รมว.พาณิชย์ตรวจห้างขายกระเช้าของขวัญคาดขยายดัวร้อยละ10 ห้ามขายเกินราคา-หมดอายุ

การตรวจสอบการจำหน่ายกระเช้าของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาบางใหญ่ และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต จังหวัดนนทบุรี พร้อมกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในวันนี้ยังไม่พบผู้ประกอบการกระทำความผิดใด ซึ่งตามหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่ดูในด้านราคาสินค้า วันนี้จึงได้ลงพื้นที่มาตรวจกระเช้าของขวัญ ที่ประชาชนเตรียมซื้อเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ ให้สินค้าตรงตามเงื่อนไขที่กรมการค้าภายในระบุไว้  การติดป้ายราคาชัดเจน มีรายละเอียดของสินค้าภายในกระเช้า วันเดือนปีที่หมดอายุ หากไม่ระบุไว้ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท  ส่วนการจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศออกลงพื้นที่ตรวจสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือหากประชาชนพบความผิดปกติของสินค้า สามารถโทรแจ้งได้ที่เบอร์ 1569

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ผู้ประกอบการ ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ลดราคาสินค้าบางรายการเฉลี่ย ร้อยละ 30 มอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนรวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้สามารถซื้อสินค้าได้ ทั้งนี้คาดว่าในปีนี้การซื้อกระเช้า มอบเป็นของขวัญปีใหม่จะขยายตัวจากสินค้าประเภทกระเช้าร้อยละ 10 และมั่นใจว่านโยบายงดมอบรับของขวัญ ของหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน ลดโอกาสการติดสินบนเจ้าหน้าที่ไม่กระทบกับราคาซื้อขายกระเช้าตามท้องตลาด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังกล่าวถึงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ความไม่เหมาะสมการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับร้านค้าปลีกว่า ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนเงินจะถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ และส่วนเงินสดที่ประชาชนสามารถใช้จ่ายเดินทาง จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ รวมถึงสามารถซื้อสินค้าตามร้านค้าปลีกที่มีการติดป้ายประกาศ และออกใบกำกับภาษีได้ เพื่อขอรับใบกำกับภาษี นำไปใช้ลดหย่อนตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีการคืนภาษีกับประชาชน

ด้านความคืบหน้าการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ที่เปิดลงทะเบียนไปเมื่อเดือนเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม - 30 มิถุนายน 2561 มีผู้ได้รับสิทธิ์จำนวน 3.1 ล้านคน ขณะนี้เริ่มทยอยแจกบัตรไปยังพื้นที่ต่างๆซึ่งประชาชนจะสามารถใช้บัตรได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ตามสิทธิที่ได้รับ ส่วนผู้ที่นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาใช้แต่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามเกณฑ์ กระทรวงการคลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ทั้งตัวบุคคลและแบบครัวเรือน ยืนยันกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังได้ร่วมกัน ประเมินผลในโครงการนี้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

เกตุกนก ครองคุ้ม ผู้สื่อข่าว