รองโฆษก อสส.เผยกรณีตัวอย่าง ศาลสั่งห้ามสามีทำร้ายภรรยาและบุตรโดยไม่ ดำเนินคดี พร้อมสั่งตำรวจตรวจตราที่บ้านทุกวันนาน 6 เดือน เพื่อรักษาสภาพครอบครัว หลังภรรยาเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือถูกสามีเมาสุราทำร้ายคนในครอบครัวประจำ ทั้งนี้ ถือเป็น 1 ในเรื่องที่อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ให้ความสำคัญ แม้เป็นเรื่องในครอบครัว
ศาลสั่งสามีห้ามทำร้ายภรรยาและบุตรเพื่อรักษาสภาพครอบครัว เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยงค์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวแห่งหนึ่ง มีคำสั่งในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัว ยื่นคำร้องให้สั่งห้ามนายดำ (นามสมมติ) ทำร้ายร่างกายภรรยาและครอบครัว หลังนางขาว (นามสมมติ) ผู้เป็นภรรยา ร้องทุกข์ต่ออัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง ว่าถูกสามีที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายทำร้ายร่างกายเป็นประจำ
ต่อมาอัยการคุ้มครองสิทธิ์ฯสอบถ้อยคำและบันทึกไว้ ก่อนรวบรวมส่งต่อให้อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัว ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้คุ้มครองสวัสดิภาพ ระบุว่านายดำมีพฤติกรรมติดสุราอาละวาด ทำร้ายภรรยาและบุตรชายและบุตรสาวอีก 2 คน เป็นประจำ แต่ภรรยาไม่ประสงค์จะดำเนินคดีอาญา ตาม ป.อาญา ม.295 เนื่องจากเกรงจะกระทบความรู้สึกของบุตรและขาดเสาหลักในครอบครัว ศาลไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง 2 ปากและฟังคำคัดค้านฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาแล้ว มีคำสั่งห้ามนายดำผู้เป็นสามี ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ ดุด่า นางขาว ภรรยากับบุตรทั้งสองอีก พร้อมให้นักจิตวิทยาประจำศาลทำการตรวจสภาพจิตนายดำและให้รายงานต่อศาล รวมทั้งให้ตำรวจสายตรวจของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งที่อยู่ในเขตศาล จัดกำลังออกตรวจบ้านที่เกิดเหตุเป็นประจำทุกวัน มีกำหนด 6 เดือน
นายโกศลวัฒน์ยังกล่าวด้วยว่า มาตรการดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวซึ่งอาจเลี่ยงไม่ดำเนินคดีอาญากับคู่สมรสแต่ใช้มาตรการอื่นบังคับแทน เพื่อรักษาสภาพครอบครัวไว้ แต่ถ้าสามีทำร้ายร่างกายถึงสาหัสจะใช้วิธีนี้ไม่ได้ ทั้งนี้สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ถือเป็นหน้าที่หลักในการช่วยเหลือประชาชนและคุ้มครองสิทธิ์ไม่ให้ถูกละเมิด เมื่อมีประชาชนมาขอความช่วยเหลือจะพิจารณาว่ามีช่องทางใดที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายได้
“สำหรับกรณีนี้ถือเป็นตัวอย่างการให้ความช่วยเหลือเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องใกล้ตัว หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ชาวบ้านไม่อยากยุ่ง แต่อัยการให้ความสำคัญ อย่างเหตุนี้ ภรรยาถูกสามีทำร้าย แล้วเข้าพบอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เพื่อขอความช่วยเหลือ อัยการรับฟังแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องขอคุ้มครองสวัสดิภาพในครอบครัว อัยการคุ้มครองสิทธิ์ฯจะสอบถ้อยคำและบันทึกไว้ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยรวบรวมเอกสารส่งต่อไปให้อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัว ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้คุ้มครองสวัสดิภาพ ก่อนศาลจะพิจารณาและมีคำสั่งคุ้มครองตามขั้นตอน” นายโกศลวัฒน์กล่าว
Tong(พ่อพัตเตอร์) ใครชอบทำร้ายผู้หญิงและเด็กเชิญมาต่อยกับผม จะจัดให้หายเครียดไปเลย
16 พ.ย. 2561 เวลา 23.31 น.
สมพร 246 ทนอยู่กับมันทำไม ไม่เข้าใจ
17 พ.ย. 2561 เวลา 00.41 น.
Mr.mmm ทำไมไม่อย่าเลยล่ะ แบบนี้เหมือนใช้ชีวิตเป็นครอบครัวแต่อยู่ในคุกอ่ะ มีตำรวจมานั่งจองหน้าบ้านทุกวัน 6เดือน เหอะ อย่าๆไปเลย ฝ่ายหญิงก็ไม่ต้องระแวงอีกต่อไป ฝ่ายชายก็อิสระไป หากจะบอกว่าอย่าไม่ได้เพราะเป็นห่วงจิตใจลูก ไม่ทันแล้วมั่ง ขึ้นศาลไปขนาดนี้แล้ว ลูกจะไม่รู้เรื่องเลยหรอ แล้วแน่ใจได้ไงว่าหลังจาก6เดือน จะไม่กลับไปเป็นแบบเดิม สุดท้ายก็ไปกันไม่ได้หรอก
17 พ.ย. 2561 เวลา 01.17 น.
ดำเนิน เสาหลักของครอบครับติดสุรา ทำร้ายร่างกายเนี่ยนะ
17 พ.ย. 2561 เวลา 01.07 น.
ถวิล ดี
17 พ.ย. 2561 เวลา 01.07 น.
ดูทั้งหมด