What is more important to you, privacy or security?
หลังผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายบนเวที Miss Universe 2019 พร้อมนางงามจากประเทศเม็กซิโก โคลอมเบีย เปอร์โตริโก และแอฟริกาใต้ ฟ้าใส - ปวีณสุดา ดรูอิ้น ตัวแทนจากประเทศไทยก็เจอคำถามสุดหินที่กำลังเป็นประเด็นในขณะนี้
“สิ่งไหนสำคัญกว่าสำหรับคุณ ความเป็นส่วนตัว หรือ ความมั่นคง?”
เป็นที่รู้กันในหมู่แฟนนางงามว่าในเวทีนางงามปัจจุบัน คำถามรอบ 5 คนสุดท้ายนั้นโหดหินและยากขึ้นทุกปี โดยจะเน้นคำถามที่กำลังเป็นประเด็นถกเถียง คำถามด้านสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม รวมถึงคำถามเกี่ยวกับการเมือง
ภายในเวลา 30 วินาที ถ้าคุณเป็นฟ้าใส แบกชื่อไทยแลนด์ไว้บนสายสะพาย วินาทีที่ สตีฟ ฮาร์วีย์ อ่านคำถามและส่งไมค์มาให้คุณ เป็นคุณ คุณจะตอบว่าอะไร?
กลับมาที่คำถาม
“ความเป็นส่วนตัว” กับ “ความมั่นคง” สองหัวข้อที่นักวิชาการเถียงกันไม่จบไม่สิ้น โดยเฉพาะในยุคที่ Online Data มีค่าเท่ากับทอง และรัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศพยายามจับตาดูพฤติกรรมของประชาชนในโลกออนไลน์
Privacy มีจริงรึเปล่า?
ในยุคที่ทุกคนแชร์ทุกอย่างลงไอจีและเฟซบุ๊ก ความเป็นส่วนตัวคงไม่จำเป็นแล้วมั้ง? หากแต่ความเป็นส่วนตัวในโลกออนไลน์นั้นมีมิติที่ลึกลงไปกว่านั้น เพราะในโลกโซเชียล เราไม่เพียงแชร์รูปเครื่องดื่มสวย ๆ ที่เพิ่งถ่ายในบาร์ลับเปิดใหม่ แต่หมายรวมถึงเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ล็อกอินเฟซบุ๊ก โลเคชันของรูปในไอจี หรืออาจหมายถึงข้อความสุ่มเสี่ยงที่เราเคยทวีตไว้เมื่อหลายปีก่อน (คุก ๆ)
จากผลสำรวจของ Comparitech (เว็บไซต์จัดอันดับข้อมูลและเปรียบเทียบบริการออนไลน์) ประเทศไทยถูกจัดอยู่ใน 5 ประเทศที่มีเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตน้อยที่สุด ไล่ ๆ มากับมาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย และอันดับสุดท้ายคือจีน เรียกได้ว่าคนไทยแทบ “ไม่มี” เสรีภาพในการใช้อินเทอร์เน็ตเลย
ผลสำรวจยังบอกว่าสถานการณ์อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยถูกจำกัดอย่างหนักหน่วง ที่แย่ไปกว่านั้นคือผู้คนส่วนมากยังเชื่อว่าพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับปัจจุบันของไทยมีไว้เพื่อ “ลด” การเห็นต่างบนโลกออนไลน์ด้วยซ้ำ และตามสถิติแล้ว กิจกรรมที่นำไปสู่การ “ฟ้องปิดปาก” เพื่อจำกัดเสรีภาพในการพูดในไทย (ย่อมาจาก การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ) ที่มีจำนวนมากที่สุดคือ “การแสดงความเห็นออนไลน์” พูดง่าย ๆ ก็คือการคอมเมนต์ แชร์ หรือการทวีตนี่แหละ
Security นั้นเป็นของใคร?
ความปลอดภัยทางออนไลน์ควรเป็นของเราทุกคน นับเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และเป็นหน้าที่ของรัฐฯ ที่ต้องปกป้องคนในประเทศ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนแทบจะเอาชีวิตไปไว้ในโซเชียลมีเดีย กฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ตควรเป็นการ “ปกป้อง” หรือ “คุ้มครอง” สิทธิของประชาชน ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของเรารั่วไหล หรือสามารถป้องกันเราจากการคุกคามทางอินเทอร์เน็ต ให้เราสามารถใช้ชีวิตในโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ
หรือแม้กระทั่งป้องกันการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวจากรัฐเอง อย่างในกรณีที่ประเทศจีนเพิ่งเริ่มระบบสแกนใบหน้าเมื่อลงทะเบียนซิมการ์ด โดยรัฐให้เหตุผลว่าเพื่อคุ้มครองสิทธิอันชอบธรรมของพลเมืองบนโลกไซเบอร์แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนมองว่าเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และเป็นเพียงความพยายามที่จะสอดแนมประชาชนของรัฐบาลจีน
ยื่นไมค์ให้ “ฟ้าใส”
ฟ้าใส ปวีณสุดา ตัวแทนนางงามจากไทยแลนด์ตอบว่า
“ฉันเชื่อว่ารัฐบาลของทุกประเทศมีนโยบายความปลอดภัยเพื่อปกป้องประชาชนในประเทศ และฉันเชื่อความปลอดภัยไม่ควรข้ามเส้นความเป็นส่วนตัวเพราะทุกคนมีสิทธิ์นั้น แต่ความมั่นคงก็สำคัญเช่นกัน ดังนั้นการจะมีสังคมที่ดีขึ้น รัฐบาลควรพิจารณาเรื่องขอบเขตเหล่านี้ เพื่อหาพื้นที่ตรงกลางที่เราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขค่ะ”
แน่นอนว่าคำตอบของเธอได้รับทั้งเสียงชื่นชมและวิพากษ์วิจารณ์ ถือเป็นนางงามไทยอีกคนที่ได้ตอบคำถามเชิงการเมืองที่แสนจะเข้มข้นและท้าทาย
มงไม่ลงไม่เป็นไร เป็นกำลังใจให้ฟ้าใสนะ
แม้แต่บนเวทีประกวดความงาม เรื่องของการเมืองหรือสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องที่เลี่ยงยาก เพราะเหล่านางงามที่ไม่ได้วัดกันแค่ความสวยอย่างพวกเธอ ทุกคนมีสถานะเสมือนกระบอกเสียงและ “ปฏิกิริยา” ต่อสถานการณ์ในแต่ละประเทศที่ทั่วโลกต่างจับตามอง และเราเชื่อว่าในจุดที่ฟ้าใสยืนอยู่ เธอทำหน้าที่ได้งดงามและเต็มที่ที่สุดแล้ว
อีกครั้งนะ ถ้าเป็นคุณ คุณจะตอบว่าอะไร?
และสุดท้าย ขอบคุณสำหรับคำถามค่า :)
-------
ขอบคุณภาพจาก FB : Miss Universe Thailand 2019
แหล่งอ้างอิง :
https://www.posttoday.com/social/general/608811
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/857659
https://www.bangkokpost.com/tech/1773709/thailand-in-bottom-tier-for-privacy-protection#cxrecs_s
https://www.bbc.com/thai/thailand-50712546
ภาวิช ( น้อย ) ยืนหยัดในพุทธศาสนา ตอบบนทางสายกลางแม้ไม่ใช่ในสายตากรรมการ แต่ผมภูมิใจในคำตอบที่บ่งบอกถึงคำว่าพอดี พอเพียงครับ
16 ธ.ค. 2562 เวลา 10.21 น.
A โก้ เอาเป็นว่าตอบคำถามแย่สุดคะ 5 คนเห็นฟ้าบอกว่าภูมิใจแล้ว แอดมินดูแล้วก็คงแค่นี้ละคะ คนไทยต้องรับนะคะน้องเค้าได้แค่นี้จริงๆ คนเทนน้องฟ้าก็พวกตกรอบทั้งนั้นละคะ บางคนตอบยิ่งกว่าฟ้าอีก ถามa ตอบเรือเลย
15 ธ.ค. 2562 เวลา 13.48 น.
//Benz\\ ไม่เกี่ยวกับคำถาม เค้าตั้งไว้หมดแล้วว่าใครจะได้ตำแหน่งอะไร อย่ามาตลก ถ้าคำถามเป็นตัวชี้วัด แน่จริงให้นางงามทั้งหมดมาตอบคำถามทุกคนสิ น่าจะมีคนที่ตอบดีกว่าคนได้ตำแหน่งด้วยซ้ำ เลอะเทอะว่ะ
15 ธ.ค. 2562 เวลา 10.12 น.
P.P ในความคิดส่วนตัวฝรั่งจะชอบคนที่มีจุดยืนเป็นตัวของตัวเองชัดเจน ฝรั่งไม่มีคำศัพท์ของความเกรงใจ ถ้าตอบคำถามมาแบบกลางๆกึ่งรับกึ่งสู้ มันดูเป็นคนไม่มันใจในตัวเองสามารถแอนไปซ้ายหรือไปทางขวาก็ได้ ไปตามน้ำไม่มีลักษณะผู้นำไม่คำถามเค้าก็ออกเชิงให้เลือกข้อใดข้อหนึ่งเพราะเค้าอยากทราบทัศนคติของนางงามแต่การตอบแบบเซฟโซนกลางๆแบบนี้ใครๆเค้าก็รู้แล้วหรือป่าว นี้อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ไม่ได้เข้าถึงรอบ3คนเพราะทุกคนสวยฉลาดทุกคนแต่มงนางงามก็น่าจะให้คนที่เค้าชัดเจนไม่ใช่ทางโน้นก็ได้ทางนี้ก็ดี
15 ธ.ค. 2562 เวลา 07.26 น.
Maxc ข่าวผิดนะคะ จาไมก้านะคะที่มงลง ส่วนไทยเราได้เข้าถึงรอบ40คนแค่นั้นนะคะ
15 ธ.ค. 2562 เวลา 06.52 น.
ดูทั้งหมด