“LOMOSONIC” ย้ำ “อย่าคาดหวังจากคนอื่น” คำให้กำลังใจถึงคนในสังคมสมัยนี้

“LOMOSONIC” ย้ำ“อย่าคาดหวังจากคนอื่น” คำให้กำลังใจถึงคนในสังคมสมัยนี้

โลกในยุคปัจจุบัน มีการแข่งขันสูงมาก ทุกอย่างขับเคลื่อนไปรวดเร็ว ผู้คนต่างต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ กำลังใจ และหลายครั้ง รู้สึกท้อแท้กับสิ่งรอบ ๆ ตัวที่กำลังเผชิญหน้า เพราะการใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อย ที่ส่งผลให้อ่อนล้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน การทำงาน ครอบครัว รายได้ และการดำเนินชีวิตตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ที่ค่อนข้างหนักจนใช้คำว่า “ถึก” เพื่อให้อยู่รอดในสังคมให้ได้

ล่าสุด วง “Lomosonic” นักร้องอินดี้ ที่เติบโตในค่ายยักษ์ใหญ่ สังกัดสนามหลวงมิวสิก ในเครือ GMM Grammy ได้ปล่อยซิงเกิลที่มีชื่อว่า ‘Tonight We Run’ ในโปรเจกต์พิเศษ"GMM ORIGINAL ALBUM" ในธีม “THE LOVE SPEECH  ขอโทษ ขอบคุณ ไม่เป็นไร” และเพลงนี้ ตั้งใจจะบอกบางอย่างกับสังคมในสไตล์ของพวกเขา ที่ซื่อสัตย์ และทำให้เราจุกได้เลยทีเดียว

จากเนื้อเพลงท่อนสำคัญที่ว่า

“…แม้ทรมานสักแค่ไหนอย่าให้ใจมันหมดหวังจะลุกขึ้นมา

Tonight, we run. ไปสู่แสงของไฟ

แม้สิ้นไร้หนทางแต่ฉันจะก้าวไป…”

ทุกคนต่างเคยเจ็บ พลาดพลั้ง ล้มลงกลางทาง หรือไม่ประสบกับความสำเร็จดังที่ตั้งใจ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ‘พลังใจ’ ที่ต้องสร้างจากตนเองเสมอ ไม่มีใครที่สามารถจะฉุดเราขึ้นมาได้ดีกว่าตัวของเราเอง…สิ่งเดียวที่ยังหล่อเลี้ยงให้คนคนหนึ่งก้าวเดินต่อไป ไม่ใช่คำปลอบใจ หรือให้กำลังใจจากคนรอบข้าง แต่เป็น “พลังใจจากตนเอง” ที่เหลืออยู่ ไว้ใช้เป็นเชื้อเพลิง เพื่อให้ลุกก้าวเดินต่อไปต่างหาก

“ใจต้องแข็งแกร่งเองให้เป็นก่อน” คำพูดให้กำลังใจกับคนที่กำลังท้อแท้ในแบบLomosonic 

บอย นักร้องนำ ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับทาง GMM Grammy Official ถึงเรื่องของการให้กำลังใจกับผู้คน ทำให้เราฉุกคิดถึงความจริงข้อหนึ่งที่ว่า “เราอาจจะกำลัง ‘สำออย’ อยู่หรือเปล่า?”

“เรื่องการให้กำลังใจ สุดท้ายแล้ว เราหวังพึ่งคนอื่นไม่ได้หรอก มันเริ่มที่ใจเราก่อน ใจเราต้องแข็งแกร่งก่อนจากข้างใน เริ่มที่ใจตัวเอง…การให้กำลังใจเป็นสิ่งที่ดีแหละ แต่ผมมองอีกแบบว่า หรือเรากำลังพยายามให้คนแค่มองเห็นเฉย ๆ ไปโพสต์บน Social Network แล้วเรียกร้องความสนใจ เพียงแค่เพราะว่าเรากำลังแค่เหนื่อยอยู่เฉย ๆ รึเปล่า?…”

บอยได้เผยถึงเรื่องราวของการให้กำลังใจ จากประสบการณ์ของเขา เมื่อมีแฟนเพลง inbox มาบอกว่า จะฆ่าตัวตาย ที่เขายังคงตั้งคำถามไว้ถึงประเด็นนี้ และกล่าวถึงสิ่งที่มันควรจะเป็นในสังคม  “…ถ้าเขาจะทำจริง ๆ เราให้กำลังใจ หรือพูดอะไรไป จริง ๆ แล้วเราไม่รู้เลยว่ามันช่วยให้เค้าดีขึ้นได้จริง ๆ เหรอ ห้ามเค้าได้จริงเหรอ หรือว่าทุกคนควรจะปรับที่ใจตัวเอง สร้างความแข็งแกร่งจากตัวเองให้ได้เสียก่อน…”

จากบทสัมภาษณ์ส่วนนี้ ฟ้องอะไรเราบางอย่างในสังคมไทย ที่ว่า…

เวลาเรามีอะไรที่เราท้อแท้ เรามักจะไประบายกันใน Social Network และร้องโอดโอยถึงการขอกำลังใจ ท้อใจ หรือพร่ำบ่นเรื่องราวในชีวิตให้ใครต่อใครได้ฟัง ทั้ง ๆ ที่อันที่จริงแล้ว เรายังไม่ตาย หรือไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้น แต่เราแค่ต้องการเรียกร้องความสนใจจากสังคม โดยที่ยังไม่ได้ลองพยายามช่วยเหลือตนเอง ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเสียก่อน

แม้กระทั่งเรื่องการตัดสินใจจะฆ่าตัวตายของแฟนเพลงของวง ก็สะท้อนให้เห็นมุมของความจริงที่ว่า การพูดปลอบใจ ณ เวลานั้น อาจจะแค่ทำให้คนคนนั้นรอดพ้นการฆ่าตัวตายก็เป็นได้ แต่เมื่อเขาคนนั้นต้องก้าวเดินต่อไปด้วยตนเองลำพัง แล้วถ้าชีวิตของเขาหมดกำลังใจอีก ใครล่ะ ที่จะยื่นมือช่วยเขาได้เสมอและตลอดไป

กำลังใจต้องเกิดขึ้นจากตัวเองมิใช่การพึ่งพิงคนรอบข้าง

บอยได้ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองการให้กำลังใจของบอย ที่จริงใจ และอยากให้คนในสังคมทุกคนมีความแข็งแรงที่หัวใจจริง ๆ มิใช่จากคำพูดให้กำลังใจของคนอื่น

“…สำหรับการให้กำลังใจที่ดี ไม่ใช่เป็นการให้กำลังใจแบบให้ไปตามมารยาทเท่านั้น เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อใจเขาไม่ลุกขึ้นสู้เอง เราไม่อยากเห็นแฟนเพลงของเราฟูมฟาย หรือเรียกร้องความสนใจ แต่ให้สร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้ได้ด้วยตนเองเสียก่อน แล้วลุกขึ้นยืน ขับเคลื่อนชีวิตตัวเองให้ไปข้างหน้าด้วยใจที่แข็งแกร่งนั้นให้ได้ โดยไม่ต้องรอคำปลอบใจ หรือคาดหวังกำลังใจจากใครไปวัน ๆ หนึ่งเท่านั้น”

 แผลยังไม่หายมัวจมอยู่กับอดีตอาจไม่มีอนาคต 

บางครั้งคนเรายังไม่หายเป็นแผล บางทีเรายังจมกับความเศร้าอยู่ หรืออาจจะไม่ได้มีอารมณ์ที่อยู่ในภาวะจะก้าวต่อไปได้ทันที แต่การปล่อยตนเองจมอยู่กับความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าไปนาน ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถพาชีวิตไปข้างหน้าได้เช่นกัน เพราะนั่นหมายถึง การหยุดนิ่งอยู่เฉย ๆ กับตัวเอง และจมดิ่งกับอดีต ที่ทำให้ปัจจุบัน และอนาคตไม่มีก้าวใหม่ ๆ ที่ควรเดินก้าวข้ามพ้นไปได้แล้ว

การหยุดนิ่งเพื่อทบทวนหรือแค่‘ข้ออ้างของคนขี้แพ้ท้อแท้ไม่รู้จบ’ ?

อย่างไรก็ดี การหยุดนิ่งเพื่อทบทวนสิ่งที่ผ่านพ้นมาอย่างมีสติ และเป็นประโยชน์กับตนเองแล้ว เราอาจจะมองได้ว่า การหยุดเดินนั้น จะถือเป็นการหยุดที่ให้คุณค่าบางอย่าง เพราะทำให้คำตอบของการก้าวเดินต่อไปชัดเจนขึ้น ในทิศทาง มีเป้าหมายให้ไขว่คว้า หรือได้ตกตะกอนความคิดบางอย่างมาแล้ว แต่แน่นอนว่า…ทุกอย่างต้องมี Deadline ว่าจะสิ้นสุดการหยุดนั้นไว้ที่ตรงไหน จึงไม่ควรปล่อยให้การหยุดนิ่งของชีวิต กลายเป็นข้ออ้างที่ทำให้ไม่ได้ก้าวเดินต่อสักที เพราะแค่กำลังอ้างว่าคิดทบทวนอะไร ๆ อยู่เสมอ จนเคยตัว…การทบทวน อาจจะเป็นแค่ข้ออ้างหนึ่ง ๆ ให้ได้พักชีวิตยาว ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะเดินต่อเมื่อไหร่ก็เป็นได้

การได้ยินเสียงหัวใจของตนเอง และลองตั้งใจฟังมันให้ชัดว่า เราต้องการอะไร มันทำให้เรารู้ว่า เป้าหมายที่เรามีอยู่ เราต้องการมันมากขนาดไหน มันทำให้เรากล้าลุกขึ้นมาท้าทายเสียงหัวใจของเราอีกครั้ง เหมือนกับเนื้อเพลงที่ว่า…

“…เมื่อเสียงหัวใจยังเรียกร้องให้ไป

จะกอดความหวังที่มีจะลุกขึ้นมา…”

การอยู่ด้วย ‘ความหวัง’ ไม่ใช่‘ความฝัน’

หลายคนมักเข้าใจว่า ‘การจะก้าวเดินต่อไปในชีวิตต้องมีความหวังเสมอ’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว สำหรับคุณค่าของความหวัง มีประโยชน์เสมอ…แต่ไม่ถูกทั้งหมด

เพราะในความเป็นจริง การตีความคำว่า ‘ความหวัง’ กลับสร้างปัญหาใหญ่ เมื่อมันเป็นเพียงความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่หลอกตัวเองไปวัน ๆ ซึ่งไม่ได้นำไปสู่การกระทำที่สร้างความสำเร็จในชีวิตได้จริง ความหวังจึงกลายเป็นแค่สิ่งที่คิดเล่น ๆ แบบไม่เคยลงมือทำ หรือไกลตัวเกินไป…บางครั้ง การเปลี่ยนวิธีสร้างความหวัง ด้วยการตั้งเป้าหมายที่ใกล้ตัวมากขึ้น เป็นเป้าหมายระยะสั้นที่ทำให้มีแรงเดิน อาจจะช่วยให้ความหวัง เปลี่ยนเป็นกำลังใจได้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงกับดักของความสำเร็จ ที่ไม่มีวันไปถึงได้สำเร็จ

คำว่า ‘Run’ ในเพลงนี้อาจมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าที่คิด

คำนี้ในเพลง มีความหมายลึกกว่าที่เราเห็น ในหัวของเรา อาจจะมองเห็นแค่ภาพของการวิ่งรวดเร็ว หรือการพาตัวเองกระโดดสูง ๆ ท้าทายความสามารถขั้นสุด แต่อันที่จริงแล้ว มันหมายถึง ‘การขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้า’ ด้วยพลังใจที่แข็งแรงของตนเอง ซึ่งการขับเคลื่อนอาจจะไม่ใช่การวิ่งด้วยความเร็วสูงเสมอไป แต่อาจจะเป็นเพียงแค่การลุกขึ้นยืน ทดลองทำอะไรใหม่ ๆ หรือฝึกฝนในบางเรื่อง ที่ท้าทายความสำเร็จอยู่ ไม่ได้หมายถึง Speed อย่างที่เข้าใจกันเสมอไป

ความเร็วของการขับเคลื่อนชีวิต ไม่ใช่วิธีการของการสร้างความสำเร็จเสมอไป อาจจะช้า หรือเร็ว แต่ขอให้มั่นคง แน่วแน่ ตั้งใจ และมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ ไม่ล้มลงไปง่าย ๆ ให้เราได้ขับเคลื่อนอยู่เสมอ แม้เราอาจไม่ได้กำลังวิ่งอยู่แบบนักวิ่ง แต่ให้เรารู้ว่า เรากำลังลงมือทำอะไรบางอย่างที่เป็นประโยชน์กับชีวิต กำลังก้าวต่อไปไม่หยุดนิ่ง นี่ต่างหาก คือ "Tonight We Run" ในแบบที่ควรจะเป็น

…ชีวิต(อาจ) ไม่ได้แย่มาก… “จงอย่าสำออย”

ด้วยข้ออ้างที่ทำให้ไม่ได้ก้าวไปไหนสักที…

#อย่าสำออย

ติดตามฟังเพลงTonight We Run ของLomosonic

Music Short Film เพลง‘Tonight We Run’ https://youtu.be/tQmxCpq4exM  

Digital Download เพลงนี้ *1234146 แล้วกดโทรออก

ฟังเพลงนี้ ผ่านทาง Apple Music | iTunes | JOOX | Spotify | LineTV | OMU และสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทั่วประเทศ