วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 สมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ เอพีเอชอาร์ ได้ออกแถลงการณ์ด่วน ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ เป็นเวลา 10 ปี จากกรณีเงินกู้พรรคว่า สมาชิกรัฐสภาในภูมิภาคเอเชิยตะวันออกเฉียงใต้ต่างแสดงความผิดหวังต่อศาลรัฐธรรมนูญที่มีคําสั่งตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการคุกคามต่อกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยและฝ่ายค้าน
ในวันศุกร์ ศาลประกาศยุบพรรคอนาคตใหม่โดยชี้มูลความผิดว่ามีการฝ่าฝืนในมาตราต่างๆ ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง.ศ.2560 สบเนื่องจากการกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ก่อตั้งพรรคเป็นจํานวนเกิน10 ล้านบาทในรอบสิบสองเดือน ศาลยังตัดสินอีกว่ากรรมการบริหารพรรคไม่สามารถมีบทบาททางการเมืองหรือตั้งพรรคการเมืองได้เป็นเวลา 10 ปี
“การลงโทษนี้ดูไม่สมเหตุสมผลโดยสิ้นเชิงต่อการกระทําและเมื่อหันไปมองคดีความจํานวนมากที่ดําเนินต่อพรรคอนาคตใหม่และสมาชกพรรคตั้งแต่พรรคก่อตั้งขึ้น เป็นเรื่องยากที่จะไม่ตั้งคําถามว่าพวกเขาถูกเลือกปฏิบัติเพราะเป็นภัยต่อสถาบันการเมืองที่กําลังกุมอำนาจใช่หรือไม่่” กล่าวโดย Abel Da Silva สมาชกรัฐสภาประจําประเทศติมอร์-เลสเต้ และสมาชกรัฐสภาอาเซิยนเพื่อสิทธิมนุษยชน (ASEAN Parliamentarians for Human Rights –APHR)
ในช่วงเลือกตั้งปีพ.ศ. 2562 พรรคอนาคตใหม่ปรากฏตัวในฐานะพรรคที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสามโดยได้รับเสียงจากประชาชนไปมากกว่า 6 ล้านเสียงและได้ที่นั่งทั้งหมด 80 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร
อย่างไรก็ตามนับแต่นั้นมา สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ก็ตกเป็นเป้าโจมตีของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยพรรคถูกดำเนินคดีมากกว่า 30 คดีภายใต้กฎหมายต่างๆ โดยที่กฎหมายจํานวนมากไม่สอดคลองกับกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 นายธนาธรถูกตัดสิทธิการเป็น ส.ส. หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้มูลความผิดในฐานถือหุ้นสื่อในระหว่างที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในขณะที่พรรคอนาคตใหม่เพิ่งรอดการยุบพรรคมาอย่างหวุดหวิดเมื่อเดือนที่แลวหลังจากที่ศาลตัดส้นว่า หัวหน้าพรรคไม่ได้มีความผิดฐานล้มล้างการปกครอง
ผู้วิพากษ์วิจารณ์การเมืองต่างออกมาบอกว่ารัฐบาลและสถาบันของรัฐมีอคติทางการเมืองจากการจ้องจัด การพรรคอนาคตใหม่
ในขณะเดียวกันกลับเพิกเฉยหรือมองข้ามกรณีและข้อกล่าวหาต่างๆที่คล้ายกันที่มีต่อพรรคที่อยู่ฝ่ายเดียวกันกับกองทัพ
“คําตัดสินนี้ ส่งสัญญาณใหักับประชาชนหกล้านคนว่าเสียงของพวกเขาไม่มีความหมายเลย” Francisca Castro สมาชิกรัฐสภาประเทศฟิลิปปินส์และสมาชิก APHR กล่าวและว่า “การเลือกตั้งปีที่แล้วควรจะช่วยปิดฉากการปกครองโดยทหารในประเทศไทย แต่หลังจากที่คําตัดสนของศาลออกมาวันนี้ไม่มีใครสามารถโดนหลอกใหเชื่อได้ว่ามันเป็นเช่นนั้น”
นอกเหนือไปจากการยุบพรรค สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ยังต้องเจอการถูกดําเนินคดีทางกฎหมายอีก
และบางคดีอาจนําไปสูการจองจําสมาชิกพรรค
นายธนาธรและสมาชิกพรรคอีกคนหนึ่งคือ นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 จากการจัดชุมนุมใจกลางกรุงเทพมหานครในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเพื่อประท้วงรัฐบาลที่พยายามจะยุบพรรคอนาคตใหม่
เจาหน้าที่รัฐกําลังดําเนินคดีกับทั้งสองคนฐานชุมนุมและใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
พรรคการเมืองจํานวนหนึ่งถูกตัดสทธิเพราะคําตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ นับตั้งแต่พรรคไทยรักไทยโดนให้สิ้นสภาพพรรคในปี พ.ศ. 2550 หลังจากเกิดเหตุรัฐประหาร ส่วนพรรคที่ใกล้ชิดกับกองทัพและสถาบันการเมืองนั้นหลีกเลียงชะตากรรมเชินเดียวกัน และการกระทําเชนนี้ ก็นําไปสู่ข่อครหาเรื่องอคติทางการเมือง
“พรรคอนาคตใหม่คือพรรคล่าสุดท่ามกลางพรรคการเมืองฝ่ายค้านจํานวนมากที่โดนตัดสิทธิิ เป็นที่ประจักษ์ชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าพรรคใดก็ตามที่ท้าทายอํานาจทางการเมืองของทหารและสถาบันรัฐจะไม่ได้รับการละเว้น” Castro จาก APHR กล่าว
APHR ระบุว่าหากรัฐบาลไทยอยากจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับ “เส้นทางสู้ประชาธิปไตย” ของประเทศ
รัฐบาลควรหยุดดําเนินคดีที่มีเจตนาทางการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่และสมาชิกพรรค รวมไปถึงนักปกป้องสทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมที่สนับสนุนประชาธิปไตย รัฐบาลควรตรวจสอบและเปลี่ยนกฎหมายที่กดขี่ให้เทียบเท่ากับมาตรฐานและจารีตสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว APHR ออกข้อเสนอแนะให้กับรัฐบาลเพื่อให้การฟื้นฟูประชาธิปไตย ความยุติธรรม และหลักนิติธรรมในประเทศไทยกลับคืนมาและเพื่อให้แก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560
การดําเนินคดีกับพรรคอนาคตใหม่สอดคล้องกับทิศทางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรัฐบาลจะสกัดกั้นพรรคดวยการดําเนินคดีอาญาที่กุขึ้นมาต่อสมาชิกพรรค และใช้“อาชญากรรม” เหล่านั้นเป็นขออ้างถอนสภาพการเป็นสมาชิกรัฐสภา โดยกระบวนการนี้เรียกว่า“นิติสงคราม”(lawfare)
รูปแบบการดําเนินคดีเช่นนี้ปรากฏให้เห็นในประเทศกัมพูชา ที่มีการยุบพรรคสงเคราะห์ชาติซึ่งเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวที่มีประสิทธิภาพ และมีการดําเนินคดีที่กุขึ้นมาต่อสมาชิกพรรคและนักกิจกรรม เช่นเดียวกับประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีการตัดสินจําคุกหรือดําเนินคดีอาญาที่น่ากังขาต่อสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้าน โดยเฉพาะผู้ที่เคยวิจารณ์นโยบายสงครามยาเสพติดของประธานาธิบดีดูแตร์เต้
Damrong D นี้ก็ขยะสังคม อยู่นานตายคาเก้าอี้แน่ๆๆๆ กรรมจะตามสนองสักวัน
22 ก.พ. 2563 เวลา 03.51 น.
Mark2019 ระวังประชาชนคลั่งนะสานนนนนน...
21 ก.พ. 2563 เวลา 19.14 น.
Kamphol รับเงินมาเท่าไรถึงออกมาเห่า รู้จักไหมเสือกอะไรด้วย ประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นไอ้พวกระยำพวกมึง
21 ก.พ. 2563 เวลา 16.05 น.
X-Man ลบกุก็พิมพ์ใหม่ กุว่าง
APHR, mind your own fickin biz!
Don’t stick ya nose into someone else biz!
21 ก.พ. 2563 เวลา 16.00 น.
รองวิทยา ไม่ผิดหวังที่คำตัดสินออกมา คืนนี้นอนหลับฝันดีแน่ๆ
21 ก.พ. 2563 เวลา 12.21 น.
ดูทั้งหมด