ทั่วไป

แจก “เมล็ดไม้มีค่า ที่หน้าอำเภอ” 23 ชนิด ประดู่ พะยูง แดง มะค่า 5 ล้านเมล็ด

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
อัพเดต 14 ธ.ค. 2562 เวลา 05.02 น. • เผยแพร่ 14 ธ.ค. 2562 เวลา 03.01 น.
ภาพไฮไลต์

สนองนโยบาย “ปลูกได้ ตัดได้ ขายได้”

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้เตรียมของขวัญเพื่อส่งมอบความสุขให้ประชาชนเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ 4 ชิ้น ได้แก่ ชิ้นที่ 1 เมล็ดไม้มีค่า 23 ชนิด จำนวนกว่า 5 ล้านเมล็ด บรรจุในซองของขวัญที่กรมป่าไม้จะได้นำไปมอบให้พี่น้องประชาชนจำนวน 101,010ซอง โดยจัดแคมเปญมอบของขวัญชิ้นนี้ว่า “เมล็ดไม้มีค่า ที่หน้าอำเภอ” เช่น ประดู่บ้าน พะยูง แดง มะค่าโมง เป็นต้น พร้อมทั้งบอกวิธีการเพาะชำเมล็ดไม้ การปลูก การดูแลรักษาต้นไม้ทุกชนิด เพียงแค่สแกนคิวอาร์โค้ดที่อยู่บนซองที่บรรจุเมล็ดไม้ โดยมอบให้หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ประจำอำเภอ ที่ทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนเป็นผู้นำของขวัญชิ้นนี้ไปมอบให้พี่น้องประชาชนในทุกอำเภอ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.2562-1 ม.ค.2563

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นับจากภายหลังจากที่รัฐบาลได้ปลดล็อกมาตรา 7 ทำให้ต้นไม้ทุกต้นที่ปลูกในที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมายที่ดิน และอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ ไม่เป็นไม้หวงห้ามอีกต่อไป ประชาชนสามารถปลูกได้ ตัดได้ และขายได้ กรมป่าไม้จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการปลูกไม้มีค่าที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนได้รับโชคถึง 6 ต่อ คือ ต่อที่1 เรื่องของการมีไม้ไว้ใช้สอยในอนาคต ต่อที่ 2 สามารถตัดขายเพิ่มรายได้จากความต้องการทางด้านอุตสาหกรรมไม้ที่มีความต้องการสูง ต่อที่ 3 ต้นไม้ยืนต้น สามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันได้ ต่อที่ 4 การปลูกต้นไม้ในที่ดินกรรมสิทธิ์ที่ว่างเปล่าสามารถช่วยลดภาษีที่ดินได้ ต่อที่ 5 การปลูกไม้มีค่าจะเป็นเหมือนการออมเงินให้กับตนเองและส่งต่อให้กับลูกหลาน เมื่อต้นไม้เจริญเติบโตจะสร้างมูลค่ามากมายในอนาคต ต่อที่ 6 ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ

ด้านนางนันทนา บุณยานันต์ โฆษกกรมป่าไม้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ของขวัญชิ้นที่ 2 กรมป่าไม้จะตั้งจุดพักสำหรับบริการประชาชนที่เดินทางระหว่างช่วงเทศกาลปีใหม่ รวม 197 จุด ในพื้นที่ 24 จังหวัดทั่วประเทศ จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการไว้คอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.2562 -1 ม.ค.2563 ชิ้นที่ 3 การจัดกิจกรรม “ปีใหม่หรรษา มาเที่ยวป่าในเมือง” ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 2562-1 ม.ค.2563 จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ 1.สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว จ.เชียงใหม่ 2.สถานีวนวัฒน–วิจัยอินทขิล จ.เชียงใหม่ 3.สวนป่าพุแค จ.สระบุรี 4.สถานีวนวัฒนวิจัยห้วยทา จ.อุบลราชธานี 5.โครงการพัฒนาป่ายางน้ำกลัดเหนือ-ใต้ จ.เพชรบุรี 6. ป่าในเมืองเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี 7.ป่าในเมืองป่าปอม คลองสองน้ำ จ.กระบี่ 8.ป่าในเมือง ศูนย์วนวัฒนวิจัยภาคใต้ จ.สงขลา และ 9.สถานีวนวัฒน–วิจัยสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี โดยแต่ละแห่งจะจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์จากชาวบ้าน และชิ้นที่ 4 จะเร่งประกาศเขตพื้นที่ คทช. เพื่อมอบให้ประชาชนทำกิน.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 26
  • €¥£
    พะยูง น่าปลูกมาก สแกนQR โค๊ด น่าจะต้องไปในงาน หรือไม่ก็ลองติดต่อที่ป่าไม้จังหวัดของท่านดู เพราะปกติจะมีกล้าไม้แจกอยู่แล้ว แต่พะยูงเพิ่งมีปีนี้
    14 ธ.ค. 2562 เวลา 15.27 น.
  • J@ck >MFinancial6536
    ปลูกได้แต่ตอนตัดมีกฎระเบียบอะไรควรแจ้งด้วยนะคับ
    14 ธ.ค. 2562 เวลา 13.20 น.
  • บักแดง 🎧🌷
    ถึงมือเรารึป่าวนะ
    14 ธ.ค. 2562 เวลา 10.28 น.
  • ชัญญพศ
    น่าจะแจกเป็นต้นกล้าพร้อมปลูกจะเห็นผลมากกว่านี้
    14 ธ.ค. 2562 เวลา 08.26 น.
  • "ถามผู้รู้จริง" กรุณาประกาศให้ทุกคนรู้ด้วย อยากถามให้รู้ว่า ถ้าหน้าบ้านมีถนนมีคลองน้ำ หรือแม่น้ำ แล้วเอาต้นมะฮ็อกกานีหรือต้นไม้มีค่าไปปลูกในที่ริมน้ำเพื่อปรับปรุงภูมิทรรศน์หน้าบ้านให้ร่มเย็น เมื่อต้นไม่ใหญ่สามารถตัดแต่งหรือตัดเอามาใช้สร้างบ้าน ได้หรือไม่ *ตามความเห็นส่วนตัว* ควรให้สิทธิ์เจ้าของบ้านสามารถจัดการและสามารถตัดไม้มาใช้ได้โดยต้องไม่ให้พื้นที่ดินเสียหาย ซึ่งจะทำให้ทุกบ้านที่มีหน้าบ้านที่สามารถปลูกไม้ใหญ่ได้มาร่วมกันปลูกไม้ไว้ให้ลูกหลาน
    14 ธ.ค. 2562 เวลา 07.54 น.
ดูทั้งหมด