เรื่องสั้น

จ้าวเยว่ฮวา อัจฉริยะแห่งพิษ

นิยาย Dek-D
อัพเดต 08 พ.ค. เวลา 23.05 น. • เผยแพร่ 08 พ.ค. เวลา 23.05 น. • แป้งหอม
จ้าวเยว่ฮวา อัจฉริยะแห่งพิษผู้เก่งกาจ นางตายอย่างปริศนาและรู้ตัวอีกทีก็อยู่ในร่างขององค์หญิงกาลกิณีที่ถูกฆ่าตาย! ทั้งต้องชำระไอแค้น! ทั้งตามหาสาเหตุการตายของตัวเอง! และคิดบัญชีเรียงตัว! ทีละคน!

ข้อมูลเบื้องต้น

The poison of love จ้าวเยว่ฮวา อัจฉริยะแห่งพิษ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จ้าวเยว่ฮวา อัจฉริยะแห่งพิษผู้เก่งกาจ!

นางตายอย่างปริศนาและรู้ตัวอีกทีก็อยู่ในร่างขององค์หญิงกาลกิณีที่ถูกฆ่าตาย!

ทั้งต้องชำระไอแค้น!

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งตามหาสาเหตุการตายของตัวเอง!

และคิดบัญชีเรียงตัว!

ทีละคน!

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สวัสดีค่ะทุกคน พบกับแป้งหอมอีกเช่นเคย!

แอบกระซิบว่านิยายเรื่องนี้ซุ่มเขียน และนักวาดหน้าปกของแป้งหอมวาดนานถึง 1 เดือนนะคะ สวยถูกใจและสมกับนางเอก จ้าวเยว่ฮวา มากเลยค่ะ ประทับใจมากจนต้องบอกกับทุกคน!

นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของแป้งหอมเอง หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

แน่นอนว่า หากเจอคำผิดก็บอกกล่าวกันได้เลยค่ะ เดี๋ยวแป้งหอมจะตามแก้อีกรอบ!

ขอบคุณนักอ่านทุกๆ ท่าน

ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนนะคะ!

สุสานหมื่นวิญญาณ!

เช้าวันรุ่งขึ้น

เสียงไก่ขันยามเช้าดังขึ้นเบาๆ ชาวบ้านออกทำมาหากิน บางคนขึ้นเขา บางคนออกไปไร่นา ร้านค้าและแผงลอยต่างๆ เริ่มเปิดรับลูกค้าคนแรกของวัน

บรรยากาศเหมือนทุกวัน ล้วนทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องทั่วไป สำหรับคนธรรมดาที่ไม่มีพลังวิญญาณแล้ว การใช้ชีวิตสงบสุข ปลอดภัย และเรียบง่ายในแต่ละวันคือความสุขแล้ว

คนที่มีพลังวิญญาณมีไม่มาก หมู่บ้านหนึ่งจะมีประมาณสองถึงสามคนที่เกิดมามีพลังวิญญาณ คนที่เกิดมามีพลังวิญญาณจะได้รับการยกย่องเพราะมีความสามารถที่จะก้าวหน้ามากกว่าคนทั่วไป

ณ บ้านหลังใหญ่ของหลิวฮวน

“นางปลอดภัยแล้วขอรับ แม้ว่าบาดแผลตามร่างกายของนางจะสาหัส แต่ไม่มีบาดแผลไหนที่อันตรายถึงชีวิต อีกไม่นานนางคงจะฟื้นขึ้นมา ระวังอย่าให้ถูกน้ำก็พอขอรับ”

ม่อไป่ขมวดคิ้ว “บาดแผลไม่ร้ายแรง?”

หมอชราพยักหน้าหนักแน่น “ใช่ขอรับ จะว่าไปร่างกายของนางก็แปลกอยู่เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเสื้อผ้าบางส่วนของนางถูกเผา ตามหลักการแล้วร่างกายของนางจะต้องถูกเผาสักเล็กน้อย แต่น่าแปลกที่ไม่มีแผลที่ถูกเผาเลยขอรับ เดิมทีข้ายังคิดว่านางจะไม่รอดคืนนี้ แต่เมื่อรอดูอาการมาทั้งคืน ข้ากลับพบว่าชีพจรนางเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายนี้พิเศษยิ่งนัก”

“พิเศษหรือ? หรือว่านางจะมีพลังวิญญาณ?”

หมอชรายกมือขึ้นลูบเครา สีหน้าครุ่นคิด “คุณชายม่อ ข้าเองก็สงสัยเช่นท่าน แต่ข้าตรวจชีพจรของนางแล้ว ชีพจรของนางไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของพลังวิญญาณ ข้าตรวจซ้ำถึงสามรอบ ข้ามั่นใจว่านางไม่มีพลังวิญญาณแน่นอนขอรับ”

เป็นไปไม่ได้!

ม่อไป่นึกถึงตอนที่หญิงสาวจัดการกับทหารนับร้อยนาย หากไม่มีพลังวิญญาณแล้วจะสังหารทหารที่มีพลังวิญญาณได้อย่างไร?

แต่ม่อไป่ก็ไม่ได้พูดออกไป

“หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อนนะขอรับ” หมอชราแบกกล่องยาของตนเองเดินจากไป ม่อไป่โบกมือให้คนไปส่งท่านหมอถึงบ้าน

ม่อไป่หันหลังกลับจะไปรายงานหวางจวินหลงในห้อง แต่กลับพบว่าหวางจวินหลงบังคับรถเข็นไปอยู่ในห้องหญิงสาวเสียแล้ว ม่อไป่ก้าวเข้าไปในห้อง

“คุณชาย” ม่อไป่เอ่ยเรียก

“ข้าได้ยินแล้ว” หวางจวินลงเอ่ยขึ้น สายตาเรียบเฉยมองใบหน้าของหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง “เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่มีพลังวิญญาณ พลังที่นางมีอาจเป็นพลังมีเรามองไม่เห็น”

“พลังที่เรามองไม่เห็น? ในประวัติแล้วมีพลังไร้รูปลักษณ์ก็จริง แต่มันหายสาบสูญไปแล้ว คนที่ใช้พลังนี้ได้จะต้องมีพลังธาตุ…” อยู่ๆ ม่อไป่ก็หยุดเอ่ยขึ้นมากะทันหัน หันไปมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงอย่างไม่อยากจะเชื่อ

พลังวิญญาณแบ่งออกเป็น 10 ขั้น แต่ละขั้นมี 10 ระดับย่อย ระดับย่อยนี้หากต้องการจะเลื่อนระดับต้องอาศัยความพยายามในการฝึกฝน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพลังธาตุของแต่ละคนด้วย

พลังธาตุนี้เป็นการบ่งบอกว่าคนคนนั้นมีพรสวรรค์ในด้านใด พลังธาตุมีทั้งหมด 5 ธาตุ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุพฤกษา ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และสุดท้ายคือธาตุลม

เอกลักษณ์แต่ละธาตุทำให้แต่ละคนโดดเด่นต่างกัน รูปแบบการต่อสู้และการฝึกก็แตกต่าง ไม่เพียงเท่านี้ เงื่อนไขในการเลื่อนระดับก็ต่างกัน

ส่วนเขามีพลังธาตุดิน พลังกำลัง การต่อสู้ภาคพื้นดินคือสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญ!

ม่อไป่นึกไปถึงสิ่งที่เขาลืมเลื่อนไปแล้ว คนที่มีพลังไร้รูปลักษณ์จะมีพลังธาตุพิเศษมาก คนที่ครอบครองจะมีพลังที่ไร้ขีดจำกัด หลายหมื่นปีมานี้ไม่ปรากฏในประวัติศาสตร์

แม้แต่เขาก็รู้มาจากผู้เฒ่าในตระกูลม่ออีกที ถึงพลังไร้รูปลักษณ์นี้

หวางจวินหลงเอ่ยเสียงเรียบ “ใช่ นางอาจมีพลังเบญจธาตุ”

พลังเบญจธาตุคือคนที่ได้ครอบครองพลังธาตุทั้ง 5 ธาตุ นี่คือทั้งหมดที่ม่อไป่รู้ ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ของเบญจธาตุนั้น เขาไม่รู้ และคนอื่นยิ่งไม่รู้มากไปกว่าเขา

ถึงอย่างไร คนที่ได้ครอบครองพลังเบญจธาตุก็กลายเป็นตำนานเสียแล้ว นอกจากความเก่งกาจแล้ว เขาก็ไม่รู้อย่างอื่น

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอคนที่เข้าข่ายว่าได้ครอบครองพลังเบญจธาตุ!

“คุณชาย เช่นนั้นต่อไปจะทำอย่างไรกับนาง?” ม่อไป่เอ่ยถามเสียงขรึม

หวางจวินหลงวางมือลงบนตัก “รอนางฟื้นขึ้นมาค่อยว่ากัน”

“ขอรับ”

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม

หวางจวินลงยังคงอยู่ในห้อง เขาอ่านตำราอยู่บนรถเข็นอยู่ที่โต๊ะอีกด้าน บนโต๊ะมีกาน้ำชาและถ้วยชาอยู่สองใบ กลิ่นชาหอมกรุ่นลอยอบอวลอยู่ทั่วห้อง

เงียบสงบและลึกลับในคราวเดียวกัน

ไอร้อนของชาในถ้วยส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังก้มน้อยๆ อ่านตำรา กลายเป็นเป็นภาพงดงามล้ำเลิศ แสงแดดอ่อนๆ ฉายเข้ามาในห้อง

แม้แต่ม่อไป่ที่มีภูมิต้านทานความหล่อเหลานี้ยังอดสูดหายใจไม่ได้

หวางจวินหลงชะงักมือและเหลือบตาไปทางเตียงนอนเล็กน้อย

“ตื่นแล้วหรือ?” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เขายังคงอ่านตำราต่อไป

ทันใดนั้นเองร่างบางบนเตียงที่ได้รับการทำความสะอาด พัดแผล และเปลี่ยนเสื้อผ้าก็เริ่มขยับตัวเล็กน้อย ไม่นานร่างบางก็ขยับนั่งพิงหัวเตียง

หวางจวินหลงหันไปมองร่างบางเต็มสายตา ดวงตาปะทะกับใบหน้างดงามที่กำลังขยับกายพิงหัวเตียงและหันมาทางเขาพอดี

เส้นผมดำสลวยคลอเคลียกับใบหน้ารูปไข่ ดวงตาหวานซึ้งกะพริบตาสองสามที แม้ว่าใบหน้าจะมีความซีดเซียวจากการสูญเสียเลือด แต่ความงดงามเหนือหญิงใดก็ยังฉายชัด

“ท่านช่วยข้าเอาไว้หรือ?” จ้าวเยว่ฮวาจำได้ว่า ก่อนที่นางจะล้มลงพื้นดิน นางถูกคนผู้หนึ่งช่วยเอาไว้ แต่เพราะนางใกล้หมดสติ นางจึงเห็นใบหน้าคนที่ช่วยเอาไว้ไม่ชัดเจน

แต่เมื่อเห็นชัดเต็มสองตา นางก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจไม่ได้

ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรบนสวรรค์ยังมีอยู่บนโลกนี้ด้วยหรือ?

แม้ว่าชายตรงหน้าจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่รัศมีความน่าเกรงขาม สูงศักดิ์ราวจักรพรรดิที่ปกครองบ้านเมืองมายาวนาน กลับแผ่ออกมาจากตัวเขาอย่างน่าประหลาด

ทั้งสองประสานสายตากันครู่หนึ่งโดยไม่ตั้งใจ!

“ใช่ ข้าช่วยท่านเอาไว้” หวางจวินหลงเอ่ยตอบ เขาหยิบชาขึ้นจิบเล็กน้อย

คนอะไร แม้แต่จิบชายังงดงาม? จ้าวเยว่ฮวาคิดในใจพลางขยับกายลงจากเตียง

“เช่นนั้น ข้าขอบคุณคุณชายมากเจ้าค่ะ ข้ามีเรื่องที่จะต้องจัดการ คงรบกวนคุณชายแต่เพียงเท่านี้”

หวางจวินหลงวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ “แม่นาง ข้ามีเรื่องจะสอบถามท่าน ไม่ทราบว่าท่านจะมีเวลาหรือไม่?”

จ้าวเยว่ฮวาหลุบตาลง “ข้าไม่มีเวลา”

ตุ๊บ! ตุ๊บ! ตุ๊บ!

ถุงสามถุงที่เต็มได้ด้วยทองวางลงบนโต๊ะ! แต่ละถุงอัดแน่นจนล้นออกมา!

“อ่อ อีกสามวันให้หลังข้านึกได้ว่าวางพอดี” จ้าวเยว่ฮวาเอ่ยสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที สายตามองถุงทองที่อัดแน่นจนล้น แสงสีทองกระแทกตา!

“…..” ม่อไป่

ท่านช่วยหนักแน่นสักหน่อยจะได้หรือไม่?

นางใช่คนที่สังหารทหารนับร้อยนาย โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนสีใช่หรือไม่?

อีบุ๊คเล่ม 1-3 ออกแล้วนะคะ

เล่ม 1 ตอนที่ 1-78 ค่ะ

เล่ม 2 ตอนที่ 79-133 ค่ะ

เล่ม 3 ตอนที่ 134-213 ค่ะ

ลิ้งค์เล่ม 1 : https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiNTEwMTEyMiI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI4NDg4MCI7fQ

ลิ้งค์เล่ม 2 : https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiNTEwMTEyMiI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5MTMzOCI7fQ

ลิ้งค์เล่ม 3 : https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiNTEwMTEyMiI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5ODAyOCI7fQ

หญิงกาลกิณี!

“ย้ากกก!”

เสียงร้องโหยหวนดังก้องสุสานหมื่นวิญญาณอีกครั้ง ร่างของทหารสามนายสิ้นใจลงอย่างน่าอนาถเหมือนกับทหารสองนายก่อนหน้านี้

หญิงสาวใบหน้างดงามค่อยๆ เงยขึ้น แสงจันทร์และแสงจากเปลวไฟอาบไล้ใบหน้างดงามจนยากจะหาสิ่งใดเปรียบ นางคือความงดงามและอ่อนหวานที่สุดในใต้หล้า

นางมีใบหน้ารูปไข่และดวงตาหวานซึ้ง นางค่อยๆ หลับตาลงและเข้าสู่การระลึกความทรงจำของร่างกายที่นางครอบครอง ภาพความทรงจำหลายอย่างฉายเข้ามาในหัวของนางราวกับนางเผชิญมันด้วยตนเอง

ทว่า ร่างกายที่นางครอบครองนี้มีความทรงจำจำกัด นางรับรู้เพียงเป็นเด็กน้อยที่ถูกหมอหลังเขาคนหนึ่งเก็บกลับมาจากกลางป่าลึก ตอนเขาไปเก็บสมุนไพรได้เจอเด็กทารกพร้อมกับทหารนับร้อยนายที่ตายลง

คนที่รับร่างนี้มาเป็นหมอที่เห็นความตายมาแล้ว เขาเล่าให้ร่างนี้ฟังว่า เขาถือว่ามีวาสนากับร่างนี้ จึงเก็บนางมาเลี้ยงดูในฐานะบุตรสาวบุญธรรม

แต่… หลังจากพ่อบุญธรรมของร่างนี้ออกไปตระเวนรักษาชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ เขาไปหนึ่งครั้งกินเวลาไปนานถึงหนึ่งเดือน ร่างนี้เลยเข้าเมืองและซื้ออาหารกับบ่าวรับใช้

และหลังจากนั้นสามวันให้หลัง ร่างนี้ก็ถูกตามฆ่า บ่าวรับใช้ชายหนึ่งหญิงหนึ่งถูกฆ่าตายอย่างอนาถที่บ้านหลังเขา ร่างนี้วิ่งหนีเข้าป่า วิ่งยาวนานและสุดท้ายก็ถูกฆ่าตาย

ทหารกลุ่มนั้นเลยนำร่างนี้มาเผาที่สุสานหมื่นวิญญาณสินะ!

“จ้าวเยว่ฮวา นอกจากชื่อนี้แล้ว เห็นทีสิ่งที่เหมือนกันระหว่างเราคงเป็นการตายที่เป็นปริศนาพอกัน”

หญิงสาวหัวเราะในลำคอ เท้าเปล่าเปลือยก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวด้วยท่วงท่าสูงศักดิ์ พื้นที่ที่เท้างดงามก้าวเหยียบกลายเป็นสีดำ

หญ้า พื้นดิน ทุกสิ่งที่เท้าบอบบางเหยียบย่างไป ล้วนแต่ถูกเผาด้วยไอร้อนสีดำ!

“เจ้าไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงฆ่าเจ้า พอๆ กับที่ข้าก็ไม่รู้ว่า…”

ร่างบอบบางที่มีบาดแผลเต็มกายก้าวไปในป่าทึบ

“ข้าตายได้อย่างไร”

ร่างบอบบางหายลับไปในป่ามืด

เหลือเพียงซากศพนับร้อยนับพันที่อยู่ใต้สุสานหมื่นวิญญาณแห่งนี้ เหลือเพียงบรรยากาศแสนสงบชวนวังเวง เหลือเพียงเปลวไฟที่เผาไหม้ซากศพที่ไร้คนเหลียวแลให้มอดไหม้ตามสิ่งที่ควรจะเป็น

สิ่งเดียวที่ไม่เหลือคือลมหายใจของทหารห้านาย!

และทหารที่เหลือก็จะไปพบกันที่นรก ในเร็วๆ นี้!

“ย้ากก!”

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาอีกครั้ง ทหารที่อยู่หน้าสุสานหมื่นวิญญาณนับร้อยนายต่างลุกขึ้นยืน สุราและอาหารถูกทิ้งอย่างไม่ไยดี นายกองเดินมาที่หน้าทางเข้าสุสานหมื่นวิญญาณด้วยท่าทางขึงขัง

“หรือว่าวิญญาณแค้นจะตามทวงแค้นอย่างที่ตำนานเล่าขาน?”

“ข้าได้ยินว่า… สุสานหมื่นวิญญาณ เป็นสถานที่น่าสยดสยองที่สุดในแคว้นเรา!”

“หรือว่า องค์หญิงที่เราพึ่งฆ่าไปจะมาทวงแค้น!”

เสียงทหารหลายร้อยนายดังแซงแซ่ นายกองที่ได้ยินประโยคหลังถึงกลับหันกลับมา เขาชี้กระบี่ไปที่หน้าของทหารทั้งหลาย

“ไม่มีวิญญาณอะไรทั้งนั้น พวกเจ้ามันงมงายไปเอง! หญิงกาลกิณีผู้นั้นต่อให้ตายไปแล้ว นรกก็ยังรังเกียจ คงจะเผาดวงวิญญาณของนางแทบไม่ทัน พวกเจ้าอย่าได้เอ่ยอะไรไร้สาระอีก!”

นายกองหันหลังให้กับทางเข้าสุสานหมื่นวิญญาณ เขาหันหน้าไปหาทหารทุกคนและเอ่ยเสียงทรงพลัง ดวงตาของเขามีแต่ความรังเกียจผู้ที่เขากำลังเอ่ยถึง

นางคือองค์หญิงที่จะนำหายนะมาสู่แคว้นหลงอัน!

คำทำนายของราชครูไม่มีทางผิดแน่!

จ้าวเยว่ฮวามองทุกอย่างจากด้านในสุสานหมื่นวิญญาณ

นางยกยิ้มก่อนจะค่อยๆ ก้าวออกไปไม่รีบไม่ร้อน ไม่นานเท้าเปลือยเปล่าก็เริ่มก้าวออกจากเงามืด

พื้นที่ร่างบางเหยียบยังคงเป็นสีดำ นางไม่เก็บซ่อนพิษร้ายที่มากับตัวนางสักนิด เพราะนางคิดว่าไม่จำเป็นอีกต่อไป

ตอนนี้นางอยู่ในแคว้นหลงอัน แคว้นเล็กๆ ที่นางเคยได้ยินชื่ออยู่ครั้งหนึ่ง ที่แท้นางก็มาอยู่ในแคว้นที่ไม่สลักสำคัญอะไรเลยอย่างแคว้นหลงอันนี่เอง

แต่ก่อนนางอยู่สุขสบายที่ดินแดนแห่งนั้น อาจารย์ ศิษย์พี่ทั้งหลายล้วนดูแลนางอย่างดี ไม่คิดเลยว่านางจะมาลำบากที่นี่

นางจะต้องกลับไปแน่ แต่ร่างนี้ก็มีปริศนาเช่นกัน อย่างเช่นว่าเหตุใดนางถึงตาย กลิ่นไอแค้นยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวนาง

ในฐานะผู้มีพลังเบญจธาตุ นางสัมผัสสิ่งลี้ลับได้ นางรับรู้ว่าหากไม่ชะล้างไอแค้นนี้ นางไม่มีวันใช้ร่างกายนี้ได้อย่างสมบูรณ์!

ทันทีที่ร่างงดงามปรากฏออกจากเงามืด ใบหน้างดงามปรากฏต่อสายตาของทหารนับร้อยนาย ความตื่นตกใจและสีหน้าซีดเผือดของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่จ้าวเยว่ฮวาคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว

ไอแค้นจะหมดไป เมื่อนางชำระแค้นสิ้นสุด ตัดบ่วงกรรมทั้งหลาย!

และกลุ่มคนตรงหน้าก็คือเป้าหมายต่อไป!

ทหารต่างถอยหลังและชี้มือไปที่ด้านหลังนายกอง สีหน้าของแต่ละคนยากจะบรรยาย พวกเขารับรู้เพียงว่าบรรยากาศเย็นเยือกจนถึงกระดูก กลิ่นอายอันตรายและสยดสยองเข้ามาในร่างกาย และร่างกายของพวกเขาก็ขยับไม่ได้อีกเลย!

ดวงตาของทหารนับร้อยนายมีเลือดไหลออกมา เบิกตากว้างมองไปที่ด้านหลังนายกอง!

“ไร้สาระ! พวกเจ้าอย่าทำเป็นพวกปัญญาอ่อนที่เชื่อเรื่องผีสาง!”

หลังจากเอ่ยจบ นายกองก็หันกลับมาที่ทางเข้าสุสานหมื่นวิญญาณ เขากำลังจะฆ่าคนที่บังอาจมาหลอกทหารของเขา แต่แล้วใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาเขาก็ฉายชัด

นางฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร!

“เจ้ามันไม่ยอมตาย! ข้าไม่เชื่อว่าจะฆ่าเจ้าไม่ได้!” นายกองชักกระบี่ออกจากฝัก ตรงเข้าไปหาจ้าวเยว่ฮวาด้วยกระบวนท่าสังหาร

พรึ่บ!

จ้าวเยว่ฮวายกยิ้มเล็กน้อย นางทำราวกับว่ากำลังมองมดปลวกเอาตัวรอด นางไม่ขยับ ไม่ออกกระบวนท่า แต่กระบี่กลับหยุดอยู่ตรงหน้านางราวกับชนเข้ากับปราการอันแข็งแกร่ง!

นายกองสีหน้าเปลี่ยน!

“เจ้าเป็นตัวอะไร!”

นายกองพึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าความหวาดกลัวจนควบคุมร่างกายไม่ได้มันเป็นอย่างไร ขนลุกชัน กระดูกสันหลังเสียววาบและเจ็บปวดราวกับถูกบดละเอียด!

นางตาของหญิงสาวมีแต่ความดำมืด!

จ้าวเยว่ฮวายกมือขึ้นตวัดครั้งหนึ่ง พลังไร้รูปลักษณ์ก็ทำลายกระบี่จนเป็นเศษฝุ่น ตัวของนายกองลอยเข้ามาหาร่างบาง มือนุ่มจับที่หัวของนายกองและดึงความทรงจำที่นางอยากรู้มา!

“ข้าเองก็อยากจะรู้เช่นกัน!”

องค์หญิงผู้อาภัพ!

สายลมพัดเข้ามาเรื่อยๆ

ยิ่งผ่านไปนานสายลมยิ่งรุนแรงราวกับโกรธแค้นคนทั้งหลาย ทหารที่ยืนตัวแข็งและดวงตามีเลือดไหลออกมาเริ่มล้มลงทีละคน โดยที่จ้าวเยว่ฮวายังยืนอยู่ที่เดิม มือยังจับที่หัวของนายกองผู้นั้น

“ที่แท้ข้าก็เป็นองค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์จ้าวนี่เอง”

เสียงหวานดังขึ้น ภายในหัวของเหตุการณ์ที่นายกองคนนี้อยู่ด้วยฉายชัดราวกับจ้าวเยว่ฮวายืนอยู่ ณ กลางป่า วันที่พวกเขานำตัวองค์หญิงผู้นี้มาทิ้ง

ความทรงจำ ณ กลางป่าลึก!

ทหารนับร้อยนายยืนกันเป็นวงกลมอย่างเป็นระเบียบ แต่ละนายต่างสีหน้าไม่ยินดีและเคียดแค้นเด็กทารกในอ้อมแขนนางกำนัล

เพราะวันนี้คือวันที่พวกเขาทั้งหมดจะต้องตาย พวกเขาคือทหารที่ต้องติดตามองค์หญิงตามคำทำนาย!

นี่มันเอาชีวิตคนเป็นๆ มาสังเวยชัดๆ

องค์หญิงที่มีดวงหายนะตายไปคนเดียวยังไม่พอ ยังจะเอาพวกเขาตายตามไปด้วย

แม้ว่าทหารเหล่านั้นจะแค้นเคืองเพียงใดก็ไม่อาจหนีพ้นความตาย นางกำนัลที่อุ้มเด็กทารกหญิงน้ำตาร่วง มือของนางสั่นจนแทบจะถือทารกน้อยไว้ไม่ไหว

ด้านหลังของนางกำนัลเป็นหญิงสาวหน้าตางดงามล้มเมืองคนหนึ่ง เครื่องประดับและเครื่องแต่งกายไม่สามัญ ยศศักดิ์สูงส่ง

นางคือฮองเฮาแคว้นหลงอัน มารดาของทารกน้อย!

ใบหน้างดงามล้มเมืองไม่สะท้าน ยิ่งไม่มีความเสียใจต่อสิ่งตรงหน้า กลับกันนางราวกับกำลังกำจัดภัยร้าย หาใช่บุตรสาวของตนเองไม่!

ข้างๆ ฮองเฮาเป็นฮ่องเต้แคว้นหลงอัน หน้าของพระองค์หล่อเหลาคมคาย ดวงตาของทารกที่ลืมขึ้นก็มีส่วนคล้ายกับเขา ทารกน้อยแม้จะเกิดได้ไม่กี่วัน แต่ความน่ารักและเครื่องหน้างดงามสมบูรณ์แบบก็ปรากฏเสียแล้ว

งามล้มเมืองมากกว่ามารดาและผู้ใดในใต้หล้า!

“รีบทำพิธีเถอะ!” เสียงทุ้มเย็นชาเอ่ย ฮ่องเต้โบกมือครั้งหนึ่ง ขันทีข้างกายก็ถือถาดอันหนึ่งเข้าไปหาฮองเฮา ในถาดนั้นเป็นน้ำแก้วเล็กๆ หนึ่งแก้ว

ยาพิษ!

“เพคะ” ฮองเฮาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว ไม่แม้แต่จะเสียใจหรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป นางหยิบแก้วนั้นขึ้นมาจากถาดและป้อนให้กับทารก

นางกำนัลที่อุ้มทารกน้ำตาไหลพราก นางเสียใจราวกับเป็นมารดาแท้ๆ ของทารกน้อย แต่นางเป็นเพียงนางกำนัลตัวน้อยที่ถูกส่งมาทำหน้าที่นี่

นางสงสารทารกในอ้อมแขนเหลือเกิน

ยังไม่ทันได้รับรู้ความสดใสของใต้หล้า ก็ต้องมาตายเสียแล้ว!

และแน่นอนว่า นางเองก็ต้องตายตาม!

ทารกน้อยร้องไห้เสียงดังขึ้นกลางป่า ไม่นานทหารและนางกำนัลก็ต้องดื่มเหล้าพิษและตายตามดั่งคำทำนาย

เสียงทุ้มและแข็งกระด้างดังขึ้นในขณะที่ทหารค่อยๆ ล้มลง

“เมื่อใดก็ตามที่ทารกกาลกิณีถือกำเนิด เมื่อนั้นราชวงศ์จะสูญสลาย เมื่อทารกนั้นเติบใหญ่ เมื่อนั้นราชวงศ์ที่มีประวัติยาวนานนับร้อยปีจะดับสูญ ประชาชนนองเลือด บ้านเมืองเต็มไปด้วยเปลวเพลิง หายนะคือทารกผู้นี้”

“เมื่อทารกตาย หายนะก็ตายตาม!”

จ้าวเยว่ฮวาน้ำตาร่วงโดยที่ไม่รู้ตัว

เพราะแบบนี้สินะ ต่อให้ร่างนี้รอดชีวิตมาได้ แต่สติปัญญากลับผิดปกติเพราะดื่มยาพิษในตอนนั้น

สุดท้าย แม้จะรอดมาได้ แต่ก็ต้องมาตายอีกครั้ง!

องค์หญิงผู้อาภัพ!

แม้ว่าร่างนี้จะไม่รู้ความเป็นไปในตอนนั้น แต่ความแค้นและความอัดอั้นตันใจไม่ได้รับความยุติธรรมยังคงอยู่ในสายเลือด ราวกับย้ำเตือนว่ายังมีสิ่งที่ต้องชำระ!

“เพียงแค่คำทำนายหลอกๆ ก็ฆ่าแกงกันแล้วหรือ?”

จ้าวเยว่ฮวาเอามือออกจากหัวของนายกอง ทันทีที่นางเอามือออก ร่างของนายกองก็ร่วงลงพื้นดินและค่อยๆ สลายกลายเป็นไอสีดำ ไม่หลงเหลือแม้แต่ร่างกายให้ฝัง

นายกองคนนี้เป็นคนข้างกายของคนที่เอ่ยคำทำนาย เพราะแบบนี้เขาถึงรู้เรื่องราวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

ทหารนับร้อยนายที่ล้มลงสิ้นใจทั้งหมด จ้าวเยว่ฮวาเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ นางเพียงแค่รู้สึกว่า… เหตุใดเด็กทารกคนหนึ่งถึงถูกทำเช่นนี้ได้?

คนเป็นบิดามารดา พวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไร?

ความเศร้าเสียใจที่ไร้ที่มาทำให้ร่างบางของจ้าวเยว่ฮวากระตุกไม่หยุด พลังในร่างกายปั่นป่วน นางก้าวเท้าไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าไม่มั่นคง

ราวกับใบไม้ที่กำลังร่วงลงพื้นดิน ร่างบอบบางของจ้าวเยว่ฮวาก็กำลังร่วงลงพื้นเช่นเดียวกับใบไม้ใบนั้น นางไม่มีพลังอย่างที่เห็นภายนอกอีกต่อไป

นางประคองตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เมื่อครู่นี้นางใช้พลังไปมากเกินกว่าที่ร่างกายนี้จะรับไหว ตอนนี้นางไม่มีพลังวิญญาณเหลืออยู่ในร่างแล้ว

ถือเสียว่า แก้แค้นไปอีกหนึ่งก็แล้วกัน!

ไม่เสียเปล่า!

จ้าวเยว่ฮวายกยิ้ม ปล่อยร่างกายให้ร่วงลงพื้นแต่โดยดี!

พรึ่บ!

ในตอนที่ร่างบางกำลังจะล้มลงพื้น ร่างกายผอมบางของชายหนุ่มคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามารับไว้ได้ทันท่วงที ใบหน้าชายหนุ่มถูกสายลมพัดจนผ้าสีดำที่ปิดใบหน้าร่วงหล่น

จ้าวเยว่ฮวารู้สึกถึงความอ่อนนุ่ม นางพยายามมองคนที่ช่วยนางเอาไว้ แต่ไม่ว่านางจะมองอย่างไรก็มองเห็นไม่ชัดเจน

นางไม่มีพลังป้องกันตัวอีกแล้ว!

“คุณชาย ร่างกายของท่าน!”

เสียงร้อนรนของชายหนึ่งคนเข้ามาใกล้ ชายคนนั้นมองคุณชายของตนเองโอบร่างของหญิงสาวคนหนึ่งไว้ด้วยความตื่นตกใจ

ยิ่งตกใจมากกว่าคือ คุณชายของเขายืนได้แล้ว!

ใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังโอบประคองจ้าวเยว่ฮวาเรียกได้ว่าหล่อเหลาเฉิดฉาย ดวงตาคมกล้า จมูกคมสัน ไม่แข็งกระด้างและไม่อ่อนโยนจนเกินไป

นี่คือใบหน้าฟ้าประทานสำหรับเทพบุตร!

ชายหนุ่มก้มมองคนในอ้อมแขนตนเองอย่างแปลกใจครู่หนึ่ง เมื่อครู่เขาเพียงแค่คิดว่าจะปล่อยให้นางล้มไม่ได้ ร่างกายของเขาที่อยู่บนรถเข็นมานานก็ขยับเสียแล้ว

“พานางกลับไปด้วย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

ผู้ติดตามด้านหลังรีบรับคำ

“ขอรับ!”

หลังจากนั้นผู้ติดตามด้านหลังก็โบกมือหนึ่งครั้ง ชายชุดดำก็ออกมาและกางเปลหามเอาไว้เสร็จสับ พากันหามร่างหญิงสาวเหาะตามหลังเจ้านาย ที่กำลังนั่งรถเข็นและมีคนส่งกำลังภายในพารถเข็นเหาะ

ทิ้งไว้เพียงซากศพทหารนับร้อยไว้เบื้องหลัง!

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

ดูข่าวต้นฉบับ