บ้านยางกู่ เฮลั่น ค่ายมือถือยอมถอย- รื้อเสาสัญญาณ ที่เพิ่งสร้างเสร็จ

บ้านยางกู่ เฮลั่น ค่ายมือถือยอมถอย- รื้อเสาสัญญาณ ที่เพิ่งสร้างเสร็จ

ต่อสู้กันมาพักใหญ่ ระหว่างชาวบ้านที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับการสร้างเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือค่ายดัง ใกล้โบราณสถานปรางค์กู่ ก่อนทุกฝ่ายร่วมวงเจรจา หาข้อยุติ

ชาวบ้านบ้านยางกู่ หมู่ที่ 9 ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมครู และนักเรียน นับ100 คน ได้นัดรวมตัวกันที่ศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP นวัดวิถี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณโบราณสถานปรางค์กู่ เพื่อคัดค้าน และขอให้ผู้ดำเนินการก่อสร้างเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ค่ายใหญ่รายหนึ่ง ที่เพิ่งสร้างเสร็จและเตรียมเปิดใช้งาน เร็สๆนี้ ให้ทำการย้าย หรือรื้อถอนออกจากจุดดังกล่าว โดยมีนายธวัช แต้ลำพัว กำนันตำบลมะอึ นายเชษฐา เวียงสิมา นายกเทศมนตรีตำบลมะอึ นายธงชัย อรรคพงษ์ ปลัดอำเภอธวัชบุรี นายประเสริฐ สมอุดร ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอธวัชบุรี และตัวแทนบริษัทโทรศัพท์มือถือดังกล่าวร่วมเจรจาหาทางออก

นายประเสริฐ สมอุดร แกนนำในการคัดค้านฯกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ชาวบ้านเห็นเจ้าหน้าที่และผู้รับเหมาขนอุปกรณ์ เข้ามาทำการก่อสร้างเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ในที่ดินของชาวบ้าน ใกล้ปากทางเข้าโบราณสถานปรางค์กู่ และอีกด้านเป็นโบราณสถานกู่น้อย

ในการก่อสร้างประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าใครอนุญาต และก่อสร้างได้อย่างไร เพราะไม่มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามขั้นตอนปฏิบัติ ทำให้ชาวบ้านเกิดความวิตกกังวล และไม่มั่นใจว่าคลื่นความถี่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่ใกล้หรือไม่ อีกทั้งยังทำให้ทัศนียภาพที่สวยงามของโบราณสถาน อายุนับ 1,000 ปี ของจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างกันนัก จะได้รับผลพวงไปด้วย

ชาวบ้านได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ - จังหวัด ทำหนังสือคัดค้านไปยัง กสทช.ขอนแก่น เพื่อให้ทบทวน การอนุญาตปล่อยสัญญานมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งวันนี้ผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเตรียมจะเปิดใช้งาน พวกตนซึ่งอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ เกิดความวิตกกังวลต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา จึงรวมตัวคัดค้านและขอให้ย้ายเสาสัญญานออกไป

ขณะที่ตัวแทนของค่ายโทรศัพท์มือถือ เจ้าของโครงการ กล่าวว่า จริงๆแล้วทางบริษัทเรา ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง หากการกระทำหรือดำเนินการใดๆของบริษัทที่อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจ ต่อชีวิตความเป็นอยู่ เกิดความไม่สบายใจของพี่น้องประชาชนแม้เพียงน้อย สร้างความแตกแยกให้กับคนในชุมชน ทางบริษัทคงจะไม่มีมีความภาคภูมิใจ และประกอบกิจการใดๆให้เกิดความก้าวหน้าอย่างสมบูรณ์ได้ เรามีนโยบายรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนรวมเป็นสำคัญ

จากนั้นได้มีการขอประชามติจากชาวบ้านที่มาร่วมรับฟัง จำนวน103 คน ปรากฎว่า มีคนเห็นด้วยให้ตั้งเสาสัญญานต่อไป 8 คน ,ไม่เห็นด้วย 92 คน และงดออกเสียง 3 คน ปู้แทนบริษัทจึงประกาศจะรื้อถอนเสาสัญญาณออกจากจุดดังกล่าว และไปหาสถานที่ติดตั้งแห่งใหม่ ที่เหมาะสม ทำให้ชาวบ้าน ครู นักเรียนและผู้สังเกตการณ์ต่างดีใจ กล่าวขอบคุณและชื่นชมในความรับผิดชอบของค่ายมือถือดังกล่าว ก่อนแยกย้ายกันกลับ