อาหาร

แจงเหตุผล10ข้อ ยอดผู้ป่วย"โควิด"ไทยไม่ทะลุหมื่น!!

เดลินิวส์
อัพเดต 21 เม.ย. 2563 เวลา 02.48 น. • เผยแพร่ 21 เม.ย. 2563 เวลา 02.43 น. • Dailynews
เพจดังเผยเหตุผล 10 ข้อ ที่ไทยมียอดผู้ป่วยไม่ทะลุหลักหมื่น หลักแสนแบบต่างประเทศ ชี้มีทีมบุคลากรคุณภาพและระบบจัดการที่ดีไม่แพ้ชาติใดในโลก

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้วว่าจะดีขึ้นเป็นระยะ เนื่องจากมีผู้ป่วยรายใหม่ลดลงทุกวัน และแต่ละจังหวัดผู้ป่วยน้อยลงหรือบางจังหวัดก็ไม่มีผู้ป่วยเลย ทำให้ผู้ป่วยสะสมรวมในขณะนี้มีประมาณ 2,800 ราย เสียชีวิต 47 ราย ซึ่งมีจำนวนมากหากเทียบกับต่างประเทศที่มีการแพร่ระบาดเช่นกันนั้น

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนนโลกออนไลน์ แฟนเพจเฟซบุ๊กที่ให้ความรู้ด้านการแพทย์อยู่เสมออย่างแฟนเพจ @Infectious ง่ายนิดเดียว ได้ออกมาเผยเรื่องราวได้ออกมาเผยเหตุผล 10 ข้อ ที่ไทนเรามีเคสผู้ป่วยไม่ทุลุหลักหมื่น หลักแสน แบบต่างประเทศ โดยระบุข้อความว่า

“ตอนนี้ประเทศที่มีผู้ป่วยเกิน 1 แสนราย มีอเมริกา 760,000 ราย เสียชีวิต 40,000 ราย สเปน 200,000 ราย เสียชีวิต 20,000 ราย อิตาลี. 178,000 ราย เสียชีวิต 20,800 ราย ฝรั่งเศส 152,000 ราย เสียชีวิต 19,000 ราย เยอรมัน 145,000 ราย เสียชีวิต 4,600 ราย อังกฤษ 120,000 ราย เสียชีวิต 16,000 ราย”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เกิดอะไรขึ้น!! ทั้งที่ประเทศเหล่านี้การแพทย์การสาธารณสุขน่าจะดี พัฒนามากกว่าเรา กาลเวลาผ่านไป 3 เดือน ยืนยันระบบไทยเราดีไม่แพ้ชาติใดในโลก สมกับอันดับ 1 เอเซีย ที่ 6 ของโลก ความจริง ใครบ้างที่ทำงานเบื้องหลังความสำเร็จ ไทยเรายังยันอยู่ ผู้ป่วย 2,700 ราย เสียชีวิต 47 ราย

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

1) เรามีระบบคัดกรองที่ชุมชนที่ดี อสม. 1.4 ล้านคน เคาะประตูบ้าน รพ.สต. ลงพื้นที่จริงจัง ทั่วโลกและองค์การอนามัยโลกชื่นชม เฉพาะที่ อสม รพ.สต.คัดกรองได้ส่งเข้าระบบเกือบ 5,000 ราย รวมทั้ง เจ้าหน้าที่รพ.สต.และ นวก.สาธารณสุข ทำให้ไม่แพร่ในชุมชน ยังมีผลิตหน้ากากผ้า สอนให้ความรู้จริงจังใน ชุมชน ถ้าต่างประเทศคงบ้านใครบ้านมัน คนในชุมชนก็คอยเป็นหูเป็นตา บ้านไหนเสี่ยง บ้านไหนกลับจาก ตปท. จะสอดส่องกัน รายงานผู้เกี่ยวข้อง ประชาชนมีองค์ความรู้ ป้องกันตัวเองในระดับดี

 

2) อบต. อบจ. ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ผู้ว่าการราชการจังหวัด ฐานะ EOC มีอำนาจสั่งการเต็ม Lockdown ปิดเมือง สนับสนุนด้านกำลังคน ตั้งด่านวัดไข้ สุดยอดแล้ว

3) ทีมระบาด นักระบาด SRRT มดงานคนสำคัญ สวบสวน ค้นหา ลงพื้นที่ตามเคสสัมผัสมาตรวจ คือโคนันดีๆนี่เอง ที่ชัดคือ timeline แต่ละเคส ไปที่ไหน ใครเสี่ยง พิกัดจุดเสี่ยง ทั่วประเทศ ทีมกรมควบคุมโรคสคร. ทีมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตั้งแลป 91 แห่งทั่วประเทศ ตรวจไปแล้ว 1.4 แสนตัวอย่าง ทีม สสจ.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

 

4) ทีมหน้าด่าน บก เรือ อากาศ สนามบิน คัดกรองไปแล้ว 6.5 ล้านคน ทีมคัดกรองที่สถาบันพยาบาล โรงพยาบาลทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน ตรวจจับเคสเข้าข่ายสอบสวนโรค 40,000 ราย พบคนไข้ยืนยัน 2,700 ราย และป้ายคอเพื่อหาเชื้อไปแล้ว 1.4 แสนครั้ง ตรวจมากกว่าประเทศญี่ปุ่น ที่ระบาดระลอก 2

 

5) ทีมอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลแพทย์ ทั้งที่ทำงานและเกษียณราชการแล้วเบื้องหลัง ระดมสมอง ออกแนวทางการดูแลรักษาที่ได้มาตรฐานของไทยเอง และสอน อบรม ตลอด update ตลอด ไม่เคยขาด เร่งผลิตวัคซีน ผลิตยา เพียงพอถ้ามีระบาดระลอกสอง

6) ทีมมดงานในสถาบัน โรงพยาบาล หมอ แผนไทย พยาบาล เภสัช ทันตแพทย์ MT RT PT นวก.สาธารณสุข และ back office ประชาสัมพันธ์ การเงิน แม่บ้าน รปภ จ่ายกลาง นิติเวช โภชนาการ ห้องบัตร ฝ่ายช่างโรงพยาบาล นักสังคมสงเคราะห์ palliative และจิตอาสา ซักซ้อมแผนทั้งบนโต๊ะ ซ้อมสถานการณ์จริง เตรียมเตียง ไอซียู ห้องแยกโรค พร้อมเพียง

 

7) ประชาชนที่ให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามคำแนะนำ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ กินร้อน ช้อนเรา ล้างมือ สวมหน้ากาก ห่างกัน 1-2 เมตร ที่เห็นชัดต่างจากต่างประเทศ คือ หน้ากากอนามัย เราใส่มากกว่าในยุโรป ตั้งแต่ระบาดแถมบางท้องที่ไม่ใส่ถือว่าผิดกฎหมาย และภาครัฐหน่วยงานอื่น เอกชน ประชาชน บริจาคสิ่งของ เงิน อุปกรณ์ต่างๆ อาหารหน้ากาก ชุดหมี กล่องอะคิลิก เตียงเคลื่อนย้ายคนไข้แรงดันลบ สร้างห้องแรงดันลบ

 

โรงแรม ยินดีให้ใช้สถานที่เป็นที่กักกัน หรือ state quarantine รองรับเคสคนไทยกลับจากต่างประเทศ ตัวเลขที่เตรียม 20,000 ราย ตอนนี้ใช้ไป เพียง 2,300 ราย ตรวจจับ ดักจับคนไทยที่ติดเชื้อจาก state quarantine ได้ 70 คน ทำให้ไม่แพร่กระจายในชุมชน

8) วัฒนธรรมเราไม่ได้กอด จูบ สัมผัสมือ เราไหว้ ไม่สัมผัสตัวกัน เหมือนต่างประเทศ จึงเห็นราชวงศ์อังกฤษ แนะนำให้ไหว้อย่างเอเซีย ลดการจับมือ กอดจูบ

 

9) ภูมิอากาศไทยร้อน ไวรัสโคโรน่าไม่ได้ชอบ ต่างประเทศอากาศหนาวเย็นกว่าไทย แต่พอเข้าฤดูฝน หนาว โรคประจำถิ่น เจ้าเก่า จะมาเยือน ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก หลอดลมอักเสบจากอาร์เอสวีในเด็ก เราจึงต้องรีบจบกับโคโรน่าอีก 1-3 เดือน ก่อนเชื้อประจำถิ่นเราจะมาทวงแชมป์

10) การขนส่งมวลชนเรา ไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักแบบต่างประเทศ ทำให้คนไม่ได้เคลื่อนย้ายมวลชน เราจึงกังวลอย่างกรณีสงกรานต์ที่คนจะเดินทางเป็นแสน ข้อมูลจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กราฟการเดินทาง เคลื่อนย้ายมวลชนลดลงชัดเจน

 

เราเดินมาครึ่งทางของโรคระบาดแล้ว ให้ภูมิใจในความเป็น “ทีมไทยแลนด์” เราจะชนะ ก้าวข้ามโควิดไปด้วยกัน แสงสว่างที่ปลายทางอุโมงค์สวยงามเสมอ ถ้าถามว่าใครคือ ฮีโร่ ทำให้ไทยรอดวิกฤต คำตอบคือ “คนไทยทุกคน เราคือทีมเดียวกัน รักเธอ ประเทศไทย ทีมไทยแลนด์”

ขอบคุณข้อมูลแลภาพประกอบ :  @Infectious ง่ายนิดเดียว

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 9
  • Smith
    ทำดีต้องชมแต่ก้อย่าประมาท
    21 เม.ย. 2563 เวลา 03.28 น.
  • N.K.Asia consultants
    แจ่ม รักประเทศไทย
    21 เม.ย. 2563 เวลา 05.31 น.
  • ระยองอยู่เย็นเป็นสุข
    ขอบคุณบุคลากรระดับชุมชนทุกคน ผู้ใหญ่กำนันอสมฺ รถทุกเฉิน ดีโจไทยมีคนดีและดีที่สุดในโลกครับ
    21 เม.ย. 2563 เวลา 05.49 น.
  • JPP
    รักประเทศไทย รักคนไทยที่มีสามัญสำนึก รักบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทุ่มเทเต็มความสามาถ
    21 เม.ย. 2563 เวลา 06.25 น.
  • Maithai 1
    เห็นด้วยคะ่ อยากให้มีอีกบทความที่บอกจุดอ่อนของเราที่สุ่มเสี่ยง เช่น 1. บ้านเราเมืองท่องเที่ยว....2..คนไทยมีสถานที่รวมกลุ่มหนาแน่นตัวแทบติดกันเช่น...3.สังคมเมืองมีความหนาแน่นและในบางเทศกาลจะแน่นมากหลากหลายเชื้อชาติ
    21 เม.ย. 2563 เวลา 03.11 น.
ดูทั้งหมด