ทั่วไป

'ปภ.'เตือน14จว.เหนือ-อีสาน รับมือน้ำป่าซัดแรง-ล้นตลิ่ง

เดลินิวส์
อัพเดต 08 ส.ค. 2563 เวลา 06.30 น. • เผยแพร่ 08 ส.ค. 2563 เวลา 06.11 น. • Dailynews
“ปภ.“เตือน 14 จังหวัด ภาคเหนือ-อีสาน เตรียมพร้อมรับมือน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในวันที่ 8 ส.ค. นี้

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง(กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศและปริมาณฝนสะสมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.)

โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จึงได้ประสาน 14 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมพร้อมรับมือน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 8 ส.ค.63 โดยแยกเป็น พื้นที่เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน (อ.สองแคว อ.ปัว อ.บ่อเกลือ อ.เมืองน่าน อ.เชียงกลาง อ.เวียงสา อ.เฉลิมพระเกียรติ และอ.บ่อหลวง) จ.พะเยา (อ.ภูซาง และอ.เชียงคำ) จ.เชียงราย (อ.เชียงของ) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน) จ.เชียงใหม่ (อ.เชียงดาว อ.ฝาง และอ.แม่อาย) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ คือ อ.เมืองชัยภูมิ 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อธิบดี ปภ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง แม่น้ำน่าน จ.น่าน (อ.ท่าวังผา อ.เมืองน่าน อ.เวียงสา และอ.สองแคว แม่น้ำ แม่ลาว) จ.เชียงราย แม่น้ำป่าสัก จ.เพชรบูรณ์ อ.หล่มสัก แม่น้ำโขง จ.เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี รวมถึงสั่งการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าวโดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง จัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รถปฏิบัติการและเครื่องจักรกล สาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที

อีกทั้งประสานหน่วยงานในพื้นที่ อำเภอ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นสร้างการรับรู้และแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์ภัยและแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยผ่านทุกช่องทาง เช่น สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • หนึ่ง...เองครับ
    เค้าเตือนแล้วน่ะครับ
    08 ส.ค. 2563 เวลา 08.00 น.
ดูทั้งหมด