ทั่วไป

“ในหลวง-พระราชินี” เสด็จฯ เลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

TODAY
อัพเดต 12 ธ.ค. 2562 เวลา 14.40 น. • เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2562 เวลา 14.11 น. • Workpoint News

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.2562 พสกนิกรเฝ้าฯ รับเสด็จฯ ตลอดสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ สายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์ สวมสายสร้อยจุลจอมเกล้า และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตไปยังเรือนแพที่ประทับรับรองบริเวณท่าวาสุกรี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

การนี้รถยนต์พระประเทียบอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 นำรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตไปยังท่าวาสุกรี ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

เจ้าพนักงานราชูปโภคอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 ไปประดิษฐานในบุษบกเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ที่สะพานฉนวนประจำท่าวาสุกรี เมื่อเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเคลื่อนออกไป เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์เข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าวาสุกรี เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เข้าเทียบเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ไว้พร้อมแล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ครุย ทรงพระมาลาเส้าสูง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินไปยังท่าวาสุกรี ณ ที่นั้น องคมนตรี นายกรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าฯ รับเสด็จ

พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลพระกรุณารายงานจำนวนเรือและกำลังพล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี ขณะนั้นทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปประทับเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ซึ่งทอดบัลลังก์กัญญา ตามเสด็จในขบวนพยุหยาตรา

พลเรือเอกสมชาย ณ บางช้าง ผู้ควบคุมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ กราบบังคมทูลพระกรุณารายงานบัญชีกำลังพลประจำเรือ และ นาวาเอกเกษม เอี่ยมสุพรรณ นายเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

เวลา 16.25 น.ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารคออกจากท่าวาสุกรีไปตามชลวิถีท้องน้ำเจ้าพระยา ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่และกลองชนะประจำเรือพระราชพิธีประโคมขึ้นพร้อมกัน ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเคลื่อนไปตามลำดับ ระหว่างนี้วัดที่อยู่ในเส้นทางเสด็จฯ ทางชลมารถ มีการสวดเจริญพระพุทธมนต์ด้วย และตลอดระยะทางมีการใช้บทเห่เรือทั้งหมด 3 องก์ด้วยกัน ประกอบด้วยบทสรรเสริญพระบารมี(บทใหม่) บทชมเรือขบวน และบทชมวัง ประพันธ์ โดยนาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย

ต่อมา เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ เจ้าพนักงานราชูปโภคอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 จากบุษบก เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ไปประดิษฐานบนพระราชยานถม เตรียมเข้าริ้วขบวนราบยาตราไปยังพระบรมมหาราชวัง จากนั้นเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชเคลื่อนออกไป ขณะเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จะเข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมาร์ชธงชัยเฉลิมพล

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์เข้าเทียบสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ขึ้นสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้บัญชาการขบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เฝ้าฯ กราบบังคมทูลพระกรุณารายงาน เสด็จฯ ไปยังพลับพลาที่ประทับรับรอง

เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์เข้าเทียบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ที่สะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จขึ้นสะพานฉนวนประจำท่าราชวรดิฐ แล้วตามเสด็จไปเฝ้าฯ ณ พลับพลาที่ประทับรับรอง

การนี้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งสันติชัยปราการ สวนสันติชัยปราการ

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ออกจากพลับพลาที่ประทับรับรอง เสด็จฯไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ณ ที่นั้น องคมนตรี นายกรัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าฯรับเสด็จ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับพระราชยานพุดตานทอง ทรงพระแสงขรรค์ชัยศรี ยาตราโดยริ้วขบวนราบไปยังพระบรมมหาราชวัง มีพระราชยานถมอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 นำริ้วขบวนราบ

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระดำเนินเข้าริ้วขบวนราบ ในฐานะราชองครักษ์ประจำพระองค์คู่เคียงพระราชยาน ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ริ้วขบวนราบยาตราออกจากเกยพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ท่าราชวรดิฐ

จากนั้น ริ้วขบวนราบยาตราออกจากท่าราชวรดิฐ เลี้ยวซ้ายไปตามถนนมหาราช เลี้ยวขวาถนนหน้าพระลาน เลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี เทียบพระราชยานพุดตานทองที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ประทับพักพระราชอิริยาบถที่พระที่นั่งราชกรัณยสภา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ออกจากพระที่นั่งราชกรัณยสภา เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง ข้างประตูกำแพงแก้ว พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมด้วยรถยนต์พระประเทียบอัญเชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 นำรถยนต์พระที่นั่งออกจากพระบรมมหาราชวัง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

ทั้งนี้ กองทัพเรือ จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ โดยมีเรือพระที่นั่งสำคัญ 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช, เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นเรือพระที่นั่งทรง, เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นเรือพระที่นั่งรอง และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 นอกจากนี้ ยังมีเรือพระราชพิธีอื่นด้วย เช่น เรือรูปสัตว์ เรือดั้ง เรือแซง เป็นต้น สำหรับกำลังพลประจำเรือพระราชพิธี ได้คัดเลือกจากกำลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ จำนวน 2,200 นาย เป็นกำลังพลประจำเรือพระราชพิธี และมีเจ้าหน้าที่ประจำเรือ รวมทั้งสิ้น 2,399 นาย

มีการจัดรูปขบวรจัดตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ โดยจัดรูปขบวนเรือแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ได้แก่ ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีพระที่นั่งอนันตนาคราช, เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือ, เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ และเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 นอกจากนี้มีเรืออีเหลือง เป็นเรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เป็นเรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน

ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก และริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ

สำหรับท่าในการพาย เรือพระที่นั่งสำคัญทั้ง 4 ลำ พายด้วย “ท่านกบิน” ซึ่งเป็นท่วงท่าอันสง่างามสมพระเกียรติ โดยฝีพายจะยกใบพายเฉียงขึ้นเหนือศีรษะ ทำมุม 60 องศากับพื้นน้ำ ขณะที่เรืออื่นๆ พาย “ท่าพลราบ” เป็นการพายโดยใบพายพ้นน้ำไม่เกินกราบเรือ ขบวนเรือมีความยาวจากหัวขบวนถึงท้ายขบวน ประมาณ 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร เส้นทางเสด็จฯ จากท่าวาสุกรีถึงท่าราชวรดิฐ ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 6
  • Go On
    ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    13 ธ.ค. 2562 เวลา 00.05 น.
  • ทรงพระเจริญ
    12 ธ.ค. 2562 เวลา 23.49 น.
  • Pattara
    ทรงพระเจริญ
    12 ธ.ค. 2562 เวลา 23.42 น.
  • BB.วินเทจ & บารเบอร์
    ขอ "ทรงพระเจริญ"ยิ่งยืนนานแสนนาน ราชวงศ์จักรีอยู่คู่ชาติไทยปวงชนชาวไทยไปกาลนานแสนนานเทอญ.........................
    13 ธ.ค. 2562 เวลา 05.46 น.
  • ขอ ทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญ
    13 ธ.ค. 2562 เวลา 10.04 น.
ดูทั้งหมด