ชีวิตพลิกผัน อดีต ผอ.รร.ดัง ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน จมอยู่กับกองยา

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 พค.63  ที่ รร.บ้านหนองปลา หมู่ที่ 7 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ริมถนนเอเซีย41 นาย สายัณห์  จุ้ยนคร  ประธาน สภา อบต.นาขา  น.ส.สุดใจ เยาวนานนท์  ผญบ ม.11 ต.นาขา  นายมงคล  สระทอง ผรส ม.11 ต.นาขา  นายวิชา เพชรสุวรรณ แพทย์ ต.นาขา นายวิชัย อรุณโชติ ส.อบต. ม.7 ต.นาขา เดินทางไปตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มี อดีต ผู้อำนวยการ รร.บ้านหนองปลา กำลังตกระกำลำบากอย่างหนัก

ที่อาคารไม้ชั้นเดียวหลังเล็กๆ ด้านในสุดของโรงเรียน แวดล้อมด้วยพืชสวนครัวหลายชนิด  พบ นายอุดม แสงแก้ว อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ ตามบัตร ปชช. 456หมู่ที่ 11 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร  อดีต ผู้อำนวยการ รร.บ้านหนองปลา ในสภาพหน้าตาซีดเซียว กล่าวว่า”เคยเป็น ผอ. รร.บ้านหนองปลาตั้งแต่ ปี พศ.2555 เกษียณเมื่อเดือนตุลา ปี 2559 ช่วงรับราชการ มีหนี้สินถึง 5ล้านกว่าบาท ทั้งที่กู้มาและ ไปค้ำประกันเพื่อนไว้ โดยมีหนี้ทั้งหนี้สหกรณ์ครูฯ และ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน เมื่อเกษียณได้เงินบำหนาณเดือนละ 49,047บาท แต่ก็จะถูก สหกรณ์ครูฯและ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน หักไปทั้งหมด หลังจากนั้นยังทำหน้าที่เป็นครูรับจ้างอีก 1 ปี ในปี 2560 ตาทั้งสองข้างเป็นต้อกระจกมองไม่เห็น และไม่มีรายได้ ในที่สุด ธ.ออมสิน ยึดบ้าน ทำให้ไม่มีที่อยู่อาศัย จึงมาขออาศัย ใน พื้นที่ ของ รร.บ้านหนองปลา เพื่อนๆ ช่วยกันซื้อวัสดุ ช่วยกันสร้างห้องเล็กๆ เท่ากับห้องเก็บของ พอได้อาศัยอยู่ และได้อาศัยผืนดินของ รร.ปลูกพืชผักสวนครัวขายมีรายได้เดือนละ 2000 -3000 บาท ทั้งที่ตาทั้งสองข้างมองแทบมองไม่เห็น จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2563 จึงได้ใช้สวัสดิการของข้าราชการครูบำหนาณ ไปลอกตา ด้านขวาที่ รพ.ชุมพร และแพทย์นัดให้ไปลอกด้านซ้าย ในวันที่ 18 พค.63 แต่ไม่สามารถไปลอกตาได้เนื่องจาก เกิดการระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ทำให้ตาด้านซ้ายเริ่มมองไม่เห็นมากขึ้น  ประกอบกับ รถ จยย.ถูกขโมย จึงไม่สามารถนำผักไปขายที่ตลาดได้ จนถึงเวลานี้ไม่มีเงินใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียวจาก เงินบำหนาญ ก็ยัง ถูก ธนาคาร และ สหกรณ์ครู หักไปจนหมด ยังโชคดีที่มีคนข้างโรงเรียนสงสารนำข้าวสารมาให้พอประทังชีวิต อีกทั้งโรคประจำตัวทั้ง เบาหวาน ความดัน  โดย รพ.ชุมพรส่งยามาให้ทางไปรษณีย์

ชีวิตเคยแต่งงานแต่เลิกรากันไป มีลูกชายก็เรียนหนังสือได้ไม่มาก แยกออกไปมีครอบครัวฐานะยากจนเช่นเดียวกัน นานๆ จะมาช่วยเหลือครั้งละ 500-1000บาท ส่วนลูกสาวได้ติดตามสามีที่เป็นชาวลาวม้งอพยพไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากการระบาดของโควิด19 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ส่งเงินมาช่วยเดือนละ1000 บาท อยู่บ้างเหมือนกัน ชีวิตในตอนนี้อาศัยในห้องเล็กๆกับทรัพย์สินพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าๆ กับภาพถ่ายของลูกๆในอดีตและยารักษาตัวจำนวนมาก ที่กองอยู่ในห้องพัก

สิ่งที่อยากขอความช่วยเหลือ คือ เมล็ดพันธ์ผัก อาหารสำหรับแมวที่เป็นแมวหลงทางมาขออาศัยอยู่ด้วย และอาหารไก่ เพื่อจะได้เอาไข่ไก่ไปขาย เนื่องจากที่ซื้ออาหารมาให้ไข่กิน ไม่เพียงพอจากรายได้จากไข่ไก่ มีไก่ไข่อยู่ 27 ตัว ส่วนเรื่องส่วนตัวถ้ามีเพื่อนหรือลูกศิษย์เก่าจะช่วยก็แล้วแต่ศรัทธา สามารถติดต่อได้ที่ รร.บ้านหนองปลา ริมถนนเอเซีย41 อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ทางด้านนายสายัณห์ จุ้ยนคร ประธานสภา อบต.นาขา กล่าวว่า”ในส่วนของ อบต.นาขา ยังไม่ได้รับรายงาน แต่มีเพื่อนๆครู ได้แจ้งไปยัง ผญบ.หมู่ที่ 11 ต.นาขา พร้อมด้วย แพทย์ตำบล บริจาคเงินส่วนตัว พร้อมกับขอถุงยังชีพจากกำนัน ต.นาขามาช่วยเหลือเบื้องต้น ในช่วง ที่ ผอ.อุดมยังรับราชการมีตำแหน่งได้พัฒนา รร.บ้านหนองปลาอย่างดี ทำให้ รร.มีความก้าวหน้า สร้างคุณงามความดีไว้มาก เมื่อทราบช่าวรู้สึกหดหู่ว่าข้าราชการบำนาญคนหนึ่งที่เคยสร้างความดีให้กับวงการศึกษา ต้องมาอยู่ในสภาพอย่างนี้ จึงต้องเข้ามาช่วยดูแล ได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากถุงยังชีพ ทาง อบต.นาขายังไม่ได้จัดซื้อจัดจ้าง แต่จะพยายามหาทางวมาเยียวยา อดีต ผอ.ท่านนี้เท่าที่จะทำได้

ภาพข่าว จิตติ ดาวขจร ภูมิภาค ชุมพร