สำนักข่าว The New York Times เผยแพร่บทความภาษาไทย เรื่อง ถนนในเมืองไทยเป็นถนนที่อันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนจน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดอันดับให้ประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก แม้จะลดลงจากอันดับ 2 ในปี 2558 เป็นอันดับ 9 แต่ยังมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสูงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากความประมาทและไร้วินัยของผู้ขับขี่เท่านั้น แต่รวมถึงถนน ยานพาหนะ และการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่จริงจังก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สถานการณ์นี้ของไทย ติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก
โดยรัฐบาลได้ให้คำปฏิญาณที่องค์การสหประชาชาติในปี 2558 ที่จะลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2563 อย่างไรก็ตามเหลือเวลาไม่ถึง 1 ปีก่อนกำหนดเวลาเท่านั้น ประเทศไทยก็ยังห่างไกลจากการที่จะทำให้สัญญาที่ได้ให้ไว้เป็นจริงขึ้นได้ ถนนภายในประเทศไทยยังถูกจัดอันดับให้เป็นถนนที่อันตรายที่สุด 10 อันดับแรกในโลก จากจำนวนการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ซึ่งสามารถป้องกันได้มากกว่า 20,000 รายต่อปี
อัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนในประเทศอาเซียน (ต่อประชากร 1 แสนคน)
อันดับ 1 ประเทศไทย 32.7 คน
อันดับ 2 เวียดนาม 26.4 คน
อันดับ 3 มาเลเซีย 23.6 คน
อันดับ 4 เมียนมา 19.9 คน
อันดับ 5 กัมพูชา 17.8 คน
อันดับ 6 ลาว 16.6 คน
อันดับ 7 ติมอร์เลสเต 12.7 คน
อันดับ 8 ฟิลิปปินส์ 12.3 คน
อันดับ 9 อินโดนีเซีย 12.2 คน
อันดับ 10 สิงคโปร์ 2.8 คน
ส่วนบรูไน ไม่มีข้อมูล
สำหรับสถานการณ์ในกรุงเทพมหานคร นายพานุรักษ์ กลั่นนุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า รัฐบาลได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มมาตรการความปลอดภัยบนทางม้าลาย ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างแท้จริง ด้าน กทม. ได้ดำเนินมาตรการเพิ่มความปลอดภัยบริเวณทางข้ามหน้าโรงเรียน โดยมีเป้าหมายปรับปรุงเครื่องหมายจราจรบริเวณทางข้ามทั้งหมด 450 แห่ง คาดภายในเดือนมกราคม 2563 จะสามารถปรับปรุงและเพิ่มความปลอดภัยบริเวณทางข้ามหน้าโรงเรียนได้ จำนวน 404 แห่ง ส่วนอีก 46 แห่ง จะดำเนินการในปีต่อไป
นอกจากนี้ ได้เปิดโครงการ School Care อำนวยความสะดวกจราจร ดูแลความปลอดภัย และรณรงค์วินัยจราจรบริเวณทางข้ามหน้าโรงเรียน เพื่อให้ทางม้าลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชนอย่างแท้จริง โดยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดทำกิจกรรมจิตอาสาและรณรงค์วินัยจราจรบริเวณทางข้ามหน้าโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งทางม้าลาย 3 มิติ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมรณรงค์วินัยจราจรภายในพื้นที่โรงเรียนที่สามารถควบคุมความเร็วของรถยนต์ได้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะมีขึ้นในโรงเรียนอื่นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย สำนักการจราจรและขนส่ง ได้ร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนปรับปรุงเครื่องหมายจราจรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และให้ข้อมูลของภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เมื่อมีเหตุรับแจ้งต่อไป
ประสิทธิ์ Joe น่าเศร้าจริงๆนาย พานุรักษ์ เป็น ผอ.ได้งัยแต่รู้อย่างคือ ควาย ที่ตายและบาดเจ็บทุกวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับม้าลาย เลย แต่คือจิตสำนึกของคนขับขี่ในบ้านเมืองนี้มันไม่มี
1.ขับขี่เร็ว ไม่เคารพกฎจราจร
2.เมา ไม่คำนึงถึงความปบอดภัย
3.ข้อสุดท้าย จิตสำนึกไม่มี ทุกอย่างก็เลวร้ายไปหมด
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.43 น.
Sunny แก้ที่คนสิครับ กฎหมายต้องหนัก และเอาจริง เพื่อนใครก็ไม่เว้น ทำได้ไหมครับ?
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.40 น.
พัด ประเทศด้อยพัฒนา คนขาดวินัยอย่างหนัก
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.56 น.
นัน🍀ChaNich (ชาณิช)♻ แก้ที่สันดานคน และแก้ที่กฏหมาย ดีกว่ามัย...
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.49 น.
joenitsuka 1.ปรับปรุงพื้นผิวถนนให้มันดีตามมาตราฐาน เรียบ ระบายน้ำได้ดี ทั้งฝาท่อต่างๆให้มันอยู่ระดับเดียวกัน ในกทมมีสักสายไหมที่ดี 2.จิตสำนึก ความมีระเบียบปฎิบัติตามกฎ ของคน แค่นี้พอแล้วมั้ง
23 ส.ค. 2562 เวลา 14.42 น.
ดูทั้งหมด