ไม่นานมานี้รถไฟฟ้าบีทีเอสผุดแคมเปญ #ตื่นเช้าหน่อยคนน้อยกว่า มาแก้ปัญหาผู้โดยสารหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่กลับโดยกระแสตีกลับจากคนกรุง และ ชาวเน็ตว่าแคมเปญนี้ฟังดูแล้วเหมือนเป็นการผลักภาระให้ผู้โดยสารอยู่หรือเปล่า?
โดยแคมเปญโฆษณาดังกล่าว เปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างในการขึ้นรถไฟฟ้าในแต่ละช่วงเวลา ถ้าขึ้นในช่วงเวลา 7 โมงจะพบว่ามีปริมาณผู้โดยสารหนาแน่น ซึ่งต่างจากช่วง 6 โมงเช้า หากขึ้นในเวลานี้จะมีผู้โดยสารน้อยกว่า และสะดวกกว่าอย่างเห็นได้ชัด แค่ลองปรับเปลี่ยนเวลาใช้บริการ
แต่ทั้งแคมเปญดังกล่าวกลับโดนตีกลับอย่างดุเดือนจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ชาวเน็ตได้เข้าไปวิพากย์วิจารณ์และตั้งคำถามว่า ปัญหาความหนาแน่นของผู้โดยสาร ต้องแก้ไขที่ผู้ใช้บริการเท่านั้นเหรอ ? หรือ ถ้าบางคนที่เดินทางมาจากแอร์พอร์ตลิงค์ แต่ก่อนตื่นตี 5 ตอนนี้ต้องตื่น ตี 4 เหรอ?
ทำให้หลายคนมองว่าช่างเป็นแนวคิดที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย ชาวเน็ตบางคนถึงกับผุดแฮลเท็กขึ้นมาเสียดสีแคมเปญดังกล่าวอย่าง “เลิกงานเร็วหน่อย คนน้อยกว่า” หรือ “กลับดึกหน่อย คนน้อยกว่า” บ้างก็บอกให้ลองไปศึกษาโมเดลของรถไฟฟ้าในต่างประเทศดู อย่างประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อว่ารถไฟฟ้ามีผู้โดยสารขึ้นหนาแน่นมาก ว่าเขามีการจัดระเบียบอย่างไร
พอลองได้ไปดูแล้ว รถไฟฟ้าญี่ปุ่นก็เคยมีการผุดไอเดียที่คล้ายๆกัน แต่มีสิ่งจูงใจให้คนตื่นเช้ามากกว่า อย่างแคมเปญ “แจกคูปองกินโซบะและเทมปุระฟรี!! ที่ร้านโซบะ Metro An ของบริษัทที่อยู่ตามสถานีต่างๆ เพื่อให้คนตื่นเช้าขึ้น และลดความหนาแน่นบนรถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วน”
โตเกียวได้เริ่มทดลองโครงการนี้มาตั้งแต่เดือน มกราคม โดยให้ผู้โดยสารที่เดินทางรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line ที่ขึ้นชื่อว่ามีคนเดินทางหนาแน่นที่สุดสายหนึ่ง ไปลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และ ลงทะเบียนบัตรรถไฟฟ้าของตัวเองไว้แล้ว ซึ่งเดินทางระหว่างสถานีโตโย -คัทซูทาไดในชิบะ และมงเซนนากะโช ทางตะวันออกของโตเกียว จะได้รับคูปองกินโซบะและเทมปุระ หากเสียบบัตรเข้าประตูรถไฟฟ้าก่อนเวลาที่แต่ละสถานีกำหนด ติดต่อกันเป็นเวลา 10 วัน
แต่! การจะได้รับคูปองนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่ผ่านเข้าออกสถานีก่อนช่วงเวลาที่กำหนดด้วย (เหมือนเป็นการเชิญชวนให้ร่วมแรงร่วมใจกันตื่นเช้าขึ้น ถ้าอยากได้บัตรคูปองอาหาร ) เพราะหากมีคนเข้าร่วม 3,000 คน คุณก็จะได้คูปองที่แลกได้ทั้งโซบะและเทมปุระ ถ้าสมัคร 2,500 คน ก็จะได้ โซบะ 1 ถ้วย และถ้ามี 2,000 คน คุณก็จะได้แค่ เทมปุระ 1 ชิ้น แต่ถ้าน้อยกว่านี้ก็ไม่ได้คูปองเลย
อีกหนึ่งแคมเปญที่รัฐบาลญี่ปุ่นผลักดันให้บริษัทต่างๆทำ เรียกว่า แคมเปญ Jisa Biz คือการให้บริษัทต่างๆสามารถกำหนดเวลาทำงาน หรือเวลา เข้า-ออกงานใหม่ได้เอง เพื่อเป็นการลดความหนาแน่นของผู้โดยสารในชั่วโมงเร่งด่วน โดยผลสำรวจจากบอกว่า กว่า 95% ของคนทำงานในโตเกียวและโอซาก้า บอกวว่า เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปทำงานร่วมชั่วโมง โดยรถไฟ ยิ่งในสภาพที่แออัดมาก ทำให้เกิด ความเครียดสูง
ทั้งนี้มีหลายบริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นที่เข้าร่วมแคมเปญนี้ อย่าง Unilever ทางผู้อำนวยการได้กล่าวว่า "การที่บริษัทได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเพราะเชื่อว่า การเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้น จะนำมาสู่การทำงานที่ดีขึ้น แต่ก่อนหน้าที่บริษัทยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน พนักงานต้องเข้าไปอัดแน่นในรถไฟทุกวัน แล้วก็มาต่อแถวรอลิฟท์อีก เราคิดว่าเรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นเลย”
เราเชื่อว่าระบบคมนาคมขนส่งที่ดี จะส่งผลดีต่อสังคมเป็นวงกว้าง ทั้งคุณภาพชีวิตของผู้คนดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการต่างๆ ลดการใช้รถยนตร์ส่วนตัวที่ทำให้เกิดปัญหารถติด และปล่อยก๊าซที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ระบบขนส่งสาธารณะจึงเป็นเรื่องที่ควรถูกให้ความสำคัญ และแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไร?
คุณนาย ปอเปรม ทุกระบบที่เจริญแล้วบนโลกใบนี้ ใช้ไม่ได้กับคนไทยคะ เพราะคนไทยไม่มีวินัย
05 ก.ย 2562 เวลา 10.47 น.
Mr.Yody 👹 ให้ผดส.ตื่นเช้าขึ้นคุณกล้าเปิดบริการให้เช้าขึ้นใหมล่ะครับเที่ยวเเรกตี4ใหม จะได้สอดคล้องกับให้ผดส.คตื่นเช้าไง เขาอยากนอนตื่นสายอีกนิดเพื่อใชบริการรถไฟฟ้าไง จะได้ไม่ต้องเอารถยนต์มาทำงานเป็นภาระท้องถนน
05 ก.ย 2562 เวลา 10.48 น.
Royce บางวัน แน่นตั้งแต่6โมงแล้ว ยิ่งอ่อนนุชแล้ววิ่งเข้าเมือง แน่นจนต้องรอบถัดไป ขนาด6โมงแล้วนะ 7โมงไม่ต้องพูดถึง รอไปเถอะ สามขบวนผ่านไปถึงได้ขึ้น
05 ก.ย 2562 เวลา 10.21 น.
Pattanaphong82 ถ้าตื่นเช้า ออกเช้ากันหมด ตามแคมเปญนี้แล้วแน่นมากอีกจะมีแคมเปญไหนอีกป่าว
05 ก.ย 2562 เวลา 10.24 น.
Oath ญี่ปุ่นอัดแน่นกว่านี้เยอะ
05 ก.ย 2562 เวลา 10.24 น.
ดูทั้งหมด