ไลฟ์สไตล์

น้ำครึ่งตุ่ม - ศุ บุญเลี้ยง

THINK TODAY
เผยแพร่ 27 พ.ย. 2562 เวลา 11.13 น. • ศุ บุญเลี้ยง

คนชอบอ้างเอ่ยถึง น้ำซึ่งวางอยู่ครึ่งแก้ว แล้วกล่าวว่า คนที่มองโลกในแง่ดี มีน้ำตั้งครึ่งแก้ว คนที่มองโลกในแง่ร้าย มีน้ำแค่ครึ่งแก้ว

คนที่มองโลกในแง่จริง ควรจะคิดว่า น้ำครึ่งแก้วนั้น เป็นของใคร สะอาดหรือสกปรก ดื่มกินได้หรือไม่ หรือใครกินแล้วไม่รู้จักเก็บ ระวังเถอะ แก้วนั้นอาจจะตกแตกก็ได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มองในแง่ธรรมะ น้ำครึ่งแก้วนั้นไม่ได้มีอยู่จริงหรอก หากวางไว้โดนแดดก็อาจจะระเหย กลายเป็นไอ วางทิ้งไว้พอกลับมาดูอีกที น้ำอาจจะหายไป

ไม่เพียงแต่น้ำที่หายไป บางทีแก้วก็อาจจะหาย ใครบางคนอาจจะขโมยไปหรือเพียงแค่ชั่วพริบตา แก้วอาจจะร่วงหล่นแตกเสียหาย

จากของที่เคยมีคุณค่า ใส่น้ำได้อาจกลายเป็นเศษแก้วบาดเท้าเจ็บปวดแสน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เราลองมามองน้ำในตุ่มบ้าง ถ้ามีน้ำครึ่งตุ่ม เราจะมองว่า ตั้งครึ่งหรือแค่ครึ่ง คงต้องอยู่ที่เจตนาหรือโจทย์ที่ได้รับมา

เช่นโจทย์บอกว่า ช่วยเติมน้ำให้เต็มตุ่มหน่อยสิ อ้าวมีอยู่แล้วครึ่งก็คงจะดี

เราก็ค่อยๆ หาน้ำมาเติมเพิ่ม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ก่อนจะเติม ไม่ดูซะหน่อยหรือว่า น้ำในตุ่มนั้นมันน้ำดี หรือน้ำเสีย

น้ำมัน หรือ น้ำมนต์ น้ำสะอาด หรือมียุงวางไข่ มีลูกน้ำลอยอยู่มีเศษขยะไหม ดีไม่ดีอาจเป็นน้ำเน่า น้ำเสียติดเชื้อ

ขืนมามัวมองโลกในแง่ดี แต่น้ำที่มีเป็นน้ำร้าย

เราต้องมองในแง่จริงให้ได้ว่าการมีครึ่งหนึ่งนั้นอาจจะเป็นภาระ ต้องเทน้ำในตุ่มทิ้งเสียก่อน ต้องขัดถูตะไคร่น้ำหมักหมมด้วยก็ได้

ชีวิตยอกย้อนเกินกว่าจะมามองโลกในแง่ดี แบบไร้เดียงสา

จริงอยู่ว่าคนเราควรมองโลกในแง่ดีแต่ บางทีก็ควรจะมองโลกในแง่ร้ายบ้าง

มีคนคิดเครื่องบิน ก็ควรมีคนคิดร่มชูชีพ

ที่เขาให้เราปิดมือถือ เปิดหน้าต่างเครื่องบิน ก็เพราะว่า หากเกิดเหตุด้านนอก ก็ควรจะช่วยกันมองให้เห็นว่า อาจจะมีอุบัติเหตุ จะได้มองเห็นชัด

หากมีนักเดินเขาเดินป่าสองคน ต้องการผจญภัยในขั้วโลก

คนหนึ่งมองโลกในแง่ดี ว่าชีวิตเรามีความฝัน โลกนี้แสนดีนักหนา เราเอาอาหารไปแต่พอควร

กับอีกราย มองโลกในแง่ร้าย ถ้าเผื่อเจอพายุ ถ้าเผื่อต้องติดอยู่ในป่า เผื่ออาหาร เผื่อธงสัญญาณ เผื่อว่าเส้นทางการเดินไม่เป็นไปตามแผน ก็เลยต้องเตรียมแผนสำรองไว้ มองโลกในแง่ร้าย จึงต้องเผื่อ

คุณคิดว่า ใครจะรอดกลับมา เป็นผู้พิชิตขั้วโลกได้

คนมองโลกในแง่ดี มักจะประสบความสำเร็จ แต่คนที่ประสบความสำเร็จกว่า คือคนซึ่งมองโลกในแง่ร้ายบ้าง เพราะผู้นำควรมีสัญชาตญาณของการระแวดระวัง เผื่อจะนำองค์กรให้อยู่รอดปลอดภัย ฝ่าด่านฝ่าภัยของความพลิกผันทางเศรษฐกิจอันน่าซวนเซไป แบบไม่พลั้งเผลอ

พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เรามองโลกในแง่ดี สักเท่าไหร่

เคยได้ยินใช่ไหม เกิดมาชดใช้กรรม ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ แม้กระทั่งความรัก เพราะการพลัดพรากจากสิ่งที่รักย่อมเป็นทุกข์

แต่ท่านสอนให้เราคิดเห็นดีงาม อย่างถูกต้องตามความจริง

การคิด การพูด การกระทำ และการแสดงออกอันถูกต้องดีงาม เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ในทางตรงข้าม ถ้ารู้เข้าใจคิดเห็นผิด มีค่านิยม ทัศนคติ แนวความคิดที่ผิด เรียกว่า มิจฉาทิฏฐิ

การรู้จักคิดหรือคิดเป็นนั้น หมายถึงการคิดอย่างมีระเบียบ หรือคิดตามแนวทางสติปัญญา คือการรู้จักมอง รู้จักพิจารณาสิ่งทั้งหลายตามสภาวะ โดยไม่ได้เอาความรู้สึกด้วยตัณหาอุปทาน ความชอบ ความชัง ความเชื่อ ของตัวเองเข้าไปแทรกจนทำให้ไขว้เขว

คิดดีย่อมนำสิ่งที่ดีมาให้ แล้วคิดดีนั้น เป็นเช่นไร

ก็อย่าไปคิดอะไรที่ไม่ดี อ้าว แล้วถ้าหยิบของกินแล้วสบายใจใส่ท้อง แต่น้ำตาลมันเยอะ จนเป็นโรคเบาหวาน ยังจะเรียกว่า คิดดี เอาที่สบายใจ แล้วสบายใจกับการกินของชอบ มีความสุข แต่สุดท้ายต้องทุกข์หนักกับการรักษา อย่างนี้เรียกว่าคิดดีหรือเปล่า

คิดดีไว้ แต่ต้องคิดยาวๆ ด้วย ไม่ใช่คิดดีแต่สิ่งซึ่งอยู่ตรงหน้า

การคิดที่ดีกว่าคือ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่กินหวานมากไป ระวังจะเป็นเบาหวาน

การคิดดีนั้นพูดง่าย แต่ความหมายที่ลึกกว่า หรือ คิดดีจริงๆ นั้น คงมีหลายมิติ

คิดดีแบบสั้นๆ เอาให้ดีแบบวันต่อวัน หรือ คิดกันแบบยาวๆ

ภาษิตจีนว่า อยากมีความสุขหนึ่งราตรีให้ร่ำสุรา

อยากมีความสุขหนึ่งปี ให้มีภรรยา

แต่อยากมีความสุขนานนิรันดร์ให้หมั่นปลูกต้นไม้

การบ่นเรื่องร้ายๆ ในเฟซบุ๊ก ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น

แต่การคอยบอกคนอื่นๆ ว่า คนเราไม่ควรจะตำหนิติฉินคนอื่น ควรจะเอ่ยคำดีๆ ควรจะโพสต์แต่เรื่องราวของความสุขกาย สบายใจ ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเช่นกัน

คนมองโลกในแง่ร้ายไม่น่าเข้าใกล้ แต่คนที่มองโลกในแง่ดีเกินไป ก็น่ารำคาญไม่แพ้กัน

ความเห็น 8
  • อ่านหมดเลยตั้งแต่ต้นจนจบ สาระดีๆๆ จากคุณศุ บุญเลี้ยง แนวคิดข้อคิดอ่านแล้วชิวล์ ทำตัวให้เดินทางสายกลาง ไม่มองบวก ไม่มองลบ จนเกินไป ทุกอย่างให้พอเหมาะ พอดี พอควร ไม่แบกทุกปัญหาให้หนัก ปล่อยวาง เอาที่เรารับไหว เป็นสุขกลางๆ เป็นทุกข์กลางๆ ใช้สติให้มาก รองรับเรื่ิองราวหลายๆ เรื่องซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ ทุกคนล้วนมีปัญหา หากเราต้องใช้ปัญญาแก้ไข ไม่ฟูมฟายไม่โทษไม่โกรธ ปีใหม่ปีนี้อาจดูกร่อยๆ ไปหน่อย
    01 ม.ค. 2563 เวลา 14.04 น.
  • ch.chaiya
    เลิกเขียนเถอะ ไปหัดอ่านเยอะๆ แล้วค่อยมาเขียนใหม่ ฟรีมือยังไม่ถึงขั้น
    21 ธ.ค. 2562 เวลา 15.34 น.
  • sianyang
    ที่นี่คนดีเขาไม่คิด เขาคิดดีตามที่บอกต่อๆมา
    16 ธ.ค. 2562 เวลา 14.34 น.
  • Yong
    สำหรับความเห็นของผมคิดดีก็หมายถึงความคิดที่ฉลาดและต้องไม่ขาดสติจึงจะเรียกว่าคิดดีอันนี้มันคือความคิดที่ถูกต้องตามเหตุและผลรู้จักเขารู้จักเรารู้จักกาละเทศะว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำในขณะนี้รู้จักประมาณคือมีความพอดีในการกระทำคือไม่มากไปหรือไม่เป็นผู้มากๆรู้จักประโยชน์มิใช่ประโยชน์
    27 พ.ย. 2562 เวลา 15.06 น.
  • เดินทางสายกลางซิศุ พระพุทธเจ้าทรงจรัสไว้
    27 พ.ย. 2562 เวลา 12.46 น.
ดูทั้งหมด