังเวียน จ.สุพรรณบุรี แต่ไม่มี ส.ส.พรรค ก.ก.สักคน ขณะที่เชียงใหม่ เลือก ส.ส.พรรค ก.ก. 7 เขต จาก
10 เขต แต่ไม่ค่อยได้รับการเหลียวแลมากนัก อยากให้ความสำคัญ ส่งเสริมสนับสนุนผู้ผลิตสุรากลั่นในจังหวัดที่มี ส.ส.พรรค ก.ก.ด้วย