จอห์น บาร์นส์ ตำนานลูกหนังลิเวอร์พูล วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกต่ำหลังสิ้นยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นเพราะนักเตะ คิดแค่ได้มาอยู่ทีมใหญ่ แต่ไร้ความรู้สึกต้องรับผิดชอบต่อการเป็นผู้ชนะเหมือนในอดีต
ทีมปิศาจแดง ล้มเหลวไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอบครองอีกเลยนับตั้งแต่ได้หนสุดท้ายในปี 2013 ซึ่งถือเป็นซีซั่นสุดท้ายของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก่อนรีไทร์
มิหนำซ้ำ ปัจจุบันทีมผียังมาตรฐานตกต่ำลงไปจนกลายเป็นทีมที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้ติดท็อป 4 ชิงโควตาไปแชมเปี้ยนส์ลีก โดย 7 ปีหลังสิ้นสุดยุคของของเซอร์อเล็กซ์ ทีมคว้ามาได้เพียงแค่ถ้วยเอฟเอ คัพ และยูโรป้าลีกเท่านั้น
น้าบาร์นส์ ชำแหละทีมผีในยุคตกต่ำเชื่อว่ามีสาเหตุมีจาก นักเตะไม่ได้รู้สึกว่า "ชัยชนะ" คือหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องทำให้ได้ และรู้สึกเพียงแค่มีความสุขกับการได้มาเล่นอยู่ในทีมใหญ่เท่านั้่น
"ถ้าคุณมองที่ไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ ยังคงเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ยังมีนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่ผมไม่คิดว่า พวกเขาเล่นด้วยความรู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อการเป็นผู้ชนะ" ตำนานหงส์แดง กล่าวผ่าน beIN SPORTS ในรายการ The Champions Club
"พูดถึงแฟนปิศาจแดงในตอนนี้ และพวกเขาจะต้องบอกว่า "คุณไม่เห็นเหรอ เรากำลังจะจบอันดับสี่ เราสามารถจบในอันดับ 4 ได้" พวกเขาดูจะแฮปปี้กับเรื่องนี้ เนื่องจากพวกเขาได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก และผมคิดว่ามันแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก"
บาร์นส์ เป็นปีกผู้ยิ่งใหญ่ติดทีมชาติอังกฤษ 79 นัด ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย หลังย้ายจากวัตฟอร์ดมาเล่นให้ลิเวอร์พูล เมื่อปี 1987
[]https://i.dailymail.co.uk/1s/2020/06/02/12/29121938-0-image-a-22_1591098668701.jpg[/]
ตำนานวัย 56 ปี ยังเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับ ลิเวอร์พูล ในช่วงต้นทศวรรษ 90
"ผมมองเห็นความคล้ายคลึงกันอย่างมากระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล" บาร์นส์ กล่าวเสริม
"ในตอนที่ผมย้ายไปลิเวอร์พูลครั้งแรก พวกเขาเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอยู่ก่อนแล้ว เป็นทีมที่กระหายในชัยชนะ มีความกดดันว่า ชัยชันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจะต้องมีสตาร์ประจำทีมอย่าง เอียน รัช, เคนนี่ ดัลกลิช พวกเขาชนะทุกอย่าง"
"มีความกระหายจะเป็นผู้ชนะอยู่ที่นั่น ทันใดนั้นก็มาถึงช่วงต้นยุค 90 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปหมด"
"ถ้ามองมองไปที่แนวทางของผู้เล่นในทีมลิเวอร์พูล หลังซีซั่น 1992-93 เรายังพูดได้ว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ และดูเหมือนว่าผู้เล่นจะมีความสุขกับการได้ย้ายเข้ามาเล่นให้ลิเวอร์พูล โดยไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกต้องเป็นผู้ชนะอีกต่อไป"
"มันทำให้ทีมจบอันดับ 3, จบอันดับ 4 แต่เราก็ยังเป็นผู้เล่นลิเวอร์พูล, มากกว่า 99 เปอร์เซนต์ของทีม แม้มีทีมที่จบในอันดับที่เหนือกว่าเรา จะอาร์เซนอลหรือใครก็ตาม แต่เราก็ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นลิเวอร์พูล แม้ไม่มีความกระหายจะเป็นผู้ชนะก็ตาม"
"เรายังหลอกตัวเองกับความรู้สึกในยุคที่รุ่งโรจน์ รู้สึกว่าเรายิ่งใหญ่ เรายังดีกว่าคนอื่นๆ เพราะเราคือผู้เล่นลิเวอร์พูล"
"ถึงยุคของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อ ไรอัน กิ๊กส์ อยู่ที่นั่น พวกเขาเริ่มต้นชนะทุกอย่าง คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทั้งทั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่สนว่าพวกเขาเคยได้มาแล้วเมื่อปีก่อน พวกเขากระหายที่จะต้องเอาชนะตัวเองให้ได้เท่านั้น"
"จากนั้น ผมคิดว่า พอมาถึงยุคของแมนชสเตอร์ ซิตี้ ภาพของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้เล่นแฮปปี้ที่ได้ย้ายมาอยู่กับพวกเขาโดยปราศจากความรู้สึกรับผิดชอบที่จะต้องเป็นผู้ชนะ"
"เพราะถ้าพวกเขาจบในอันดับ 3 และสเปอร์สจบเหนือกว่า พวกเขาก็ยังดูยิ่งใหญ่กว่าผู้เล่นสเปอร์ส เนื่องจากพวกเขาเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนั่นก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับลิเวอร์พูล"
cob เห็นด้วยกับน้าบาร์นครับ
02 มิ.ย. 2563 เวลา 23.57 น.
ตาริน พูดได้ยอดเยี่ยม
...ที่สำคัญ แฟนทีมนี้ 7 ปีแล้ว ยึดติดความสำเร็จในอดีต
...เอาแค่ทีมขึ้นมาสู่ที่ 5 (แบบชั่วคราว ถ้าเชฟฟิลส์ชนะ เตะ30นัดเท่ากัน ทีมผีจะอยู่ที่ 6)
..แค่ที่ 5 ก็อวยกันแหลกราญ ว่าจะได้แชมป์ๆกันแล้ว
..มาตรฐานมันไม่มี
...ปีนี้แพ้ในพรีเมียร์ไป 8 นัด เสมอ 9 ชนะแค่ 12
มีแค่ 45 แต้ม จาก 29 นัด
...เทียบกับชุดเซอร์คือทีมกลางตารางชัดๆ
...ยังจะอวยเว่อร์
...จุดบกพร่องมันมากมายมหาศาลบานตะไท
03 มิ.ย. 2563 เวลา 00.31 น.
มีขึ้นมีลงทุกทีมครับน้า
03 มิ.ย. 2563 เวลา 01.45 น.
Mahapui Chaloempol มันยังพูดไม่ได้ว่าใครรุ่งเรืองตกต่ำคิดไปเอง
03 มิ.ย. 2563 เวลา 01.44 น.
ดีขึ้นมาปีเดียวทำคุย ไอ้แชมป์โควิด จะได้รึเปล่ารอมานานแสนนาน
03 มิ.ย. 2563 เวลา 02.15 น.
ดูทั้งหมด