นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์เพื่อช่วยบรรจุหน้ากากอนามัยใส่ถุง ถุงละ 4 ชิ้น ชิ้นละ 2.50 บาท ราคาถุงละ 10 บาท เพื่อนำไปกระจายให้ถึงมือประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด และได้เพิ่มการกระจายผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-eleven, มินิ บิ๊กซี, โลตัส เอ็กซ์เพรส รวมแล้วกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ
จากที่ก่อนหน้านี้ ได้เปิดจำหน่ายที่กระทรวงพาณิชย์ทุกวันทำการตั้งแต่เวลา 09.30 -16.30 น. หรือจนกว่าหน้ากากอนามัยที่นำมาขายในแต่ละวันจะหมด และกระจายผ่านร้านธงฟ้าในจังหวัดต่างๆ ประมาณ 1,198 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ง่ายขึ้น
"ตั้งเป้าว่าสัปดาห์นี้ จะเร่งกระจายหน้ากากอนามัยผ่านช่องทางที่ว่ามาให้ได้ 1 ล้านชิ้น ตอนนี้กำลังเร่งบรรจุ ระดมคนจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วย เพราะกรมฯ ต้องการให้ประชาชนหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ง่าย และไม่แพง โดยให้สังเกตที่หน้าถุงจะมีการแสตมป์ตราของร้านธงฟ้า ขายถุงละ 10 บาท ในถุงมี 4 ชิ้น และจำกัดการซื้อคนละ 1 ถุง หรือเพียง 4 ชิ้นเท่านั้น เพื่อให้ทุกคนหาซื้อได้"
อธิบดีกรมการค้าภายใน
สำหรับการจัดหาหน้ากากอนามัยขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้นมาก หลังจากที่มาตรการทางกฎหมายได้บังคับใช้ ทั้งการกำหนดให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายแจ้งสต็อกที่มีในครอบครอง ห้ามส่งออก และขอปันส่วนจากผู้ผลิตมาไว้ที่ศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกระจายต่อให้หน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ก่อน และประชาชน
ทำให้ปัจจุบันในระบบมีผู้แจ้งสต็อกเข้ามารวม 30 ล้านชิ้น และมีหน้ากากอนามัยส่งเข้ามายังศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยวันละประมาณ 500,000 ชิ้น ซึ่งได้จัดสรรให้กับองค์การเภสัชกรรม เพื่อกระจายต่อให้กับโรงพยาบาล 3.8 ล้านชิ้น, ร้านธงฟ้า 1.4 ล้านชิ้น, บมจ. การบินไทย (THAI) 280,000 ชิ้น, สมาคมร้านขายยา 200,000 ชิ้น
"คาดว่าทั้งเดือนก.พ.63 จะกระจายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านชิ้น ส่วนเดือนมี.ค.63 จะมีหน้ากากอนามัยเข้ามายังศูนย์ฯ ไม่น้อยกว่า 15 ล้านชิ้น"
นายวิชัย ระบุ
ส่วนการดำเนินการกับผู้ที่ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควรนั้น ล่าสุดสามารถจับกุมแล้ว 48 ราย แบ่งเป็นในส่วนกลาง 39 ราย และต่างจังหวัด 9 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 30 ราย ได้ส่งดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในข้อหาค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังได้จัดส่งสายตรวจวันละ 10 สาย ออกตรวจสอบตามสถานที่ที่มีการร้องเรียน และการเข้าไปตรวจสอบเองทุกวัน ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนในต่างจังหวัดจะมีพาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ตรวจสอบ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.พ. 63)
Pin🌸 ของแจ้งเจ้าหน้าที่ ตอนแพคของใส่ถุงกรุณาใส่ถุงมือสะอาดด้วย
ไม่ใช่มือจับอะไรมาสะเปะสะปะแล้วแยกบรรจุขายให้ประชาชน ในรูปมีคนใช้มือถือด้วย มือถือนี่ตัวสะสมเชื้อโรคสุดๆเลย
คนไทยส่วนหนึ่ง สำนึกเรื่องอนามัยต่ำมากๆ เห็นใครเอาใจใส่หน่อยก็หาว่าเยอะมั่งหล่ะ เว่อร์มั่งหล่ะ พอโรคระบาดจริงๆละ พวกนี้เป็นกลุ่มแรกๆเลยที่แตกตื่น ทั้งที่จริง มันควรเอาใจใส่ให้เป็นนิสัย ไม่ใช่เป็นพักๆ วูบๆ
27 ก.พ. 2563 เวลา 09.59 น.
Kritima ทำไมต้องไปขายที่กระทรวงพาณิชย์ ทำไมไม่ให้โรงงานผลิตแล้วขายให้ทั่วทั้งประเทศแค่ขายหน้ากากก็เอาเปรียบประชาชน ใครจะมีเวลาว่างต้องไปซื้อที่กระทรวงพาณิชย์ กักตุนสินค้าเป็นเดือนมีขายที่กระทรวงพาณิชย์ แต่ที่อื่นไม่มีขาย เบื่อมากเลยเป็นห่วงประชาชนแต่กักตุนแม้แต่หน้ากาก
27 ก.พ. 2563 เวลา 10.55 น.
Teerapon ยังหาซื้อยากและราคาก็ยังคงสูง แก้ปัญหายังไม่ได้เลยท่าน
27 ก.พ. 2563 เวลา 11.24 น.
ซื้อที่ร้านขายยา10ชิ้น80บาทจร้าแพงมากๆๆๆ
27 ก.พ. 2563 เวลา 12.27 น.
pornthip ขอบคุณที่พยายามเร่งแก่ไขนะคะ อันไหนดีก็ชื่นชมค่ะ มีอีกหลายสิ่งก็ทยอยแก้อีกนะคะ อย่าน้อยก็เป็นกำลังเล็กๆจากประชาชนธรรมดาคนนึงค่ะ
27 ก.พ. 2563 เวลา 11.33 น.
ดูทั้งหมด