ไลฟ์สไตล์

เช็กลิสต์นิสัยที่ต้องเปลี่ยนให้ไว ถ้าอยากมี 'เงินเก็บ'

LINE TODAY ORIGINAL
เผยแพร่ 28 ส.ค. 2564 เวลา 17.00 น. • pp.p
รูปจาก pexels.com

เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่า.. ทำไมหาเงินมาเท่าไหร่ก็มีเงินใช้แบบ ‘เดือนชนเดือน’ ทุกที ไม่ว่าจะลองย้ายงานเพิ่มเงินเดือนสักกี่ที่ หรือหาอะไรทำเป็นอาชีพเสริมก็แล้ว แต่ก็ยังต้องมาลุ้นทุกเดือนว่าจะมีเงินใช้เดือนหน้าไหมน๊า~

เอาล่ะ! ลองมาเริ่มสำรวจที่ตัวเองกัน ว่าสิ่งเหล่านี้หรือเปล่าที่เป็นสาเหตุหลักทำให้เงินหามาได้ ไม่เคยเหลือให้เก็บเลยสักเดือน หากใช่จะได้รีบปรับปรุง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ใช้เงินเกินตัว

ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะอยากใช้ชีวิตสวยหรูดูน่าอิจฉา เวลาอะไรออกใหม่ หรือของมันต้องมีจึงรีบ cf ไว้ไม่อย่างนั้นเชยแย่ แต่ลองหยุดและตั้งสติคิดดูให้ดีว่ามันคุ้มกันแล้วจริงๆ หรือที่จะต้องมานั่งกินอาหารสำเร็จรูปช่วงสิ้นเดือน ข้าวของเครื่องใช้อินเทนรนด์อย่างไรก็มีวันตกรุ่นอยู่ดีนะ

จับจ่ายเพื่อคลายเครียด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ก็ทำงานเครียดมาทั้งวัน ฉันสมควรหารางวัลให้ตัวเองบ้าง” ไม่ว่าจะเป็นไอเท็มเจ๋งๆ ที่เล็งไว้ในใจอยากได้อยู่นาน หรืออาหารมื้อใหญ่ที่โดยปกติไม่ได้รับประทานได้บ่อย ๆ และเมื่อความเครียดบังตา การซื้อมาก็ทำให้รู้สึก ‘ฟิน’ ซึ่งการใช้เงินเกินจากปกติในชีวิตประจำวันบ่อยๆ เช่นนี้ทำให้สิ้นเดือนมีเรื่องให้เครียดยิ่งกว่าเดิมอีกก็เป็นได้

เสียเท่าไหร่ไม่ว่า แต่เสียจะหน้าไม่ได้

“ภาษีสังคม” ที่ค้ำคอเป็นรายจ่ายที่บานปลายได้ไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นค่าใส่ซองลงขันหรือซื้อของขวัญโอกาสพิเศษต่างๆ ยิ่งถ้ามีความคิดเปรียบเทียบว่าคนนั้นให้เท่านี้ เราจะให้เท่าไหร่ดี น้อยกว่าเดี๋ยวเสียหน้า.. จำไว้ว่าความหน้าใหญ่ใจโต ไม่มีประโยชน์อะไร ยิ่งในยามที่ต้องลำบากอาจไม่มีใครเชื่อ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซื้อมาแล้วยังไม่ได้ใช้ ดีกว่าอยากใช้แล้วไม่ได้ซื้อ

ยอมรับมาเสียดีๆ ว่าคุณก็แอบคิดแบบนี้หลายครั้งเวลาที่ช้อปปิ้ง.. และเชื่อเถอะว่าส่วนใหญ่ของเหล่านั้นซื้อมาก็ไม่ได้ใช้จริงๆ และแม้ถึงเวลาที่ต้องใช้ก็คงหาไม่เจอ หรือจำไม่ได้เสียด้วยซ้ำว่าเคยซื้อมา จนสุดท้ายก็หาซื้อมาใหม่ กลายเป็นของที่ซ้ำเต็มบ้าน อย่ากระนั้นเลย ซื้อเมื่อจำเป็นต้องใช้ ดีกว่าซื้อมาเก็บไว้ คิดรวมๆ กันมันก็หลายสตางค์อยู่นะ

เห็นแก่ของถูก

คุณเองหรือเปล่าที่ตกเป็น ‘ทาสการตลาด’ หลงเวียนวนอยู่ในวังวนของโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม ซื้อให้ครบเท่านี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งของแถมสิ่งนั้น บวกลบดูแล้วมัน(คิดว่า)คุ้ม หรือแม้แต่ซื้อเยอะๆ ได้ ‘ราคาส่ง’ ซึ่งจริงอยู่ว่าอาจทำให้ราคาต่อชิ้นถูกลง แต่ซื้อเท่าที่จะใช้ยังไงก็ดีกว่า เชื่อสิ!

จ่ายบิลบัตรแค่ขั้นต่ำ

เรื่องนี้เรียกว่าอันตรายที่สุด เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่มี ‘ยอดค้างชำระ’ ที่เลยกำหนดจ่าย คุณจะถูกคิดดอกเบี้ยทันทีโดยไม่มีข้อแม้ และ ไม่ว่าเจ้าหนี้จะเป็นใคร โหดหรือไม่ แต่ดอกเบี้ยนั้นก็คือค่าผิดเวลาที่จะต้องจ่ายไปโดยไม่ได้หยิบหรือจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เหมือนซื้อเวลาต่อยอดหนี้ไปเรื่อยๆ จนจ่ายไม่ไหว คนที่จะแพ้ก็คือตัวของคุณเอง

ยืมเงินตัวเอง

เมื่อถึงจังหวะที่การเงินมีปัญหา แต่ว่ายังมีบุญเก่าเป็นยอดเงินนบัญชีที่พอมีให้กู้สถานการณ์เฉพาะหน้า จงจำไว้ว่าแม้คุณจะเป้นเจ้าหนี้ของตัวเอง ก็ต้องมีวินัยในการคืน ห้ามลืมเป็นอันขาด มิเช่นนั้นจะทำให้ยอดเงินเก็บในบัญชีลดลง แถมยังเสียนิสัย เสียวินัยในการใช้เงิน อนาคตจะลำบาก

ทั้งหมดนี้มีตรงกับตัวเองบ้างสักข้อหรือไม่?..

ถ้าคำตอบของคุณคือ ‘ใช่’ จงรีบเปลี่ยนตัวเองให้ทัน ก่อนที่มันจะสายเกินไปนะ

ความเห็น 3
  • suthee.j
    จริงแท้แน่เชียว เมื่อก่อนซื้อเพราะความอยาก ไม่ได้ซื้อเพราะความจำเป็น พออายุมากขึ้น นั่งมองถ้าคิดเป็นเงินเยอะมาก แถมหลายสิ่งไม่ได้มีประโยชน์ตอนนี้เลย ถ้าหมุนเวลากลับไปได้ เก็บเงินแล้วใช้เท่าที่จำเป็นดีกว่า อายุมากแล้วจะเข้าใจ บอกตอนนี้ไม่ฟังหรอก เพราะแพ้กิเลสตนเอง
    29 ส.ค. 2564 เวลา 05.53 น.
  • Chaiwat. K.j.p.
    ไพวกต้มตุ๋น
    29 ส.ค. 2564 เวลา 13.02 น.
  • 'Suwipa
    ถูกทุกข้อค่ะ
    15 ก.ย 2565 เวลา 05.57 น.
ดูทั้งหมด