ไอที ธุรกิจ

ย้อนรอยเจ้าแห่งสนามแข่ง SUBARU ที่การันตีด้วยยอดขายและรางวัลมากมาย

Marketing Oops
อัพเดต 09 ต.ค. 2562 เวลา 04.27 น. • เผยแพร่ 10 ต.ค. 2562 เวลา 02.00 น. • Marketing Oops!
SUBARU

รถยนต์ในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในหลายรูปแบบ ตั้งแต่รถยนต์ที่ใช้เดินทางในเมืองเป็นหลักอย่างกลุ่มรถยนต์ Eco Car หรือรถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างรถยนต์ในกลุ่ม Executive และรถยนต์ที่ใช้เพื่อสร้างรายได้อย่างกลุ่มรถกระบะ ซึ่งแต่ละค่ายรถยนต์ต่างก็สร้างรถยนต์มาเพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แต่ดูเหมือนตลาดรถยนต์ในไทยกำลังให้ความสนใจไปกับรถยนต์อเนกประสงค์หรือที่เราเรียกกันว่า SUV (Sport Utility Vehicle) ซึ่งการจะเลือกรถยนต์ SUV ดีๆ ซักคัน นอกจากเรื่องของสมรรถนะและเทคโนโลยีแล้ว ความน่าเชื่อถือของค่ายรถยนต์นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ และดูเหมือนว่า SUBARU จะสามารถตอบได้ทุกคำถามสำหรับคนที่ต้องการรถยนต์ SUV ดีๆ

ตำนานความขลังของSUBARU

ถ้าจะย้อนไปดูที่มาที่ไปของ SUBARU ต้องหมุนเข็มเวลาย้อนกลับไปในปี 1915 บริษัท นากาจิมา แอร์คราฟ จำกัด ก่อตั้งขึ้น โดยเน้นการสร้างอากาศยาน และกลายเป็นบริษัทหลักในการสร้างเครื่องบินรบให้กับกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาเกิดเหตุให้บริษัทต้องแตกตัวออกเป็นบริษัทย่อยๆ จำนวนมาก โดย 5 บริษัทที่แตกตัวมานั้นมีการรวมกลุ่มกันแล้วตั้งบริษัทใหม่ในชื่อ ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรี (FHI)

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
SUBARU

โดย FHI มองลู่ทางการทำธุรกิจในตลาดรถยนต์ ซึ่งผู้บริหารของ FHI ในช่วงนั้นต้องการได้ชื่อแบรนด์ที่น่าสนใจกว่า FHI และเป็นช่วงเริ่มพัฒนารถยนต์ภายใต้ชื่อ P-1 แม้จะมีการเสนอชื่อมามากมายแต่ไม่มีชื่อไหนโดน จนสุดท้ายมาจบลงที่ชื่อ “ซุบารุ (SUBARU)” ที่ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “กลุ่มดาวลูกไก่” พร้อมทั้งออกแบบโลโก้ให้เป็นดาว 6 ดวง ซึ่งหมายถึง 5 บริษัทที่มารวมกันเป็นบริษัทเดียวคือดาวดวงที่ 6

SUBARU
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ในเวลาต่อมารถยนต์รุ่น P-1 หรือที่ในตลาดเรียกกันว่า SUBARU 1500 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลาดรถญี่ปุ่นมีความต้องการรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กราคาถูกหรือ “รถเคย์ (Kei Car)” ทำให้ SUBARU พัฒนารถเคย์ขึ้นมาในชื่อรุ่น “SUBARU 360” ซึ่งมาจากเครื่องยนต์ของรถที่มีขนาด 356 ซีซีและขายดีมากที่ญี่ปุ่น

แชมป์สนามแข่งสู่รถประสิทธิภาพสูงบนถนน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา SUBARU เริ่มสร้างชื่อเสียงทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก จนมาถึงรุ่น SUBARU Leone ที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่นแรกที่ขับเคลื่อน 4 ล้อและถือเป็นต้นแบบของ SUBARU Impreza (The Imp) รถยนต์ที่ทำให้ชื่อเสียงของ SUBARU ดังกระฉ่อนทั่วโลก ด้วยแชมป์เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพถึง 3 ปีซ้อน ภายใต้ทีม SUBARU World Rally Team

SUBARU

ช่วงระหว่างนั้นก็เริ่มมีการนำระบบต่างๆ ของ SUBARU Impreza มาใส่ไว้ในรถครอบครัว (Station Wagon) อย่าง SUBARU Legacy และถูกพัฒนาต่อจนกลายมาเป็นรถยนต์ SUV รุ่นยอดนิยมอย่าง SUBARU Forester ที่เน้นไปที่ประสิทธิภาพการขับขี่แบบ AWD ด้วยเครื่องยนต์ Boxer

*ค่ายเดียวที่ใช้เครื่องยนต์แตกต่าง *

เป็นที่ทราบกันว่า เครื่องยนต์บ็อกซ์เซอร์ (Boxer) เป็นเอกลักษณ์ของค่าย SUBARU ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์ SUBARU 1000 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความพิเศษของเครื่องยนต์ Boxer ที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของ SUBARU คือความนุ่มนวลของเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์ทั่วไปจะมีการออกแบบการทำงานของลูกสูบในตั้งหรือในแนวเฉียง

เมื่อลูกสูบทำงานในแนวตั้งหรือแนวเฉียงจะก่อให้เกิดแรงสั่นจากการทำงานของลูกสูบ และบางครั้งอาการสั่นจะถูกส่งไปยังตัวรถยนต์ แต่เครื่องยนต์ Boxer ถูกออกแบบมาให้ทำงานในแนวนอนทำให้ลดอาการสั่นของเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องยนต์ Boxer ยังมีศูนย์ถ่วงต่ำทำให้รถเกิดความสมดุลทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ช่วยให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบขับเคลื่อนเอกลักษณ์จากSUBARU

นอกจากเรื่องของเครื่องยนต์ Boxer ที่เรียกว่าโดดเด่นกว่าคู่แข่งแล้ว SUBARU ยังมีระบบ Symmetrical AWD ที่เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ SUBARU เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า SAWD เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตรตลอดเวลา (Full Time) ซึ่งแตกต่างจากระบบอื่นๆ เนื่องจากระบบ Symmetrical AWD ถูกออกแบบมาให้การกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อทั้ง 4 อย่างอิสระ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างล้อทั้ง 4 เพื่อให้สมรรถนะในการเกาะถนนสูงสุดในทุกสถานะการณ์

SUBARU

เมื่อกลุ่มดาวลูกไก่ทั้ง 6 พุ่งสู่เมืองไทย

สำหรับ SUBARU ไม่ใช่แบรนด์ใหม่สำหรับประเทศไทย เพราะ SUBARU เข้ามาสู่ประเทศไทยตั้งแต่ในช่วงปี พ.ศ. 2529 ในรูปแบบของรถยนต์นำเข้า จนกระทั่งช่วงต้นปี พ.ศ. 2560 กลุ่มตันจง อินเตอร์เนชันแนล ร่วมลงทุนกับ ซูบารุ คอร์เปอร์เรชั่น ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ของโลก และล่าสุด พ.ศ.2562 The All-New Forester รุ่นล่าสุด ซึ่งประกอบจากโรงงานแห่งนี้

SUBARU

พร้อมสำหรับจำหน่ายในประเทศไทยและในระดับภูมิภาค เกิดการจ้างพนักงานทักษะสูงทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย นั่นหมายความว่า SUBARU กำลังมองประเทศไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ของ SUBARU และยังเป็นฐานการส่งออก ซึ่งหมายถึงในอนาคตที่ SUBARU จะมีรถยนต์รุ่นใหม่ ประเทศไทยก็พร้อมที่จะเป็นฐานในการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

SUBARU

ปัจจุบันแบรนด์ SUBARU มีมูลค่ากว่า 4,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ โดยในปี 2017 สร้างปรากฎการณ์ยอดขายทั่วโลกสูงกว่า 1 ล้านคัน นอกจากจะได้แชมป์ในการแข่งขันแล้วรถยนต์ SUBARU ในประเภท Compact SUV ยังได้รับรางวัลสุดยอดรถยนต์จากสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

Related Stories

ทำความรู้จักกับ AI ในรถยนต์ ก่อนจะก้าวไปสู่ยุคยานยนต์ขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ

Birthday-Stories

“Birthday Stories” ฟีเจอร์ใหม่จาก Facebook เพิ่มความเป็นส่วนตัว คำอวยพรไม่รกไทม์ไลน์เจ้าของวันเกิด

facebook

มือใหม่-มือเก่า ก็ต้องเข้าใจ! กับสิ่งที่ “Facebook” อยากบอก Advertiser และ Brand เพื่อการทำโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ

Peugeot

สิงห์คำราม PEUGEOT เตรียมบุกไทย ดัน MGC Asia เป็นหัวหมู่ทะลวงตลาด

NationaL-cAR

ก้าวใหม่ของมาเลเซียกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ประสบการณ์จะช่วยให้พัฒนาต่อไป

12 เทรนด์โลกมาแรง ที่คนยุคดิจิทัลต้องรู้จาก Internet Trend Report 2019 โดย Mary Meeker นักวิเคราะห์ชื่อดัง

12 เทรนด์โลกมาแรง ที่คนยุคดิจิทัลต้องรู้จาก Internet Trends 2019 โดย Mary Meeker

อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • Mos
    อยากให้เพิ่มจำนวนศูนย์บริการครับ
    10 ต.ค. 2562 เวลา 10.03 น.
ดูทั้งหมด