วันนี้ (9 ธ.ค.2562) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยความคืบหน้านโยบายการเพิ่มความเร็วทางถนนจาก 90 กม./ชม. เป็น ไม่เกิน 120 กม./ชม. ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ เพื่อแก้ไขเพดานความเร็วเป็นไม่เกิน 120 กม./ชม. พร้อมกับแบ่งช่องจราจรตามความเร็ว เช่น ช่องจราจรความเร็วต่ำกว่า 80 กม./ชม. ช่องจราจรความเร็ว 80-100 กม./ชม. และช่องจราจรความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กม./ชม. และห้ามต่ำกว่า 80 กม./ชม.
ทั้งนี้ จะกำหนดให้ผู้ขับขี่ทุกคนต้องขับรถในความเร็วตามที่กำหนด และย้ำว่าการประกาศเส้นทางความเร็ว 120 กม./ชม. จะเลือกเฉพาะบางเส้นทางเท่านั้น เนื่องจากจะมีการกำหนดให้ลดความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดในเขตชุมชน โรงเรียน และทางโค้ง
รมว.คมนาคม คาดว่าจะเสนอการแก้ประกาศกฎกระทรวงให้ที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ภายในเดือนธันวาคมนี้ หากเห็นชอบจะประกาศใช้ต่อไป
เบื้องต้นกำหนดเส้นทางไว้ 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ 1.ถนน ทล.หมายเลข 32 (สายเอเชีย) ช่วงบางปะอิน-นครสวรรค์ ระยะทาง 150 กิโลเมตร 2.ถนนมิตรภาพสายอีสานกรุงเทพ-นครราชสีมา และถนนวิภาวดีเส้นทางขึ้นเหนือจากชานเมืองกรุงเทพมหานคร
สำหรับการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเรื่องการปรับเพิ่มความเร็วเป็น 120 กม./ชม.นั้น พบว่า ประชาชนกว่าร้อยละ 71 เห็นด้วยกับการใช้มาตรการดังกล่าว ขณะที่ประชาชนร้อยละ 29 ไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่าการเพิ่มความเร็วจะทำให้อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น สภาพถนนของประเทศไม่พร้อม ผู้ขับขี่ไร้ระเบียบวินัย การปรับเพิ่มความเร็วอาจเปิดช่องให้คนไทยขับรถเร็วขึ้นเป็น 140 กม./ชม. และการบังคับใช้กฎหมายในปัจจุบันยังไม่เข้มงวดเพียงพอ
นายศักดิ์สยาม กล่าวยืนยันว่า ได้สั่งการให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ดำเนินการยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน ทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย การตีเส้นถนนให้ชัดเจน ตลอดจนการปรับปรุงแบริเออร์เกาะกลางถนน รวมทั้งการใช้แอปพลิเคชันติดตั้งในกล้องตรวจจับความเร็วตลอดเส้นทาง เพื่อเอาผิดประชาชนที่ขับรถความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วย
นอกจากนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนยังพบว่า ประชาชนร้อยละ 32 ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นพฤติกรรมปกติอยู่แล้ว ซึ่งได้มีนโยบายเรื่องการแบ่งรางวัลนำจับร้อยละ 50 ให้กับประชาชนที่แจ้งเบาะแสการกระทำผิดของพฤติกรรมการขับขี่รถสาธารณะและรถบรรทุกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เริ่มใช้แล้วตั้งแต่วันนี้ (9 ธ.ค.) เป็นวันแรก
ขณะที่ยานพาหนะส่วนบุคคลนั้น ขณะนี้กรมการขนส่งอยู่ระหว่างผลักดันมาตรการตัดแต้มใบขับขี่ ซึ่งจะมีทั้งตัดแต้มความประพฤติ พักใบขับขี่และยกเลิกใบขับขี่ หากมีพฤติกรรมทำผิดซ้ำซาก โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนภายใน 30 วัน ก่อนประกาศบังคับใช้ต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายการเพิ่มความแข็งแรงของแบริเออร์เกาะกลางถนน โดยใช้ยางพารา หรือ Rubber Barrier ซึ่งจะสามารถเพิ่มการรองรับแรงปะทะให้กับเกาะกลางถนนได้มากขึ้นร้อยละ 40 จากเดิมรองรับ 110 กม./ชม. เป็น 150 กม./ชม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งไปทดสอบที่ประเทศเกาหลีใต้ คาดว่าผลทดสอบจะได้ในเดือนมกราคา 2563 โดยจะนำมาติดตั้งในถนนที่กำหนดความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. เพื่อเก็บสถิติในช่วงแรกว่าสามารถลดความรุนแรงของจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยได้หรือไม่ ก่อนขยายผลนำไปใช้ต่อไปในถนนเส้นทางหลัก เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรยางพาราด้วย
💾 tumsapp .. ™📼 ตำรวจทางหลวง(บางคน)ไม่ถูกใจสิ่งนี้
09 ธ.ค. 2562 เวลา 13.45 น.
อั๊ต ทางหลวงทั้งหมดทั่วประเทศเลย มันสมควรออกกฏหมานนี้มามากกว่า 20 ปีก่อนนี้แล้ว ทางหลวงกับทางชลบทมันต่างกัน ปชช เค้ารู้และเข้าใจกันหมดแล้ว
09 ธ.ค. 2562 เวลา 13.48 น.
ไก่ขนส่งอิสระ789 ทุกวันนี้ก็เกินร้อยทุกคน
09 ธ.ค. 2562 เวลา 13.37 น.
อัครเดช เห็นด้วยครับรถเก๋งรถกระบะเขาพัฒนาทุกระบบแล้วสมควรให้ใช้ความเร็วขนาดนี้ได้ครับ
09 ธ.ค. 2562 เวลา 14.03 น.
Songsak Tae ทางหลวงที่เยอรมันมีมานานหลายสิบปีแล้ว ที่แบ่งช่องทางความเร็ว 80, 100, 120
09 ธ.ค. 2562 เวลา 13.49 น.
ดูทั้งหมด