บันเทิง

“เต๋า-ลำเพลิน-เน็ค” 3 หนุ่ม “อีสานบอย” ใครว่าลูกทุ่งเป็น “บอยแบนด์” ไม่ได้

TheHippoThai.com
เผยแพร่ 26 ก.ค. 2561 เวลา 11.00 น.

“เต๋า-ลำเพลิน-เน็ค”  3 หนุ่มอีสานบอยใครว่าลูกทุ่งเป็นบอยแบนด์” ไม่ได้

ใครว่าบอยแบนด์จะต้องคู่กับเพลงป็อปเท่านั้น เพราะในวงการเพลงลูกทุ่งบ้านเราตอนนี้ก็มีบอยแบนด์เหมือนกัน แถมยังน่าจับตามองเอามากๆ เสียด้วย เมื่อแกรมมี่โกลด์ชวนสามหนุ่มที่เรียกว่าเป็นไอดอลสายลูกทุ่ง อย่าง "เต๋า ภูศิลป์, ลำเพลิน วงศกร และ เน็ค นฤพล"มารวมตัวกันในนาม อีสานบอย โปรเจ็กต์เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลง ซึ่งตอนนี้มีเพลงออกมาให้ได้ฟังกัน 3 เพลงแล้ว คือ เฮ็ดพาโล, ฟ้อนอ้อนสวรรค์และ ซอมเบิ่ง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งสามคนบอกว่าการรวมตัวกันครั้งนี้เป็นทั้งเรื่องไม่บังเอิญและบังเอิญ ที่ไม่บังเอิญก็คือพวกเขารู้จักกันอยู่ก่อนแล้วเพราะเป็นพี่น้องในสังกัดเดียวกันและอายุไม่ได้ต่างกันมาก แต่ที่บังเอิญก็คือเคมีที่ตรงกันเมื่อได้มาทำงานด้วยกัน ทั้งที่งานเพลงเดี่ยวของแต่ละคนแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยพี่ใหญ่อย่างเต๋าจะเป็นแนวลูกทุ่งสายเท่ ส่วนลำเพลินถนัดลูกทุ่งอินดี้ ขณะที่น้องเล็กอย่างเน็คจะเป็นลูกทุ่งแบบร็อกๆ

“อีสานบอย” ความต่างที่ลงตัว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“พวกเราต่างคนต่างสไตล์กันอยู่แล้ว แต่พอมารวมตัวกันมันก็เป็นความแตกต่างที่ลงตัวในแบบอีสานบอย ซึ่งตามความคิดผมนะ คาแรคเตอร์ของอีสานบอยนี่คือต้องเท่ แต่แฝงความน่ารักของเด็กอีสานเอาไว้ด้วย” ลำเพลินพูดถึงคาแรคเตอร์ของพวกเขาเมื่อมารวมตัวกัน

“แต่เราก็มีเรื่องที่เหมือนกันนะ คือทุกคนชอบร้องเพลงเหมือนกันหมด เราอาจจะอยู่คนละที่ คนละจังหวัดกัน แต่สุดท้ายเสียงเพลงก็ทำให้เราเดินทางมาเจอกัน แล้วเวลาพวกเราอยู่ด้วยกันมันสนุกมากนะ พอเราสนุก คนดูก็สนุก เรียกว่าน่าจะเป็นสีสันของวัยรุ่นอีสาน” เต๋าช่วยเสริมในเรื่องสิ่งที่เหมือนกันในความต่างของแต่ละคน

น้องเล็กของวงยืนยันถึงเรื่องเคมีที่ตรงกันของพวกเขาว่า “มันเป็นอะไรที่ลงตัวมาก เวลาอยู่บนเวทีนักร้องหลายคนน่าจะมีบางจังหวะที่เขิน ไม่กล้าพูด แต่เมื่อไหร่ที่เราสามคนอยู่บนเวทีพร้อมกัน ผมรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหน พูดผิดพูดถูกบ้าง แต่ก็ไม่เคยเขินเลย”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“เวลาเต้นนี่ผมเต้นลืมตายเลย”

เมื่อมารวมกันเป็นอีสานบอย สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องทำ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ถนัดก็คือเรื่องการ "เต้น" 

“เรื่องเต้นนี่ผมอ่อนกว่าเพื่อนเลย แต่ก่อนเวลาเต้นจะเขินตัวเอง เพราะรู้สึกว่ายืนนิ่งๆ จะมั่นใจในตัวเองมากกว่า แต่ด้วยสถานการณ์พาไปก็เลยต้องเต้น” ลำเพลินออกตัวถึงทักษะการเต้นของเขา แต่ถ้าดูจากคอมเมนต์ของแฟนๆ หลังจากปล่อยเอ็มวีเพลง “ฟ้อนอ้อนสวรรค์” ออกไป ก็ต้องเรียกว่าเขาสอบผ่านในโจทย์ที่ไม่ถนัด

คนที่คล่องเรื่องนี้กว่าที่คิดต้องยกให้ เน็ค เพราะถึงจะไม่เคยเรียนเต้นแบบมีสเต็ปมาก่อน แต่เจ้าตัวบอกว่าสมัยอยู่แถวบ้าน เขาเต้นมาหมดแล้วทุกงาน เน็คเล่าว่า “เมื่อก่อนเวลามีงานแถวบ้านนี่ผมเต้นลืมตายเลย งานบวช งานรถแห่ เต้นกลองยาว เต้นหน้าห้าง ผมเต้นจริงจังหมด แต่พอมาทำงานนี้ก็ได้เรียนรู้ว่าเต้นแบบมีสเต็ปมันต้องแบบนี้ๆ นะ”

 “เพลงของพวกเราเหมือนเอาส้มตำมาใส่ในจานใหม่” 

สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับ "อีสานบอย" อีกเรื่องก็คือตัวเพลงที่มีการเอาคำในภาษาไทยกลางและคำสแลงที่ฮิตในยุคนี้มาใส่ในเพลงลูกทุ่งด้วย 

“พี่โจที่เป็นคนแต่งเพลงเขาแต่งเพลงสตริงมาก่อน เพลงที่เขาแต่งให้อีสานบอยก็เลยจะเป็นแนวใหม่ เพราะใช้สำเนียงสตริงในการแต่ง แต่การร้องเป็นลูกทุ่ง แล้วก็มีคำไทยปนบ้าง โดยรวมแล้วมันจะเหมือนเด็กอีสานที่มาอยู่ในเมืองหน่อย ทำให้เพลงของเราสื่อให้วัยรุ่นฟังได้ง่าย” ลำเพลินเล่าถึงเบื้องหลังเพลงของพวกเขา

“อย่างเนื้อเพลง ‘ฟ้อนอ้อนสวรรค์’ ตรงที่ร้องว่า ‘แค่อยากจะทราบว่าเจ้าคนนี้นั้นมากับไผ’ ถ้าเป็นคนอีสานจริงๆ จะไม่ใช้คำนี้ จะใช้ว่าแค่อยากจะฮู้” เต๋าอธิบายถึงความแตกต่าง พร้อมกับสรุปว่า “เพลงลูกทุ่งของพวกเราก็เลยเหมือนการเอาส้มตำมาใส่ในจานใหม่”

“พูดถึงเรื่องโดนเทวินาทีนี้ผมก็ยังไม่มีใคร”

“เรื่องโดนเทมันเป็นสีสันของชีวิตอยู่แล้วครับ” เต๋า พูดพร้อมกับเสียงหัวเราะของทุกคนในวงเมื่อประเด็นในการคุยกันมาถึงเรื่องการโดนเทตามเนื้อหาของเพลง “ฟ้อนอ้อนสวรรค์” 

แต่คนที่จะพูดถึงเรื่องนี้ได้ดีที่สุดในวงก็คือลูกทุ่งอินดี้อย่าง ลำเพลิน นั่นเอง

“ถ้าพูดถึงการโดนเท จนถึงวินาทีนี้ผมก็ยังไม่มีใครเลยนะ ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแฟนตามประสาวัยรุ่น ยังไม่ได้เข้ามาเป็นนักร้อง แต่พอเราเริ่มเข้ามาทำงาน ไม่มีเวลาให้เท่าแต่ก่อน เขาก็เทเรา แต่ผมก็เข้าใจนะว่าเราให้ความสุขเขาไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้เขามีความสุข… บางบทเพลงมันก็มาจากชีวิตจริง”

 “เราคือคนอีสานยุคใหม่ที่ภูมิใจในชาติกำเนิด”

 นอกจากผลงานเพลงร่วมกันในนาม “อีสานบอย” ที่มีความหลากหลายทั้งเพลงเร็วและเพลงช้าที่ใช้วิธีการร้องแบบ อะแคปเปลลา และอีกหลายเพลงที่แฟนเพลงสามารถติดตามกันได้ตลอดปีทาง LINETV แต่ละคนก็ยังขยันทำงานเพลงในสไตล์ของตัวเองอยู่เหมือนเคย 

ล่าสุด "ลำเพลิน" เพิ่งปล่อยเพลง ขอสมัครเป็นแฟนใหม่ ออกมา หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากเพลง หมาวัด ที่ทำให้เอกลักษณ์ลูกทุ่งอินดี้ที่ใช้คำแบบดิบๆ ของเขาชัดเจนและโดนใจแฟนเพลง

ด้าน "เน็ค" เองก็เพิ่งใช้น้ำเสียงและวิธีการร้องที่เป็นลูกทุ่งขาร็อกของเขารักษาเพลง คำที่บ่กล้าเว้า ในรายการสมรภูมิชิงเพลงเอาไว้ได้

ส่วน "เต๋า" พี่ใหญ่ของวงที่มีทั้งงานเพลงและงานแสดง ช่วงนี้เขาต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งให้กับการรับบทพระเอกในละครเรื่อง มนต์รักทรานซิสเตอร์ ที่กำลังจะออกอากาศทางช่อง GMM25 เร็วๆ นี้ และเป็นละครที่เขาต้องร้องเพลงประกอบเกือบทุกตอนด้วย

ถึงแม้งานเดี่ยวของแต่ละคนจะมีทิศทางต่างกัน แต่อีกสิ่งที่ทั้งหมดมีเหมือนกันนอกจากจากความชอบเรื่องเพลงก็คือความภูมิใจในความเป็นอีสานของตัวเอง สามหนุ่ม "อีสานบอย" ทิ้งท้ายถึงเรื่องนี้ว่า

“ความเป็นอีสานนี่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาก อาหารอีสานก็น่าภูมิใจ เรื่องดนตรี เรื่องฟ้อนรำก็มีเอกลักษณ์ชัดเจน คนไทยก็รู้ คนต่างชาติก็สังเกตได้ เพราะฉะนั้นการบอกว่ามาจากอีสาน ชอบฟังลูกทุ่งหมอลำมันน่าจะเป็นเรื่องน่าภูมิใจเสียมากกว่า” 

 “เราถือว่าเราเป็นคนอีสานยุคใหม่ที่เราภูมิใจในชาติกำเนิด” 

ความเห็น 4
  • วัน
    น่ารักมากค่ะ3หนุ่ม#อีสานบอยจะรอติดตามผลงานค่ะ
    27 ก.ค. 2561 เวลา 17.27 น.
  • PoNgPaT.j _SUMMIT™
    อิสาน ไม่ใช่ อีสาน นะครับ ท่าน...
    29 ก.ค. 2561 เวลา 01.09 น.
  • mylifemywaymyCIVIC
    อีสานนี่คือไร
    27 ก.ค. 2561 เวลา 16.38 น.
  • สุดยอดคับขนาดผมเป็นคนกุงเทพแท่ๆเลยผมยังชอบมากๆๆ
    26 ก.ค. 2561 เวลา 19.30 น.
ดูทั้งหมด