เมียเผย "สุเทพ" ไปสบาย หลับไปแบบไม่รู้ตัว น้อยใจไม่บอกลากันก่อน ตกใจรถฉุกเฉินเข้ามาปั๊มหัวใจ หมอบอกว่าเสียชีวิตมาแล้วกว่า 3 ชม. ทั้งที่เพิ่งคุยกันไม่กี่นาที เผยสามีเป็นคนดี แจกเงินคนจนเงินเดือนแทบไม่เหลือกิน แต่งงานกว่า 53 ปี อยู่กินกันด้วยความาก เก็บศพไว้อีก 100 วัน รอพระราชทานเพลิงศพ
เรียกว่าเป็นคู่ชีวิตที่อยู่กันมายาวนานและดูแลกันจนถึงวันสุดท้ายจริงๆ สำหรับอดีตนักร้องรุ่นใหญ่และอดีตสก. "อ๊อด ผุสดี อนัฆมนตรี" ภรรยาของ "ครูสุเทพ วงศ์กำแหง" ที่เพิ่งถึงแก่กรรม โดยภรรยาของครูสุเทพเผยว่าแต่งงานกันมากว่า 53 ปีก็อยู่ดูแลกันมาโดยตลอด แม้จะมีการเตรียมตัวกันไว้บ้างแล้ว เพราะครูสุเทพอายุมาก แต่ก็แอบน้อยใจที่ไม่ได้ร่ำลากันก่อน
"ก็ค่อนข้างมีการเตรียมตัวอยู่เสมอนะคะ เพราะคุณสุเทพอายุมากแล้ว แต่ในขณะที่เราเตรียมตัว เราก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด ก็นอนข้างๆ ตลอดเพราะกลัวเวลาลุกไปไหนจะมีอันตราย ท่านเป็นที่รักของประชาชนนะคะ ทุกคนที่เป็นแฟนคลับก็รักพี่เทพมาก ตอนแต่งงานก็มีคนมาบอกว่าคุณผุสดีต้องดูแลให้คุณสุเทพดีๆ นะ มีคนมาสั่งเยอะค่ะว่าให้ดูแลคุณสุเทพให้ดีๆ ความจริงเราก็อายุมากแล้วเหมือนกันนะคะ แต่การที่เราต้องอยู่ดูแลพี่สุเทพก็ต้องทำตัวให้แข็งแรง และเป็นคนโชคดีอย่างหนึ่งไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไร"
"ก็ดูแลกันด้วยความรัก และเราก็เข้าใจชีวิตคุณสุเทพ และในที่สุดอยากจะบอกว่าคุณสุเทพไปอย่างสบาย แกก็หลับไปเลยค่ะ ไปแบบไม่รู้ตัว น้อยใจตรงที่ว่าไม่บอกเราเลย คือตอนเย็นเราไปอาบน้ำก็บอกว่าเดี๋ยวลงมาเฝ้านะ ให้น้องคนดูแลเขาดูแลไปก่อน พอลงมาเห็นแกนอนหลับ แล้วเขาขอบให้เรานวดฝ่าเท้า พอเอามือไปแตะฝ่าเท้าเขา เขาก็ชะเง้อมายิ้ม แล้วก็เข้าไปให้เขาหอม ปกติเขาก็ไม่เคยหอมนะคะ คือแต่งงานกันมานาน 53 ปี ก็ไม่ค่อยหอมกันเท่าไหร่"
บอกเมื่อวันอังคารไปทานอาหารกับเพื่อน และไปโรงพยาบาลก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติ
"สาเหตุที่เสียชีวิตก็คือเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวค่ะ คือเมื่อวันอังคารได้ไปทานอาหารกันกับเพื่อนๆ แล้วเพื่อนๆ ก็ทราบว่าคุณสุเทพชอบทานปลาดิบ พอไปถึงร้านปรากฎว่าทุกร้านไม่มีปลาดิบขาย เนื่องจากติดเรื่องของไวรัสโควิด-19 คนที่พาไปก็อยากให้พี่สุเทพได้ทานก็รีบหาร้านกันใหญ่ พอถึงร้านแกก็ไม่ทานอะไรเลย ให้ทานอะไรก็ไม่ทาน พอสัก 3 ทุ่มแกก็เข้าห้องน้ำ เราก็พยุงแขนแกออกมา เดินมายังไม่ถึงโต๊ะเลยแกก็บอกว่าพักก่อน แล้วก็เริ่มหายใจแรง เราก็ตกใจถามว่าพ่อเป็นอะไร สักพักแกก็ดีขึ้น"
"กลับมาบ้านแกก็ยังไม่ยอมทานอะไรอีก ก็เลยหามะม่วงสุกให้แกทานไปครึ่งลูก แล้วก็ไปโรงพยาบาลคืนวันอังคาร คุณหมอก็บอกว่าไม่เป็นไรกลับบ้านได้ มีเพียงแค่ขาดน้ำตาลเท่านั้นเอง พอวันพุธทั้งวันก็ทานอาหารได้ครบทุกมื้อนะคะ แต่พอตอนเย็นเห็นแกเริ่มหน้าซีดๆ ก็คิดว่าคงไม่เป็นไรมั้ง เดี๋ยวพรุ่งนี้คือวันพฤหัสบดีจะไปหาหมอตรวจโรคหัวใจอยู่แล้ว สักพักแกก็นอนหลับไปทุ่มกว่าๆ เราก็บอกน้องที่ดูแลว่าฝากด้วย เราขึ้นไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะลงมาดูต่อ เพราะเราจะมีหน้าที่ให้ยาทานก่อนนอน ก็ทานยาแล้วก็หลับไป"
แปลกใจเพราะรถฉุกเฉินเข้ามาตรวจและบอกว่าเสียชีวิตแล้วกว่า 3 ชม. แต่จริงๆ ยังเพิ่งคุยกันอยู่ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
"พอตื่นมาได้สักตี 4 ได้ยินเสียงกุกกักก็เห็นคุณสุเทพลุกอยู่ตรงห้องน้ำ แล้วกางเกงแกลงมากองอยู่ที่เท้า แกก็พยายามจะดึงกางเกงขึ้นแล้วก็เซ เราก็รีบเข้าไปรับ แล้วก็พามานอนที่เตียง แกก็บอกว่าให้ไปดูที่ห้องน้ำหน่อย แกอุจจาระไว้เต็มเลย เหมือนไฟธาตุจะแตกน่ะค่ะ เพราะพอเราเข้าไปดูห้องน้ำก็บอกไม่มีอะไร แล้วแกก็หยิบกระโถนขึ้นมาเหมือนจะอาเจียน แต่ตลอดที่ป่วยมา 2 ปีแกไม่เคยอาเจียนเลยนะคะ แต่พอครั้งนี้เหมือนจะอาเจียนเสร็จก็ล้มตัวลงนอน เราก็ขึ้นไปปลุกทุกคนเลยให้ลงมาดู"
"ตอนนั้นลูกๆ บอกว่าน่าจะประมาณ 04.05 น. เห็นคุณสุเทพเริ่มหายใจหอบๆ ก็ช่วยกันปั๊มหัวใจ แล้วก็โทร.ให้รถฉุกเฉินเข้ามารับ ไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึง แล้วก็ทำ CPR หัวใจ เราก็วิ่งขึ้นไปข้างบนจะเปลี่ยนเสื้อผ้า พอลงมาก็เห็นมีทีมเข้ามาดูอีก แล้วมีคุณหมอมาด้วยเขาก็บอกว่าคุณสุเทพไม่อยู่แล้ว เราก็ตกใจว่าเพิ่งเมื่อกี้เองนะคะ เขาก็ให้ดูว่าคอแกแข็งแล้ว เราก็บอกว่าเมื่อกี้เขายังพูดกับเราอยู่เลยไม่กี่นาทีนี่เอง เขาก็เริ่มปั๊มหัวใจอีกที แต่พอปั๊มไปสัก 30 ครั้งเขาก็บอกไม่มีหวัง เพราะชีพจรหยุดแล้ว"
"เขาบอกว่าคนไข้เสียชีวิตมาแล้ว 3 ชม. พูดแล้วก็ขนลุก เราก็บอกว่าไม่ใช่นะคะ ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีเขายังพูดกับเราอยู่เลย แล้วสะใภ้ก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้ดูนาฬิกาว่าตอนที่โทร.หาน่ะมันตอนตี 4 แล้วตอนนี้ตี 4.35 น. เอง เล่าให้ใครฟังก็บอกว่าคุณสุเทพเป็นคนใจแข็ง พี่ว่าเขาไปแล้ว แต่เขายังอยากจะอยู่ พอมาถึงตอนนี้ก็มารู้สึกว่าทำไมเราไม่รู้ตั้งแต่เย็นเราจะได้พาเขาไปหาหมอ ก็เสียใจเหมือนกันค่ะ โทษตัวเองอยู่เหมือนกัน"
บอกเริ่มมีอาการป่วยต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลเกือบทุกวันเริ่มตั้งแต่ตอนป่วยเมื่อปีที่แล้ว
"คุณสุเทพไม่สบายตั้งแต่ต้นปี 62 สโตรกขึ้นสมอง แล้วท่านมีอาการไม่ค่อยดี คือวันนั้นไปงานกับพี่ชรินทร์ เป็นงานสวดศพคุณสะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ พอท่านกลับมาก็เดินโซเซๆ พอแกไปเปลี่ยนเสื้อแล้วก็ล้มตัวลงนอน เราก็ถามว่าเป็นอะไร แล้วแกก็ลุกขึ้นไปปัสสาวะแล้วก็เดินไปเดินมา เราก็บอกว่าถ้าพ่อเป็นอย่างนี้ไปโรงพยาบาลดีกว่า เขาก็บอกว่าไม่เป็นอะไรแล้วก็นอน พอนอนก็ยิ่งแย่หายใจแรง เราก็วิ่งไปปลุกลูกสะใภ้บอกว่าไปส่งพ่อที่โรงพยาบาล กลายเป็นสโตรกอยู่หลายวัน ก็ฝากไว้นะคะ ถ้ารู้สึกชาซีกซ้ายหรือชาตรงไหน หรือมีอาการผิดปกติอย่านิ่งเฉย รีบไปโรงพยาบาลภายใน 3 ชม."
"ขนาดนอนอยู่โรงพยาบาลนะคะ ตอนนั้นอยู่ห้องรวม พอเราไปเยี่ยมก็หาแกไม่เจอ ปรากฎหมอมาบอกว่าเมื่อสักครู่แกเดินอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ แล้วก็วูบไป พอหมอเดินไปดูก็เห็นน้ำลายไหล ปากเบี้ยว ตาเหล่ ก็เลยรีบพาเข้าฉุกเฉิน แล้วคุณหมอก็โทร.มาหาบอกว่าให้เราไปเซ็นรับรองด่วน เพราะถ้าใช้ยานี้จะเกิดเหตุ 3 อย่าง หนึ่งคือเลือดออกทางทวารทั้งหมด สองผ่าสมอง สามคืออาจจะเสียชีวิต เขาก็ให้เราไปเซ็นอนุญาต ตอนนั้นเราก็ร้องไห้โฮเลย ตกใจมาก ถามคุณหมอว่าไม่ทำไม่ได้เหรอคะ คุณหมอก็บอกว่าไม่ได้ ตอนนี้มียาชนิดนี้ชนิดเดียว แต่หมอบอกว่ามีโอกาสจะเป็นอย่างที่ว่าแค่ 10% เท่านั้น เราก็โอเค หมอก็เลยพาเขาไปฉีดยา แต่พอหลังจากนั้นเลขามาบอกว่าผมได้ยินคุณหมอบอกว่า 70% นะ ไม่ใช่ 10% เราก็เลยคิดว่าคงเป็นความโชคดีของพี่เทพที่ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องไป"
บอกจุดประทับใจ "ครูสุเทพ" เป็นคนใจดี แจกเงินคนจนเงินเดือนแทบไม่เหลือ และวันแต่งงานก็ยังมีแฟนๆ มาบอกว่าให้ดูแลสามีให้ดีๆ
"ตอนที่ท่านเป็นนักร้องเราก็ไม่ชอบไปตามท่านเท่าไหร่ คือเรารู้ว่าท่านไปร้องเพลงก็จะมีแฟนคลับ แล้วคนที่มานั่งดูเขาจะสบายใจไหมว่าเมียมานั่งอยู่ด้วย ก็คงหมดอารมณ์นะคะ เราก็เลยบอกเขาว่าไม่เป็นไร อ๊อดไม่ไป เคยไปงานแต่งงานด้วยกันครั้งนึงแล้วเข็ดไม่ไปอีกเลย เพราะเจอสุภาพบุรุษคนนึงบอกว่ามาคุมทุกวันเลยเหรอเนี่ย เราเลยบอกว่าบังเอิญมางานแต่งงานค่ะ เลยติดรถมา ตั้งแต่นั้นก็เลยไม่ยอมไปไหนด้วยอีก คุณสุเทพไปร้องเพลงจะไม่มีเราไปด้วย อาจจะไม่เคยได้ไปโชว์ตัว แต่ก็อยู่กันด้วยความรัก และคุณสุเทพเป็นคนดี"
"เคยมีคนถามว่าทำไมถึงแต่งงานกับคุณสุเทพ ตอนนั้นทุกคนก็รู้ว่าเราเป็นนักร้อง คนก็มาติดเยอะแยะ รวมทั้งคนมีฐานะดีๆ เยอะแยะ แต่ทำไมมารักคุณสุเทพ เราก็ดูเขาอยู่ทุกวัน ก็มีนักเปียโนคนนึงแกก็นินทาว่าเนี่ยคนมาหาเยอะแยะเดี๋ยวคอยดูสิ้นเดือนไม่มีเงิน คือเบิกเงินให้เขาหมด ใครมาขอแกก็ให้ ความรู้สึกของเราก็คือเขาเป็นคนดีมาก ไม่ได้คิดว่าอนาคตเรามาอยู่แล้วเราจะอะไร มีคนเคยถามว่าเธอกินอะไร เงินเดือนคุณสุเทพออกสิ้นเดือนไม่เคยเหลือ เพราะคุณสุเทพจ่ายหมด เราก็บอกไม่เป็นไร เรามีหน้าที่ของเรา คือหลังจากเลิกร้องเพลงก็ไปเปิดร้านตัดเสื้อ ก็มีแฟนเพลง มีนักร้องไปทำเยอะมาก"
"ต่อมาก็ไปสมัคร ส.ส. ที่โคราช ก็ไปหาเสียงจนไม่ได้ทำร้าน ก็ต้องเลิกทำร้านไป ทีนี้พอคุณสุเทพมาเป็น ส.ส. ก็เดือดร้อนอีก บางวันประชุมสภาก็มีคนโทร.มาว่าบ้านฉันน้ำประปาแตกไม่มีใครมาดูเลยเหรอ แล้วสมัยก่อนไม่มีมือถือ เราก็ตามไปที่สภา สภาก็บอกว่าเข้าที่ประชุมแล้วห้ามออกมาเด็ดขาด พอพี่เทพกลับมาตอนเย็นเราก็บ่นว่ามีคนโทร.มาป่านนี้บ้านเขาน้ำท่วมไปแล้ว (หัวเราะ) เขาก็หัวเราะ พอมีเลือกตั้งเขาก็บอกว่าแม่มาช่วยพ่อสิ แม่ไปเป็น ส.ก. สิ จะได้ช่วยพ่อทำงาน ก็เลยกลายเป็นว่าเราเลยทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภากรุงเทพฯ เขตราชเทวี 6 สมัย"
เผยสามีพอเริ่มชราก็มีโรครุมเร้าเยอะ แต่ก็ดีใจที่แฟนๆ ยังรักและติดตามถามกันมาตลอด
"ถามว่าท่านมีอะไรที่ยังเป็นห่วงไหม ก็คงจะเป็นห่วงเรื่องเพลงภาษาไทยของท่านที่ร้องชัดๆ พอดีก่อนจะเสียท่านลุ้นคุณเนรัญชราอยู่ ท่านก็จะเน้นนักร้องว่าให้ร้องให้ชัด ทีนี้คุณเนรัญชราแกแต่งเพลง แกก็ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ คุณสุเทพก็ลุ้นมาเป็นสิบๆ ปีค่ะอยากให้ได้ ท่านเป็นคนแต่งเพลงเพราะๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ"
"โรคประจำตัวคุณสุเทพมีเยอะเลยค่ะ ก็เป็นเบาหวาน โรคหัวใจ ความดัน มันมาเป็นชุดค่ะ พอค่อยยังชั่วอยู่มาไม่กี่ปีก็สโตรกขึ้น แค่สโตรกกับโรคหัวใจนี่คุณสุเทพก็ไปโรงพยาบาลศิริราชเกือบทุกวันเลยค่ะ แต่ก็เช็กกันตลอดเวลาค่ะ เช็กทุกโรคที่เริ่มจะมีอาการ โรคไต โรคอะไรสารพัด แต่คุณสุเทพมีแฟนเยอะ ดีใจที่ชาวบ้านมีความสุขในการที่ได้พบคุณสุเทพ ถึงแม้ว่าตอนนี้ท่านจะเสียแล้ว แต่ก็มีสื่อต่างๆ มาเผยแพร่ อย่างน้อยๆ ก็จะได้เห็นความเป็นไปว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน สวดวัดไหน มีโทรศัพท์มาถามที่บ้านเต็มไปหมด"
"ก็อยากจะบอกว่าขอให้พี่เทพไปสู่สวรรค์ เพราะพี่สุเทพเป็นคนดีค่ะ ใจดี ตั้งใจทำงาน รักลูกศิษย์ทุกคน พี่เทพรักทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในวงการ ก็ขอให้พี่เทพไปสู่สวรรค์ และขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ กำหนดการจากวันนี้ไปก็คือจะสวด 7 วันนะคะ จะไปหมดวันที่ 5 มี.ค. ค่ะ ก็จะมีนักดนตรีมาช่วยกัน จะมี 3 วง จะเก็บศพไว้ 100 วันค่ะ รอพระราชทานเพลิงศพด้วยค่ะ"
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO
thitima ผู้สูงอายุที่ไม่ต้องป่วยติดเตียงในบั้นปลายแบบนี้ถือว่าไปสบายที่สุดแล้ว
เป็นบุญของทั้งผู้ที่จากไปและญาติ ๆ ที่ดูแลด้วย
RIP แด่ศิลปินผู้มอบความสุขให้คนไทยเสมอมาค่ะ
28 ก.พ. 2563 เวลา 17.35 น.
เคยจำคำบอกเล่าของบรรพบุรุษเคยเล่ากันว่า..ถ้าเห็นคนป่วยหนักมายาวนานเอ่ยปากพูดจ้อหรืออยากกินนั่นนี่..ก็แสดงว่าเขาลูกขึ้นมาเพื่อมาเอ่ยคำบอกลา..หรือกินเพื่อสั่งเพื่อลาไปจากโลกนี้เท่านั้น(เคยพบเจอลักษณะนี้มาแล้วเยอะครับ)นับว่าตาสุเทพท่านมีบุญทำบุญเอาไว้มาก..จะเรียกว่าไม่ได้เสียชีวิตด้วยการทรมานนั่นเอง..
28 ก.พ. 2563 เวลา 18.23 น.
ยุทธกรน์ ขอให้คุณสุเทพ ไปสู่สุขคติ หลับให้สบายนะครับ
28 ก.พ. 2563 เวลา 17.48 น.
คุณแม่ยังสวย แข็งแรง และเข้มแข็งมาก ครับ ขอร่วมใจส่งคุณสุเทพขึ้นสวรรค์ มีความสุขชั่วนิรันดร์ครับ สาธุ
28 ก.พ. 2563 เวลา 17.58 น.
พรหมบุรี สู่สุคติค่ะ
28 ก.พ. 2563 เวลา 18.15 น.
ดูทั้งหมด