ทั่วไป

ตร.พบดีเอ็นเอ ผู้ต้องสงสัย บนตัว “น้องชมพู่”

PPTV HD 36
อัพเดต 10 ก.ค. 2563 เวลา 06.17 น. • เผยแพร่ 09 ก.ค. 2563 เวลา 11.38 น.
หลังจากผ่านไปเกือบ 2 เดือนเต็ม จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถระบุตัวคนที่รู้เห็นและเกี่ยวโยงการตายของน้องชมพู่ได้อย่างชัดเจน ท่ามกลางความหวาดระแวงกันเองของญาติสนิทมิตรสหายในครอบครัวของน้องชมพู่ เพราะต่างสงสัยกันไปมา โดยที่ยังไม่มีข้อสรุปจากตำรวจอย่างเป็นทางการ
ตร.พบดีเอ็นเอ ผู้ต้องสงสัย บนตัว “น้องชมพู่”

พยาน เผย รถแบ๊กโฮของเล่นน้องชมพู่ถูกเคลื่อนย้ายไว้ใกล้ศพ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

หลังจากผ่านไปเกือบ 2 เดือนเต็ม จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถระบุตัวคนที่รู้เห็นและเกี่ยวโยงการตายของน้องชมพู่ได้อย่างชัดเจน ท่ามกลางความหวาดระแวงกันเองของญาติสนิทมิตรสหายในครอบครัวของน้องชมพู่ เพราะต่างสงสัยกันไปมา โดยที่ยังไม่มีข้อสรุปจากตำรวจอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี เชื่อว่า การที่คนใกล้ชิดและตัวละครที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์พูดกันไปมา โดยเฉพาะการสงสัยกัน จะเป็นผลดีต่อการทำงานของตำรวจ และเวลานี้ตำรวจน่าจะรู้ตัวคนที่เกี่ยวข้องแล้ว

สอดคล้องกับข้อมูลตำรวจชุดคลี่คลายคดี ที่เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า เวลานี้ตำรวจได้พยานหลักฐานที่ทำให้แนวทางการทำงานแคบลงอย่างมาก โดยเฉพาะผลตรวจดีเอ็นเอ บนตัวของน้องชมพู่

หลังจากสืบหาพยานหลักฐานมาเกือบ 2 เดือนเต็ม ในคดีการหายตัวและเสียชีวิตในเวลาต่อมาของ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ล่าสุดวันนี้ตำรวจชุดคลี่คลายคดีนี้ เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า หลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่ง ที่มีน้ำหนักและทำให้ตำรวจรู้ตัวผู้ต้องสงสัยที่รู้เห็นและเกี่ยวโยงการเสียชีวิตของน้องชมพู่แล้ว คือ ผลตรวจ ดีเอ็นเอ บนร่างกายของน้องชมพู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของคนในหมู่บ้าน คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่ค้นหาและพบศพน้องชมพู่ รวมถึงกลุ่มกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ให้ความสำคัญไปตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้ทราบผลอย่างเป็นทางการแล้ว โดยพบดีเอ็นเอผู้ต้องสังสัยบนศพน้องชมพู่ แต่ยังขอสงวนเป็นความลับไว้ในสำนวนคดีว่า เป็นใคร 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจกำลังรอผลสรุปทางนิติวิทยาศาตร์อย่างเป็นทางการ รวมถึง ข้อมูลสำคัญอีกบางส่วน ก็จะสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวไปถึงตัวคนที่เกี่ยวข้องได้ เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าตำรวจไม่มีความคืบหน้าในการทำงานเรื่องนี้ จึงไม่เป็นความจริง

เรื่องนี้สอดคล้องกับความเห็นของนาย ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ที่ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวพีพีทีวีว่า เท่าที่ติดตามการทำงานของตำรวจในคดีนี้ เชื่อว่า พนักงานสอบสวนรู้ข้อมูลแล้วว่า ใครรู้เห็นและเกี่ยวโยงกับการหายตัวและเสียชีวิตของน้องชมพู่ เพียงแต่การเปิดเผยรายละเอียดในเวลานี้ อาจจะกระทบต่อรูปคดี

ตำรวจปัดขู่บังคับสารภาพ เค้นชายในหมู่บ้าน "น้องชมพู่" ติงสื่อ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ส่วนคำวิจารณ์ว่า การเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุของคดีนี้ ดูเหมือนจะเจอปัญหาว่า หลักฐานส่วนนี้อาจจะไม่สมบูรณ์ ก็อาจเป็นไปได้ เพราะในพื้นที่มีอุปสรรคหลายประการ แต่ส่วนตัว นายปรเมศวร์ เชื่อว่า ถึงอย่างไรข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ตรวจพบบนตัวศพจะเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่จะบอกได้ว่าเด็กอยู่กับใครเป็นคนสุดท้าย ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงไปถึงผู้ต้องสงสัยได้ เมื่อประกอบกับข้อมูลส่วนอื่น และจากการติดตามการทำงานของตำรวจในช่วงหลังมานี้ ก็จะมาในทิศทางที่ไม่ให้ข้อมูลสำคัญของคดีต่อสาธารณะ และจะมาพูดรายละเอียดอีกครั้ง เมื่อจับกุมผู้ต้องหาแล้ว เห็นได้ชัดเจนจากคดีชิงทองที่ลพบุรี

ดังนั้นหากนำข้อสังเกตดังกล่าวมาเทียบเคียงกับคดีของน้องชมพู่ นายปรเมศวร์ เชื่อว่า ตัวละครปรากฏผ่านสื่อ อาจจะไม่ใช่ผู้ต้องหาที่จะถูกออกหมายจับตัวจริง แต่การที่ปล่อยให้คนเหล่านี้ออกมาโต้เถียงกันผ่านสื่อ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตกันไปมา อีกมุมหนึ่งจะส่งผลดีต่อการทำคดีของเจ้าหน้าที่ ที่อาจจะได้ข้อมูลบางชุดที่ยังสงสัยอยู่ หรือ ข้อมูลใหม่ที่จะทำให้ตัดคนไม่เกี่ยวข้องออกไปได้ง่ายขึ้น

ส่วนปมการเสียชีวิต ที่มีการตั้งสมมติฐานกันในหลายแบบ เช่น น้องชมพู่อาจเดินพลัดหลงขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ และเสียชีวิตเอง น้องชมพู่ถูกฆาตกรรมจากจุดอื่นแล้วนำศพไปอำพรางจัดฉาก หรือ เด็กอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วเสียชีวิต แต่เจ้าของพื้นที่ที่เด็กเกิดอุบัติเหตุตกใจกลัวแล้วนำศพไปอำพราง จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งหมดนี้ นายปรเมศวร์ ให้น้ำหนักน้อยที่สุดกับประเด็นแรกที่เด็กจะเดินขึ้นไปเอง เพราะมีโอกาสเป็นไปได้น้อยมากจากสภาพพื้นที่ ส่วน2ประเด็นหลัง ให้น้ำหนักเท่ากัน เนื่องจากต้องรอผลชันสูตรและผลทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงหลักฐานอื่นมาประกอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ส่วนคดีนี้ตำรวจจะสามารถปิดได้เมื่อไหร่ ตำรวจชุดคลี่คลายคดีเปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า จะสามารถปิดคดีและมีคำอธิบายที่ชัดเจนให้กับทุกฝ่ายได้อย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องขอเวลาอีกระยะหนึ่ง

ย้อนรอยคดี “น้องชมพู่" ไขปริศนา ผลดีเอ็นเอ ทำไม 2 เดือน ยังจับใครไม่ได้

ผู้ใหญ่ใกล้ชิด เผย พ่อน้องชมพู่มีความขัดแย้งกับเครือญาติ

 

 

 

 

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 18
  • "แสนดี"
    สื่อพากันเสี้ยมจนญาติพี่น้องเค้าผิดใจกันหมดแล้ว
    09 ก.ค. 2563 เวลา 13.13 น.
  • 🍁☀️🅻🅴🅺☀️🍁
    นึกว่าดูซีรีย์ 2เดือนจบ
    09 ก.ค. 2563 เวลา 13.12 น.
  • จำไม่ได้
    รอตอนต่อไป. ดีเอ็นเอบนตัวน้องชมพู่จะบอกทุกท่านเองว่าใครไปจับหรืออุ้มน้องไปว่างไว้บนเขา. ดีเอ็นเอ. ติดตัวน้องอยู่แล้ว จะเป็นของใคร
    09 ก.ค. 2563 เวลา 13.20 น.
  • ได้แค่ลุ้นให้ได้ตัวคนใจร้ายจริงๆ
    09 ก.ค. 2563 เวลา 13.51 น.
  • play boy 456🐉🐇
    ขอให้เจอจุดจบทีเถิด ใครคือผุ้โชคดีที่จะรับกรรม คนหน้าเดียวหรือคนหลายหน้า อย่างที่หมอปลากล่าว
    09 ก.ค. 2563 เวลา 13.20 น.
ดูทั้งหมด