หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตามาสคอตของมิชลิน กรุ้ปที่มีชื่อว่า ‘บีเบนดั้ม’ หรือเจ้า ‘มิชลินแมน’ ที่อยู่บนป้ายสีแดงตามร้านอาหารชื่อดังมากมาย ซึ่งเป็นตราที่แสดงถึงมาตรฐานร้านอาหารคุณภาพ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความอร่อยระดับโลกเลยทีเดียว แต่เคยสงสัยมั้ย…ว่าเขาใช้เกณฑ์อะไรในการวัดว่าร้านไหนสมควรได้รางวัลระดับ Michelin Stars ไปครอง?
รู้จักรางวัลแต่ละประเภทของมิชลิน
หากเปิดเข้าไปดูในมิชลินไกด์จะสังเกตเห็นรีวิวร้านอาหารสั้นๆ พร้อมกับระบุสัญลักษณ์รางวัลต่างๆ ที่มิชลินมอบให้ ซึ่งก็จะมีตั้งแต่ 1-3 ดาว ที่เชฟทุกคนต่างใฝ่ฝัน และรางวัลที่ไม่มีดาวอย่างรางวัลบิบ กูร์มองด์ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับร้านที่นำเสนออาหารคุณภาพยอดเยี่ยมในราคาไม่แพง และรางวัลมิชลิน เพลท สำหรับร้านที่เสิร์ฟอาหารดีมีคุณภาพ
guide.michelin.com
guide.michelin.com
guide.michelin.com
5 เกณฑ์การประเมินสุดหิน
ผู้ตรวจสอบของมิชลินจะใช้หลักเกณฑ์ในการประเมิน 5 ข้อ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดร้านอาหารตามมาตรฐานมิชลินไกด์ และนำเสนอข้อมูลอย่างจริงใจ เพื่อให้เราได้ออกเดินทางตามไปลิ้มรสสุดยอดอาหารที่ถูกคัดเลือกมาแล้วว่าเด็ด
1. คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้
ข้อนี้ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก เพราะการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีนั้นแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ และมันยังส่งผลที่ดีต่อรสชาติ รสสัมผัสของอาหารอีกด้วย
2. ความโดดเด่นของรสชาติและเทคนิคการรังสรรค์อาหาร
หมายความว่าทั้งรสชาติและเทคนิคการทำก็จะต้องมีความน่าสนใจและแตกต่างไปจากที่อื่น ระดับมิชลินแล้วจะเป็นร้านที่ไม่มีความโดดเด่นได้ยังไงล่ะ
3. เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟที่นำเสนอผ่านมื้ออาหาร
แค่เทคนิคโดดเด่นไม่พอ มิชลินยังวิเคราะห์ไปถึงตัวตนและความยูนีคของเชฟ ผ่านอาหารที่พวกเขานำเสนอออกมาด้วย
4. ความคุ้มค่าสมราคา
ทั้งคุณภาพอาหารและความอร่อยนั้น คุ้มค่ากับเงินที่ลูกค้าจ่ายหรือเปล่า?
5. ความคงที่ของประสบการณ์ในการทานต่างวาระ
มันคงจะเซ็งน่าดูถ้าวันนี้ทานแล้วอร่อยมาก แต่กลับมาทานอีกวันกลับไม่อร่อยเหมือนเดิมซะแล้ว การรักษามาตรฐานและคุณภาพให้คงที่ทุกครั้งจึงเป็น 1 ในเกณฑ์การประเมินของมิชลินด้วย
จะสังเกตเห็นว่ารางวัลมิชลินไม่ได้พิจารณาเรื่องการตกแต่งร้าน การจัดโต๊ะ หรือการบริการเลย แต่ทั้ง 3 ข้อนี้จะถูกเรียกรวมเป็น “ระดับความความสะดวกสบาย” โดยจะใช้เป็นสัญลักษณ์รูปช้อนส้อมไขว้กันแทน
ทีนี้ก็ได้เวลาออกไปตามชิมร้านอร่อยตามลิสต์ที่มิชลินไกด์ เขาได้คัดสรรค์มาให้แล้ว มีตั้งแต่ร้านหรูไปจนถึงร้าน local ราคาเอื้อมถึง แต่ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้ในมิชลินไกด์ในประเทศไทยจะมีเฉพาะร้านอาหารในกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล เชียงใหม่ และภูเก็ต เท่านั้น แต่ในอนาคตหากมีจังหวัดอื่นเพิ่มเติม Health Addict จะมาอัพเดทอีกแน่นอน ส่วนตอนนี้ก็เตรียมปักลายแทงร้านเด็ดได้เลย เข้าไปดูรายชื่อร้านระดับมิชลินไกด์ได้ที่นี่
S. ห้องน้ำร้านมิชชิน 1 ดาว ที่ญี่ปุ่น
ยังสะอาดกว่าจานข้าวร้านxx มิชลิน 1 ดาวที่ไทย
03 เม.ย. 2563 เวลา 21.53 น.
Pat Pat บทความนี้ ควรจะบอกด้วยว่า ผู้ประเมิน anonymous เมื่อไร เงื่อนไขใด จึงจะไปประเมินที่ร้าน
เขาออกแสวงหาร้านเหล่านั้นเองเลยรึป่าว
03 เม.ย. 2563 เวลา 20.55 น.
ชาย ไปไหนได้ เคอฟิวแล้วครับ
03 เม.ย. 2563 เวลา 20.18 น.
ดูทั้งหมด