เทศกาลปีใหม่เพิ่งผ่านไปไม่นาน ความเสียหายทางการเงินจากเทศกาลกินเลี้ยงและซื้อของขวัญไปจับฉลากที่ออฟฟิศยังคงเป็นบาดแผลชอกช้ำอยู่ในสลิปบัตรเครดิต
สำหรับคนทำงานวัยสามสิบเศษๆ มักหมายถึงการเป็นรุ่นพี่ในออฟฟิศที่อายุงานเกือบๆ สิบปี มีรุ่นน้อง มีลูกน้องต้องดูแล ซึ่งคำว่า “ดูแล” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มักมาในรูปแบบของของขวัญจับฉลากที่นับวันยิ่งต้องลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่วัยสามสิบกว่าๆ นี่แหละ ที่ทำให้มุมมองของผมต่อการจับฉลากปีใหม่เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะสมัยก่อนตอนยังเป็นเด็กน้อยในออฟฟิศ
เราเป็นคนที่เฉยๆ กับงานปีใหม่มาก กล่าวคือไม่อินกับภาคส่วนไหนทั้งสิ้น งานไหนที่ต้องแต่งตัวยิ่งไม่ชอบ รู้สึกว่าไม่สนุก จับฉลากของรางวัลก็ไม่ค่อยมีดวงจะได้อะไรกับเขา เลยไม่ได้รู้สึกว่าการจับฉลากปีใหม่เป็นสิ่งที่น่ารอคอยในรอบปี
แต่การเติบโตมาเป็นรุ่นพี่ในทีม ทำให้เรามีมุมมองใหม่คือ การเห็นน้องๆ ในทีมทำงานกันเครียดตลอดปี โดยเฉพาะน้องในทีมส่วนใหญ่เป็นเซลล์ ซึ่งมันเหนื่อยนะ กับการต้องโดนไล่บี้ปิดยอดกันทุกเดือน
ความว่าสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ จริงๆไม่ได้เกี่ยวกับเงินหมดเลย แต่ยอดขายกูยังไม่ได้เป้าโว้ย เราจึงคิดว่าเทศกาลปีใหม่ควรจะเป็นการคืนกำไรให้สังคมผ่านการจับฉลากปีใหม่ในทีมนี่แหละ
เมื่อคิดการใหญ่ได้แล้ว เราจึงต้องเล่นใหญ่ด้วย
งานปีใหม่ของทีมเรา ไม่มีการแต่งชุดแฟนซี เพราะทำโพลออกมาแล้วพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่อินกับเรื่องนี้ แถมการคิดธีมแต่งตัวก็ไม่ง่าย ยากไปคนก็ขี้เกียจให้ความร่วมมือ ธีมง่ายไปก็ไม่สนุกอีก และทีมเราไม่ใหญ่มากด้วย รวมๆ แล้ว 30 คน เรามองว่ามันไม่ใช่สเกลที่แต่งตัวแฟนซีแล้วจะสนุก
ซึ่งเอาจริงๆ เรามองว่าแต่งตัวแฟนซี มันสิ้นเปลืองเหมือนกันนะ เปลืองทั้งเวลา ที่ต้องไปเช่าชุด เปลืองเงินเช่าเราเลยตกลงกันว่า เราจะทุ่มทุนไปกับการจับฉลากของรางวัลกันนี่แหละ
กติกาการจับฉลากปีใหม่ของทีมเรา ทุกปีทุกคนจะมีของสองชิ้นเป็นอย่างต่ำ ชิ้นแรกคือเอามันส์ไม่เน้นมูลค่า ธีมของขวัญเปลี่ยนไปแต่ละปี ธีมที่ได้รับการยกย่องว่าเลวเป็นพิเศษคือธีมประจำปี 2017 ชื่อธีม Thailand 4.0 คือให้สั่งของออนไลน์มาจับฉลาก โดยที่ไม่ต้องห่อของขวัญ เอากล่องไปรษณีย์มาจับกันเลย
ซึ่งไม่กำหนดมูลค่า จะถูกจะแพง จะใช้ได้หรือไม่ได้ใช้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งความพีคของปีนี้คือ เจ้านายงานยุ่งมากจนไม่มีเวลาซื้อของออนไลน์ตามกติกา รางวัลคือเจ้านายเอามาแก้ขัดคือ “เงินสด” และสดแบบเข้าธีมด้วยการโอนผ่านแอพกันตรงนั้นเลย แต่มูลค่ารางวัลเท่าไรเจ้านายไม่บอก เพราะวิธีบอกคือการส่งรูปสลิปโอนเงินเข้าไปในกรุ๊ปไลน์ของทีม ให้ทุกคนรู้พร้อมกัน ว่าโอนให้เท่าไร ซึ่งพอทุกคนเปิดสลิปในไลน์ดูแล้วถึงขั้นกรี๊ดกันบ้านบึ้ม
แต่ถ้าจับฉลากเพื่อเอามันส์อย่างเดียว คนที่โดนของงืดๆ จะเศร้ามาก นัยว่ากูอุตส่าห์รอมาปีนึง แต่ลงเอยด้วยการจับได้ไม้ทับกล้วยปิ้ง ในขณะที่คนอื่นจับได้จักรยาน มันเศร้าอ่ะมึง ปีนึงมีครั้งเดียวด้วย นี่ก็เลยเป็นที่มาว่าต้องมีของรางวัลอีกชิ้น
ชิ้นนี้เราไม่เอามันส์ ไม่มีธีม ชิ้นนี้แหละคือไฮไลท์ของค่ำคืนนี้ เพราะชิ้นนี้เราเน้นกันที่มูลค่า ซึ่งคนที่ตำแหน่งงานสูง ก็จะต้องซื้อของมูลค่าสูงขึ้นตามไปด้วย ปีล่าสุดของรางวัลสตาร์ทที่ 500 บาท และขั้นสูงสุดของทีมอยู่ที่ 5,000 บาท ใครจะได้อะไร อันนี้คือวัดกันที่แต้มบุญกันล้วนๆ แทบจะต้องนั่งวิปัสสนากรรมฐานสะสมแต้มบุญก่อนมาจับฉลากกัน
ความสนุกของการจับฉลากมันไม่ได้เกิดขึ้นแค่ตอนจับ แต่มันสนุกล่วงหน้ากันเป็นเดือน เพราะทีมรุ่นพี่ (ซึ่งต้องซื้อของรางวัลใหญ่) ร่วมใจกันบิ๊วล่วงหน้ากันเป็นเดือน บิ๊วกันแบบให้เป็น talk of the town ว่านี่คืองานจบฉลากที่ยิ่งใหญ่กว่างานกาชาดสวนอัมพร
มีการพรีวิวของจับฉลาก บางคนให้เห็นถุง บางคนให้เห็นใบเสร็จ เอามาล่อให้น้องๆตื่นเต้นกันทางเฟซบุ๊กตลอดเวลา เป็นที่อิจฉาของเพื่อนทีมอื่นๆในออฟฟิศ ไปจนถึงออฟฟิศข้างเคียง หลายคนสงสัยว่าทำไมทีมนี้มันเล่นใหญ่กันจังวะ
ความดุของการจับฉลากที่เรากำลังพูดถึงนั้น รางวัลมีตั้งแต่ ไมล์การบินไทย 75,000 ไมล์สำหรับแลกไปยุโรป น้ำหอม Hermes น้ำหอม Jo Malone กระเป๋า Freitag กระเป๋า Longchamp และ voucher แบรนด์ต่างๆ
แต่กติกามันไม่ได้จบแค่นั้น เพราะเมื่อจับฉลากกันแล้ว จะต้องจับฉลากรอบสอง ซึ่งเป็นการสลับของขวัญตามคำสั่งในฉลาก เช่น สลับกันคนข้างๆ หรือได้สิทธิ์ไปแย่งของที่แพงที่สุดมา ทำให้เรานั่งอยู่ดีๆ อาจจะมีคนแย่งของของเราไป เอาเป็นว่าจับฉลากกันแต่ละปี ใช้เวลากันสามสี่ชั่วโมงกว่าจะเสร็จ
ความสนุกของการจับฉลากทีมเราค่อยๆเพิ่มขึ้นทุกปี รางวัลอลังการขึ้น เยอะขึ้น กติกาบ้าบอขึ้น ทำให้การจับฉลากของทีมเป็นอะไรที่ทุกคนรอคอยและเป็นที่พูดถึงกันมาก ยิ่งใหญ่จนคุยกันว่าจะมีการขายบัตรเข้างานแล้ว
การได้เห็นความสนุกของน้องๆในทีมทุกปี นับว่าเป็นความสำเร็จของพวกเราในฐานะรุ่นพี่แล้ว ซึ่งความสำเร็จนี้จริงๆมันไม่ได้เกิดจากสูตรสำเร็จของการฟาดเงินซื้อของรางวัลแพงๆเลย แต่มันเกิดจากการเปลี่ยนความคิดแค่นิดเดียวเองว่า เรากำลังตอบแทนความเหนื่อยของทุกคนในทีมด้วยกิจกรรมสนุกๆกัน
ซึ่งก็ต้องขอบคุณมุมมองของวัยสามสิบนี่แหละ ที่ทำให้เราเปลี่ยนความคิดแค่นิดเดียว แต่ทำให้งานปีใหม่ที่เคยแห้งๆกร่อยๆ กลายเป็นอีเวนท์ที่สนุกที่สุดของปีไปแล้ว
HMong เป็นวิธีการจับฉลากปีใหม่ที่สร้างสรรค์มาก
เคยคิดหาวิธีสนุกๆ อยู่หลายแบบเหมือนกัน ปีหน้าคงต้องขอลองเอาไปใช้บางอย่างนะครับ
23 ม.ค. 2562 เวลา 15.32 น.
ผมว่าที่แท้จริงแล้วของขวัญนั้นก็เปรียบดั่งเป็นสิ่งๆหนึ่งที่มีคุณค่าต่อจิตใจกับใครๆหลายๆคนอย่างแน่นอน จะไม่ว่าด้วยสิ่งๆนั้นจะมีราคาที่แตกต่างกันเพียงใดก็ตาม แต่ในสิ่งๆนั้นที่เราได้เรียกกันว่าของขวัญนั้นก็ย่อมที่จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีๆให้ต่อกันได้เสมอครับ.
23 ม.ค. 2562 เวลา 22.07 น.
ไอ้ข้อตกลงที่ไปแย่งของราคาแพงจากคนที่จับได้แล้ว ได้นี่ ถึงแ้ม้จะตกลงกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คิดว่า มันจะพอใจกันรึไอ้คนที่โดนเอาไปนี่ แล้วแต่นะ อาจจะอยากสอนธรรมะกันในการจับฉลากนี่ ประเภทมรณานุสติ แบ๊บ ไม่มีอะไรแน่นอนในโลกนี้😄
24 ม.ค. 2562 เวลา 06.29 น.
....?
23 ม.ค. 2562 เวลา 12.33 น.
ดูทั้งหมด