ท่องเที่ยว

พาเที่ยว : แนะนำ 12 พิกัดชวนกันไปนอนดูดาว

บันทึกคนขี้เที่ยว
เผยแพร่ 20 ธ.ค. 2564 เวลา 13.58 น.

ถ้ารู้สึกว้าวุ่นเมื่อไหร่ เราจะเก็บกระเป๋าออกเดินทาง ไปหาที่พักใจ บอกลาแสงสุดท้ายแล้วรอทักทายยามค่ำคืนที่ถูกฉาบไปด้วยดวงดาวนับล้านประกายวิ๊บวับทั่วฟ้า มีอากาศเย็น ๆ กระทบใบหน้าและสูดกลิ่นน้ำค้างให้เต็มที่ ช่วยชาร์จพลังงานดี ๆ ให้กับกายใจได้อย่างเต็มเปี่ยม
ยิ่งล่าสุดได้ไปเจอคอนเทนต์หนึ่งกล่าวถึงคำพูดของสตีเฟน ฮอว์กิง นักฟิสิกส์ชื่อดังที่ว่า ‘จงแหงนมองขึ้นไปบนดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า แทนที่จะมองดูแต่เท้าของตัวเอง’ ยิ่งปลุกแรงบันดาลใจให้เราอยากออกเดินทางค้นหาสถานที่ใหม่ ๆ ครั้งนี้เราเลยขอเสนอ 12 โลเคชั่นเอาไว้ชวนกันไปนอนดูดาว มาให้ทุกคนได้ตามรอย ตามหาแรงบันดาลใจ และขับรถออกไปแหงนมองแสงดาราด้วยกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ก่อนที่เราจะไปตามล่าหาดวงดาวกัน เราต้องเลือกเดินทางให้ถูกช่วงก่อน สำคัญสุดเลยคือต้องเป็นวันที่พระจันทร์ไม่สว่างจนเกินไป อย่างวันพระจันทร์เต็มดวงต้องเลี่ยงให้สุด เพราะแสงจันทร์จะกลบดวงดาวไปหมด โดยช่วงที่ดีที่สุดคือ แรม15ค่ำ (New Moon) เป็นคืนที่มองไม่เห็นพระจันทร์ รองลงมาคือช่วงแรมแก่ตั้งแต่ แรม12-14 ค่ำ โดยสามารถเช็คสถานการณ์ของดวงจันทร์ได้ที่เว็บไซต์ www.moonpage.com โดยเซ็ตวันที่เราจะเดินทางเขาจะบอกเลยว่าคืนนั้นพระจันทร์จะเป็นแบบไหน

ส่วนเรื่องการเดินทางเราแนะนำให้เลือกสถานที่ที่มืดสนิท ไร้แสงไฟรบกวน แต่ที่เหล่านั้นอาจจะห่างไกลเมืองสภาพถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฉะนั้นควรวางแผนการเดินทางให้ดีเลือกรถให้ถูกประเภท ส่วนตัวเราชอบรถแบบ 4WD เพราะไปไหนไปกันได้ทุกที่ จากนั้นเช็กสภาพรถ เครื่องยนต์ให้ดี มีคนข้าง ๆ หรือยัง ถ้ายังชวนเราไปได้นะ 😜

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อ่อ.. แล้วก็อย่าลืมเช็กสภาพท้องฟ้าด้วย ว่ามีเมฆเยอะมั้ย ถ้าวันไหนน้องมาเยอะก็จะไม่ได้พบดาวเหมือนกัน ซึ่งเดือนที่ฟ้าโปร่งใสมากที่สุดส่วนใหญ่จะอยู่ช่วง พฤศจิกายน-มกราคม และช่วงที่ฟ้าปิดมากที่สุดคือสิงหาคม-ตุลาคม ซึ่งในบทความที่เราไปเจอเขาก็บอกตัวช่วยในการเช็กสภาพท้องฟ้าของทั่วโลกได้ด้วย ในเว็บไซต์ www.lightpollutionmap.info 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สุดท้ายคือวิธีถ่ายดาวให้เราเก็บภาพความประทับใจระดับมาสเตอร์พีซ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ กล้องถ่ายและขาตั้งกล้อง จากนั้นตั้งค่ากล้องดังนี้
– ตั้งค่าโฟกัสเป็นแบบ Manual พร้อมหมุนโฟกัสไปที่ Infinity หรือหมุนโฟกัสจนกว่าจะเห็นดาวชัด
– ปรับกล้องเป็นโหมด Manual ตั้งค่า Speed Shutter ที่ 25-30 วินาที ตั้งค่า F stop ให้กว้างที่สุดหรือเลขน้อยที่สุด หลังจากนี้สิ่งเดียวที่เราต้องปรับคือ ISO โดยปรับให้เข็มวัดแสงโอเวอร์สัก +1 +2 
(หรือทดลองถ่ายด้วย ISO800 ก่อนเพื่อเทสว่าภาพมืดหรือสว่างไปแล้วค่อยปรับค่า)
เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถถ่ายดาวได้ตามต้องการแล้ว
ในเมื่อเราผ่านคอร์สเร่งรัด รวบตึงทุกทริคการถ่ายดาว ก็มาเริ่มออกเดินทางกันเลย

001 Yazama Homestay จ.เชียงใหม่
เริ่มจากโฮมสเตย์ที่เราเลิฟที่สุด เห็นชื่ออาจจะคิดว่าเป็นบ้านคนญี่ปุ่นหรือเปล่า..​ไม่ใช่ค่ะ!! Yazama เป็นภาษาอาข่า แปลว่า ‘ป่าใหญ่’ เป็นบรรยากาศโฮมสเตย์เล็ก ๆ ที่มีบ้านพัก 4 หลังตั้งอยู่ไหล่เขา มีวิวเขากว้างแบบพาโนราม่า เห็นทั้งผืนป่าและพื้นฟ้าได้อย่างชัดเจน มีระเบียงยื่นจากตัวบ้านค่อนข้างกว้าง มุมเหมาะ ๆ ในการถ่ายภาพดูดาวคือนั่งที่ขอบระเบียง หาแสงส่องเข้าหน้าแบบละมุน ๆ เช่น เทียน ตะเกียง จากนั้นก็ตั้งกล้องถ่ายตามที่เราบอกไว้ เท่านี้เป็นอันเสร็จ แต่เตือนนิดนึงว่าห้ามขยับจนกว่าชัตเตอร์จะปิดนะฮะ ไม่งั้นภาพไม่ชัดจะหาว่าไม่เตือน

ถ้าใครพลาดหรือมาไม่ตรงกับคืนฟ้าเปิดก็ไม่ต้องเสียใจนะ เพราะวิวตอนเช้าก็จึ้งตาแตกไม่แพ้กัน งานหมอกเขาอลังการงานสร้างมาก ๆ เราได้นอนที่บ้านหลังใหญ่ บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ในราคา 2,300 บาท เราได้ห้องพักที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ห้องน้ำมีน้ำอุ่น สบู่ยาสระผมครบ ตู้เย็นมี แถมมีอ่างแช่น้ำแบบโอเพ่นแอร์ เช้าอาหารมาเสิร์ฟ เย็นเอาหมูกระทะมาวาง ค่ำคืนที่แสนสุขอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมจริง ๆ 
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : Yazama Homestay
Tel : 082-890-6309 คุณนุ๊ก
พิกัด : goo.gl/maps/fsdAn3CYwyggaMjBA

002 ดอยเสมอดาว จ.น่าน
ถือเป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่เราประทับใจกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนเป็นที่สุด ด้วยความที่ดอยเสมอดาวนี้ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ทำให้เราได้พบกับธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ตลอดเส้นทาง กับการเดินทางที่ง่ายไม่ต้องปวดข้อเข่าแค่จอดรถก็ถึงที่หมาย ด้วยความที่บนนี้ไม่การรบกวนจากแสงไฟในเมือง ทำให้ตอนกลางคืนเราจะเห็นดาวได้เต็มผืนฟ้า ใกล้จนเหมือนเราสามารถเอื้อมมือไปหยิบได้ สมชื่อดอยเสมอดาวจริง ๆ แต่หากใครต้องการมาล่าทางช้างเผือก เราแนะนำให้มาช่วงปลายฝนต้นหนาว (ตุลาคม-พฤศจิกายน) อาจจะเสี่ยงกับสภาพฟ้าที่มีเมฆหมอกเยอะ แต่เส้นช้างเผือกจะขึ้นชัดมากจนสามารถมองได้ด้วยตาเปล่า ส่วนฤดูหนาวสภาพอากาศจะเปิดกว่าหน่อยให้เราได้เจอดาวสวย ๆ เต็มฟ้าแทบทุกวัน

และความจริงนอกจากกลางคืนจะปังแล้ว ตอนเช้าก็ปังไปกับงานหมอกเช่นกัน เพราะเขามีทะเลหมอกห้อมล้อมด้วยวิวทิวเขากว้างสุดตาอันนี้บอกเลยว่าเป็นไฮไลท์เด็ดที่ห้ามพลาด ใครชอบนอนตื่นสายก็ฝืนกันหน่อยนะ และช่วงพระอาทิตย์ตกดินก็มีจุดชมวิวที่ไหล่เขาอีกด้าน ให้นั่งชิลชมวิวเช่นกัน ลานกางเต็นท์ภายในอุทยานเขามีถึง 3 จุดคือป่าสน ผาชู้ และลานดูดาวแห่งนี้เลย มีเต็นท์สำหรับเช่าพร้อมเบาะรอง ถุงนอน และหมอนครบ เหมาะกับมากางเต็นท์ Spend time สุด ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม
Tel : 093-242-2914 (สำหรับจองเต็นท์อุทยาน)
พิกัด : goo.gl/maps/DdURJ4nv3xifhPtL6

003 ดอยหนอก-ดอยหลวง จ.พะเยา
เอาใจสายเดินป่าเทรคกิ้งสักหน่อยกับดอยหนอกไม่หลอกดาว เพราะงานหมอกงานดาวเขาไม่แพ้โลเคชั่นไหนที่เราเอามาเลย ที่นี่เป็นหนึ่งในเส้นทางการเดินขึ้นไปชมดอยหลวงพะเยา ลักษณะเป็นเขาหินลูกใหญ่มาก สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,077 เมตร ลักษณะสูงชันหัวมนเหมือนหนอกวัว ยอดดอยเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุดอยหนอก อันเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน และใช่ค่ะ.. ด้านบนนั้นจะเป็นจุดที่เราไปนอนดูดาวกัน จุดนี้เราจะชมดาวได้แบบฟิน ๆ ไม่มีใครมารบกวน ถ่ายช้างเผือกพร้อมองค์พระได้ภาพไม่ซ้ำใคร เก๋ ๆ

เอาล่ะ ทางเราขอลงดีเทลการเดินขึ้นเขาเป็นวิทยาทานแก่ทุกคนที่คิดจะไปสักนี๊ด การเตรียมความพร้อมของแรงกายและใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การขึ้นดอยหนอกนอกจากเดินขึ้นเขาแล้ว จะต้องใช้การปีนระดับใต้เชือกเกาะตามหินขึ้นไป บางช่วงตั้งชันกว่า 90 องศา ไม่มีห้องน้ำต้องใช้บริการตามพุ่มไม้ และการเดินป่าที่นี่จะต้องมีจนท.อุทยานนำทาง มีบริการลูกหาบด้วยซึ่งพี่แกช่วยเราได้มาก ถึงจะดูเหนื่อยแต่บอกเลยว่าตามข้างทางวิวงามระดับจักรวาลไปเลยสิครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
Tel : ติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน 092-713-2046, 080-853-6033

004 ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินป่าสุดมันส์สู่การตั้งแค้มป์สุดชิลที่ภูทับเบิก สวรรค์บนดินที่สูงจนเนื้อตัวเราได้แตะไอหมอกและก้อนเมฆแทบจะตลอดเวลา สำหรับภูทับเบิกเราชอบตั้งแต่เส้นทางที่ให้เราเห็นเพียงภูเขา ก้อนเมฆ หมู่บ้านเล็ก ๆ และแปลงผักผืนใหญ่ปลูกอย่างมีระเบียบกินพื้นที่ภูเขาทั้งลูก ไม่มีตึกใหญ่สายไฟรุงรังให้รกตา แต่ถ้าอยากจะมาดูดาวบนนี้แนะนำให้หาจุดกางเต็นท์หรือที่พักที่ไม่มีแสงไฟรบกวนนะฮะ เพราะเราจะได้เห็นดาวได้ชัดเจนกว่า

บางโมเมนต์ที่อยู่บนนี้เรารู้สึกว่าเหมือนอยู่บนฟ้าเลย.. ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกเพราะเขามีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,768 เมตร เป็นร่องลมพัดผ่านของภูเขาหิมาลัย ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แถมลมยังแรงมาก ๆ ตลอดทั้งวันด้วย ส่วนเกษตรกรรมที่นี่เขาเด่นเรื่องกะหล่ำปลี ซึ่งถือเป็นแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แซมด้วยพืชเมืองหนาวอื่น ๆ สามารถไปขอแจมเก็บกำหล่ำกับชาวบ้านได้ ราคาไม่แพงด้วย

005  บ้านนับดาว จ.อุทัยธานี
สำหรับที่นี่ไม่ต้องเหนื่อยปักสมอบก และไม่ต้องเมื่อยจากการขับรถไกล เพียงแค่ 2 ชม.นิด ๆ จากรุงเทพฯ สู่อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เราก็ได้เจอกับที่พักกลางไร่ห่างไกลแสงสี มีความไพรเวทขั้นสุด เหมาะแก่การรีชาร์จฟอกปอดกันให้เต็มที่ ด้วยการออกแบบที่เน้นชมวิวชมดาว ด้านหนึ่งของบ้านเป็นกระจกสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้เรานอนดูดาวอยู่บนเตียงได้แบบฟิน ๆ ถ้าอยากได้ภาพตัวบ้านกับดวงดาวเราแนะนำให้เปิดไฟตัวบ้านสลัว ๆ ไม่ต้องเปิดหมด ตั้งค่ากล้องตามที่เราบอกตอนแรกเท่านี้ก็ได้ภาพงาม ๆ เป็นของฝากแล้ว

ที่พักแห่งนี้มีบ้านพักทั้งหมด 4 หลัง ทุกหลังหันหน้าออกจากกันเป็นวงกลม ให้ความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ส่วนพี่เจ้าก็น่ารักเป็นกันเองดูแลดีสุด ๆ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ พร้อมราคาสุดคิ้วท์เพียง 2,500 บาท เสริมเตียงเพิ่ม 500 บาท ได้บ้านทั้งหลัง ไม่คุ้มตรงไหนเอาปากกามาวง
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : บ้านนับดาว อุทัยธานี : BaanNubdao Homestay
Tel : 093-697-8716
พิกัด : goo.gl/maps/pDuQCo7gEnTCpEwa7

006  ป่าสนวัดจันทร์ จ.เชียงใหม่
กลายเป็นแลนด์มาร์กประจำจังหวัดเชียงใหม่อีกแห่งไปแล้ว สำหรับป่าสนฟีลกู๊ด ที่ให้เรามีรูปคูล ๆ ลงโซเชียลแทบทุกครั้งที่มา ป่าสนแห่งนี้ตั้งอยู่ในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา ที่มีทั้งอ่างเก็บน้ำ และป่าสนต้องสูงใหญ่ฟีลต่างประเทศ ส่วนเรื่องดูดาวก็ไม่น้อยหน้าเพราะเขามีลานกว้างที่ทำให้เราเห็นทะเลดาวแบบพาโนราม่าด้วย อยากได้ภาพเจ๋ง ๆ ขอให้หยิบไฟฉายที่ส่องสว่างได้เป็นเส้นยาว มาฉายขึ้นฟ้า ปรับโหมด Manual และลาก Shutter Speed ยาว ๆ ก็ได้ภาพตามนี้ไปเลย

นอกจากป่าสนและชมดาวแล้ว ช่วงปลายธ.ค.- กลางก.พ. เราจะได้เห็นใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นส้มเหลืองไล่เฉด พร้อมดอกพญาเสือโคร่งที่กำลังผลิบานสีชมพู ส่วนช่วงหน้าหนาวแบบนี้จะได้พบกับไอหมอกที่ขึ้นบนผิวน้ำมีแสงทองทอประกายยามพระอาทิตย์ขึ้นบอกเลยว่าสวยสะกดแน่นอน การเข้าพักติดต่อภายโครงการหลวงได้เลยมีบ้านให้เลือกหลายแบบตั้งแต่นอน 2-10 คนยกก๊วนเพื่อนมา Slow life กันสักกรุบ
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : FIO Watchan – ป่าสนวัดจันทร์ อ.อ.ป.
Tel : 052-080-993 (จองห้องพัก), 086-181-3388 (สอบถามข้อมูล)
พิกัด : https://goo.gl/maps/dj4DGfJLzw8Ajk7z5

007  ผาตัด จ.เพชรบูรณ์
ผาตัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเขาค้อ ที่เที่ยวสุดฮิตประจำจังหวัดเพชรบูรณ์เลย หากมองวิวจากวัดผ่าซ่อนแก้วมาทุกคนคงจะคุ้นหน้าคุณตากับภูเขาลูกโตที่มีแนวเขายาว ปลายเป็นทรงตัดเหมือนถูกหั่นออก นั่นก็คือจุดนี้ล่ะที่เราอยากแนะนำ เป็นอีกมุมที่ทำให้เราเห็นภาพดาวบนดินของเหล่าแหล่งท่องเที่ยว และรีสอร์ทตั้งอยู่เบื้องล่าง ด้านบนมีดาวเต็มท้องฟ้าที่ออกมาสู้แสง แม้จะไม่ชัดเต็มตาเท่าที่อื่นแต่ก็ถือว่าเป็นวิวที่หาชมยาก สำหรับจุดนี้เหมาะมากที่จะถ่ายรูปกับรถคู่ใจไปไหนไปกัน แค่เปิดไฟรอบคันไปยืนโพสข้าง ๆ ก็ได้ภาพเท่ ๆ แล้ว

บอกก่อนว่าเส้นทางที่จะขึ้นมาถึงนั้นค่อนข้างวิบากเป็นทางดินแดงและชันยาวบางช่วงต้องมีความชำนาญในการขับประมาณหนึ่งเลย และจะต้องใช้รถ 4WD เท่านั้น แต่เชื่อว่าเมื่อมาถึงทุกคนจะต้องรู้สึกตื้นตัน เพราะวิวทั้ง 360 องศานี้คือดี อากาศสะอาดบริสุทธิ์ มีน้องวัวมาเล็มหญ้าอยู่ข้าง ๆ ที่กางเต็นท์กว้างพื้นเรียบนอนสบาย แนะนำให้เอาอุปกรณ์กันหนาวมาดี ๆ เพราะกลางคืนลมเย็นทะลุเต็นท์มาเลยล่ะแก..
ข้อมูลเพิ่มเติม
พิกัด : goo.gl/maps/kemY83tYvzCDZteR8

008  ภูกระดึง จ.เลย
ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องพิชิตภูกระดึง.. คำพูดติดปากของคนที่เคยไป พอเราได้ไปบ้างแล้วก็บอกเลยว่าเถียงไม่ออกเพราะมันคือเรื่องจริง ที่ภูกระดึงนี้มันสวยทุกมิติ ยิ่งตอนกลางคืน ยิ่งไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรนอกจากนอนแผ่ ลืมตามองค้างไปที่ทางช้างเผือก มีแสงดาวส่งสว่างกระจายอยู่ทั่วฟ้า ล่อตาจนละไปไหนไม่ได้เลย

ทริปการเดินภูกระดึงสามารถทำได้ทั้งแบบ 2 วัน 1 คืน และ 3 วัน 2 คืน ทางเราขอแนะนำให้อยู่ 3 วัน เพื่อแวะเช็คอินแต่ละจุดได้ครบแบบไม่ต้องรีบร้อน เช่น ผานกแอ่น สระอโนดาต ผาหล่มสัก ผาหมากดูด ฯลฯ ซึ่งตลอดเส้นทางขึ้นจนถึงลานกางเต็นท์ เขามีจุดพัก ร้านน้ำ ร้านอาหาร บริการหมูกระทะครบ ไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้องเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Park
Tel : 0 42-810-833, 042-810-834 (จองบ้านพัก)
พิกัด : goo.gl/maps/ERLWCTAjHsG9wWFg8

009  ภูอีเลิศ จ.เลย
ภูที่จังหวัดเลยมีเป็นร้อย แต่มีภูหนึ่งที่เราประทับใจและชอบมากกว่าที่ไหน ๆ คือ ภูอีเลิศเพราะมีความคันทรีสูง ต้องนั่งรถอีแต๊กชาวบ้านขึ้นมา เป็นภูที่กว้างมีจุดชมวิวหลายจุดเก็บได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น-ตก และนอนชมดาวตอนกลางคืน โดยน้องดาวขึ้นมาทักทายเราตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ในยามเช้าเราจะได้เห็นทะเลหมอกที่ไกลลงสู่หุบเขาเป็นแอ่งอย่างสวยงาม ถูกเรียกว่าเป็นทะเลหมอกสองแผ่นดิน เพราะด้านหนึ่งของฝั่งไทยและอีกด้านเป็นฝั่งลาวนั่นเอง

โดยการเดินทางเราต้องติดต่อชาวบ้านเพื่อรับบริการนั่งรถอีแต๊กไปส่งด้านบนใช้เวลาประมาณ 40 นาที ราคาอยู่ที่คันละประมาณ 500 บาท นั่งได้ 4-5 คน หากต้องการอาบน้ำก่อนกลับบ้านสามารถลงมาใช่บริการที่โฮมสเตย์ของชาวบ้านได้ ถือเป็นอีกทางที่สร้างรายได้ให้ชุมชน
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : ภูอีเลิศ 
Tel : ผู้ใหญ่ไกรสร 098-169-0326 / อ.นรเศรษฐ์ 061-053-1561 / พี่โย 085-460-6976 / 085-461-7230
พิกัด : goo.gl/maps/pSG5oUS91HMS4E7Z7

010  ม่อนจอง จ.เชียงใหม่
วิวทุ่งหญ้าสีทองสดใสเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักเดินทางทั้งหลายต้องไปยลแม้จะต้องเดินทางไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึง 4-5 ชม. มาที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย และต้องเทรคกิ้งขึ้นไปอีกประมาณ 4.5 กม. เป็นทางขึ้นยาว ๆ มีทางราบน้อยอาจจะเหนื่อนนิดนึง แต่บอกเลยว่าปลายทางนี้คุ้มค่าเหนื่อย วิวซิกเนอเจอร์ที่พลาดไม่ได้เลยคือดอยหัวสิงห์ ยอดแหลมของภูเขาที่ยื่นชี้แหลมขึ้นฟ้า ยามค่ำคืนจะเห็นเหมือนเป็นเงาสิงโตกำลังนอน แล้วเชิดหน้าแหงนมองดูดาว เนี้ย.. มาคนเดียวก็เหมือนมีพี่สิงห์นั่งมองเป็นเพื่อนนะ

การเดินทางมาเทรคกิ้งที่ม่อนจองนี้เราจะต้องทำเรื่องติดต่อลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ doimonjong.web.app/ ก่อนและติดต่อเขียนคำร้องขอเข้าสถานที่ที่เขตอนุรักษ์สัตว์ป่าอมก๋อย ติดต่อรถ 4WD มาส่งที่จุดเริ่ม และสิ่งสำคัญที่อยากแนะนำคือบริการลูกหาบ ที่น้องสามารถแบกของได้เป็นสิบโล ช่วยทุ่นแรงเราไปได้เยอะเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดอยม่อนจอง – บ้านมูเซอ
Tel : 092-5597201 คุณสุทธิดา / 081-0359468 คุณนะปี
พิกัด : goo.gl/maps/ozZf92dDXD27bY9T6

011 วนอุทยานหริรักษ์ จ.เลย
พาไปแต่ยอดเขายอดดอย เรากลับมาสู่พื้นราบที่วนอุทยานหริรักษ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกภูเหล็ก ถือเป็นอ่างเก็บน้ำที่สวยที่สุดในจังหวัดเลย เป็นจุดท่องเที่ยวสุดป๊อปของทั้งคนพื้นที่และนักเดินทางอย่างเรา ๆ เหมาะมาตั้งแค้มป์นั่งเล่นตลอดทั้งวัน เพราะสภาพแสงของที่นี่สวยทุกช่วงเวลา ยิ่งตอนกลางคืนที่เราผิงไฟอุ่น ๆ มีแต่ผืนป่า และแสงดาวที่สะท้อนผิวน้ำแบบนี้ยิ่งฟิน.. พอมีน้ำแล้วลาก Shutter Speed ยาว ๆ ภาพจะดูนวลอย่างกับภาพในฝันแหนะ

ภายในนี้มีกิจกรรมให้เราทำมากมาย แต่ที่ชอบมาก ๆ คือการนั่งแพทานอาหาร ชมพระอาทิตย์ตกดินมันทองส้มไปหมดทั้งฟ้าทั้งน้ำ ช่วงเช้าก็เจอหมอกลอยอยู่บนผิวน้ำปะทะหน้าพร้อมอากาศเย็น ๆ ใกล้ ๆ กันเป็นจุดชมวิวห้วยกระทิงที่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก พร้อมร้านอาหารคอยให้บริการ
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : วนอุทยานหริรักษ์ – Harirak Forest Park
พิกัด : goo.gl/maps/LoGbQ2jdYdArJYHU9

012 ห้วยกุ๊บกั๊บ จ.เชียงใหม่
ขอปิดการรีวิวด้วยที่เที่ยวมาแรงของจ.เชียงใหม่ประจำปีนี้ หวยออกที่ ห้วยกุ๊บกั๊บ อ.แม่แตง หมู่บ้าน(เคย)ลับบนยอดดอย ที่เขาอยู่กันอย่างสงบสุข ด้วยทัศนียภาพที่เหมือนเราอยู่สูงเทียบเทียมกับชั้นฟ้า ทำให้การดูดาวนั้นดูใกล้ชิดกว่าที่ไหน ๆ มุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่เป็นมาสคอตของที่นี่ก็คงหนีไม่พัน การก่อกองไฟที่ระเบียงห้องพัก พร้อมวิวเบื้องหลังที่เป็นทางช้างเผือกพาดผ่านท้องฟ้า ไล่สีสวยงาม บอกเลยว่าใบนี้เป็น photo of the year ของเราเลย

บนนี้จะเต็มไปด้วยโฮมสเตย์ชาวบ้าน ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าลาหู่ มูเซอแดง รอบนี้เรานอนที่บ้านจะฟู โฮมสเตย์ ตัวบ้านเป็นทรงชนเผ่าที่มีเอกลักษณ์คือทำจากไม้ ยกสูง มีลานระเบียบกว้างสำหรับนั่งผิงไฟ ทำกิจกรรม กินอาหารกัน ความฟินหนึ่งเดียวที่ทำให้ผู้คนหลงรักคือวิวทิวเขาที่กว้างสุดลุกหูลูกตา สามารถนั่งมองการเปลี่ยนผ่านของเวลาได้ตลอดวันเช้ายลทะเลหมอกกับกาแฟสักแก้ว เที่ยงนอนอ่านหนังสือรับไอแดดอุ่น ๆ กลางคืนนอนกุมมือดูดาวเติมพลังชีวิตให้กันและกัน เท่านี้ก็ถือเป็นวันพักผ่อนที่คุ้มเกินคาดแล้ว
รายละเอียดที่พัก
FB : ห้วยกุ๊บกั๊บจะฟูโฮมสเตย์
Tel : 094-615-8696
พิกัด : goo.gl/maps/8L6eYpUG4w2Rn1B48 (ลานจอดรถลุงคำปัน)

พูดตรง ๆ เลยว่าการออกเดินทางเพื่อตามล่าหาดวงดาวนั้น ทำให้เราตื่นเต้นไม่น้อย มันเหมือนเป็นการเสี่ยงโชคชนิดหนึ่ง ว่าวันนี้เราจะได้พบกับน้องดาวตามนัดมั้ย เพราะแม้ว่าเราจะมีเว็บไซต์ แอปในการเช็กความเป็นไปของดวงดาวและสภาพท้องฟ้า แต่ธรรมชาติมักจะไม่แน่นอนเสมอ ทำให้เราผิดหวังอยู่บ่อย ๆ แต่เชื่อเถอะว่าความผิดหวังนี้ไม่มีผลกับจิตใจเราเลย เพราะทุกครั้งที่เราได้ออกเดินทางนั่นคือการค้นหาเส้นทางใหม่ ๆ เติมเต็มพลัง ความคิดสร้างสรรค์ และรู้สึกผ่อนคลายแทบทุกช่วงเวลา หวังว่าการเดินทางของเราจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ อยากออกมาเปิดโลกกว้างด้วยกันบ้างนะ
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว

 

ดูข่าวต้นฉบับ