หนุ่มใหญ่หึงโหด กระหน่ำยิง‘เมีย-พี่สาว-แม่ยาย’ดับ3ศพ ร่ำไห้สารภาพแค้นปันใจอดีตสามี
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ที่บริเวณถนนมหาสิทธิโชค เขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม , พ.ต.อ.วรเพชร เพชรบรม ผกก.สภ.เมืองนครพนม , พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.จีรุฎฐ์ พิมพ์พา รอง ผกก.สืบสวน , แพทย์เวร รพ.นครพนม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ชุดสืบสวน กู้ชีพศรีสัตตนครพนม กู้ภัยนครพนม กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิฟ และรถกู้ชีพ 1669
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนตัดใหม่ บริเวณหน้าตลาดนัดเย็น ฝั่งขาเข้าถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 ที่ริมทางเท้าพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ 4 ประตู ทะเบียน งบ 1003 ชลบุรี พื้นถนนด้านรถประตูฝั่งขวา พบศพผู้ตายเป็นหญิง ทราบชื่อ คือ น.ส.สุจิตรา เชียงใบ อายุ 23 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน 2 นัดเข้าที่ศีรษะและสีข้างเสียชีวิตคาที่
ขณะที่ริมทางเท้าประตูรถฝั่งซ้าย พบศพ น.ส.จิตรา เชียงใบ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของ น.ส.สุจิตรา มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และใกล้เคียงกันบนทางเท้ามีศพนางโอลา เชียงใบ อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 4 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ศีรษะ 1 นัด โดยนางโอลาเป็นแม่ของผู้ตายทั้งสอง ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่กลางถนน 5 ปลอก และหัวกระสุนอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนคนก่อเหตุ คือ นายนพดล น่วมสำลี หรือบี อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังก่อเหตุสลดได้ขับรถจักรยานยนต์ (จยย.) ทะเบียน 1 กค นครพนม 3832 ไปรับลูกสาววัย 8 ขวบ ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงวิทยุสกัดจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบนายนพดล ขี่รถ จยย.คันดังกล่าวมาพร้อมกับเด็กหญิงที่เป็นลูกสาว ที่บริเวณร้านยางรถยนต์ริมถนนทางหลวงฯ 22 เจ้าหน้าที่จึงสกัดและจับกุมตัว โดยนายนพดลได้ชูมือขึ้นเหนือหัว พร้อมบอกว่าขอมอบตัว จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองนครพนม
เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายนพดล ขับรถกระบะมากับ น.ส.จิตรา แฟนสาว ออกจากบ้านเอื้ออาทร ซอย 4 เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อจะไปรับลูกสาวที่โรงเรียนอนุบาล ระหว่างทางเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน นายนพดลจึงจอดรถเพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจ ขณะเดียวกัน น.ส.สุจิตราก็โทรศัพท์บอกแม่คือนางโอลามาช่วย โดยมี น.ส.จิตรา พี่สาวซ้อนท้ายมาด้วย จากนั้นนายนภดลก็ชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงคนทั้ง 3 เสียชีวิตคาที่
นายนพดล เปิดเผยรายละเอียดว่า ได้พบรักกับ น.ส.สุจิตราที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนจะมาตกลงปลงใจอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา เป็นเวลา 2 ปีผ่านมา โดยตนและฝ่ายหญิงต่างมีลูกติดด้วยกันทั้งคู่ ประมาณเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ตนดื่มเหล้าเมาแล้วมีปากเสียงขั้นทุบตีภรรยา จึงทำให้ น.ส.สุจิตรา หนีกลับมาอยู่บ้านที่ จ.นครพนม ด้วยความรักตนจึงตามมาง้อขอคืนดี และพ่อตาแม่ยายเปิดโอกาสให้แก้ตัว หากไม่กินเหล้าเมาตีภรรยาก็จะให้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง โดยตนทำเรื่องย้ายโรงเรียนลูกสาวมาอยู่นครพนม หวังตั้งหลักปักฐานไว้ที่นี่
นายนพดล เล่าต่อว่า นางโอลา รู้ว่าอดีตลูกเขยที่ทำงานอยู่การไฟฟ้าฯ ถูกหวยรางวัลที่ 1 เมื่อปีก่อน จึงเอาลูกชายที่เกิดกับลูกสาวตนมาอ้างให้อดีตสามีมาช่วยดูแล ตนซึ่งเป็นสามีคนปัจจุบันก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มีครั้งหนึ่งขณะที่ตนกลับไปดำเนินเรื่องย้ายลูกสาวมาเข้าโรงเรียนที่นครพนม เช็กพิกัดจากมือถือพบว่าเมียตนเองมาที่ จ.ขอนแก่น จึงรีบเดินทางมาดูพบว่า น.ส.สุจิตรากำลังเดินลงมาจากโรงแรมพร้อมกับอดีตสามีเมื่อสอบถามก็อ้างว่ามีจัดการเรื่องลูก ไม่ได้มีอะไรกัน
มือปืนรายนี้ กล่าวอีกว่า ด้วยความรักเมียจึงไม่คิดอะไร แต่สิ่งที่ทำใจไม่ได้เพราะเปิดโทรศัพท์เมีย พบบันทึกข้อความว่าวันที่ และเวลาเท่าไร ไปอยู่ไหนกับอดีตสามี ตนจึงเค้นถามว่ากลับไปคืนดีกับสามีเก่าใช่หรือไม่ ทีแรก น.ส.สุจิตรา ปฏิเสธ แต่พอตนเปิดหน้าจอที่ก๊อปปี้ไว้ น.ส.สุจิตราจึงยอมรับว่าไปมีอะไรกันจริง และสิ่งที่ตอกย้ำในหัวใจคือตนทำไม่ดีเท่าอดีตสามี จึงเก็บความรู้สึกดังกล่าวไว้
กระทั่งถึงวันที่เกิดเหตุขณะจะไปรับลูกสาว ตนถามว่าจะไปคืนดีกับอดีตสามีก็บอก ตนถามแค่นี้ภรรยาก็โวยวายแล้วโทรศัพท์บอกให้แม่กับพี่สาวมา เมื่อมาถึง น.ส.จิตราไม่พูดพร่ำใช้ฝ่ามือตบใบหน้าตนไป 1 ที พร้อมรุมกันด่าด้วยคำหยาบคาย ด้วยอารมณ์ชั่ววูบจึงดึงปืนที่สะพายอยู่ในกระเป๋ากระหน่ำคนทั้งสามชีวิตดังกล่าว
หลังก่อเหตุได้บอกคนแถวนั้นว่าช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ด้วย โดยตนก็นั่งรออยู่ในที่เกิดเหตุ ประมาณ 15นาที เมื่อยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมา นึกขึ้นได้ว่าลูกสาวไม่มีคนไปรับ จึงบอกคนละแวกนั้นว่าถ้าตำรวจมาบอกด้วยเดี๋ยวมามอบตัว ไปรับลูกสาวที่โรงเรียนก่อน ซึ่งนายนพดลเล่าด้วยน้ำตาต่อว่าหลังยิงเมีย แม่ยาย และ พี่สาว แล้ว คิดจะยิงตัวตายตาม แต่นึกถึงหน้าลูกสาวว่าจะอยู่กับใคร จึงขอติดคุกรับใช้กรรมที่ก่อ และถอดแม็กกาซีนซองปืน พร้อมอาวุธปืนวางไว้ที่หน้ารถ ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนีไปไหนทั้งสิ้น
ด้านนายไพจิตร เชียงใบ อายุ 60 ปี สามีของนางโอลา และเป็นพ่อของ น.ส.จิตรา น.ส.สุจิตรา กล่าวว่า ตนมีอาชีพขับรถสามล้อเครื่อง ก่อนเกิดเหตุนายนพดล ได้ขับรถกระบะออกจากบ้านเอื้ออาทรพร้อมลูกสาว ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีเรื่องระหองระแหงกันมาตลอด ตนมาที่เกิดเหตุพบว่าทั้ง 3 คน เสียชีวิตแล้ว และนายนพดลบอกว่าเดี๋ยวมานะจะไปรับลูกสาว ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหึงหวง
S. คบชู้
04 ก.ค. 2563 เวลา 04.35 น.
ชีวิตแลกด้วยชีวิตเถอะแบบนี้ ..ประหารซะ
04 ก.ค. 2563 เวลา 03.55 น.
Mods ผช เห็นแก่ตัว มีปืนอย่าไปคบหาวันดีคืนดี เมา โมโห มันเสี่ยง
03 ก.ค. 2563 เวลา 14.00 น.
Redstar503 ถึงยังไงก้อไม่ควรไปฆ่าเขาตาย ทั้ง3ชีวิต
03 ก.ค. 2563 เวลา 13.45 น.
ดูทั้งหมด