เสื่อม! กี่ครั้งแล้วที่ “เด็กใหม่” มักตกเป็นเหยื่อของสังคม

เสื่อม! กี่ครั้งแล้วที่ “เด็กใหม่” มักตกเป็นเหยื่อของสังคม

หนึ่งในซีรีส์ใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้ก็คือซีรีส์ “เด็กใหม่” ช่อง GMM 25  ซีรีส์ที่ตีแผ่ด้านมืดของสังคมในโรงเรียนมัธยมที่ใช้แรงบันดาลใจจาก 13 ข่าวจริง…ที่ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อโดยแค่ออกอากาศตอนแรกก็กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลแทบจะทันที และทำให้ #เด็กใหม่ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่งแทบทุกครั้งที่ออกอากาศ เพราะความดิบ ความดาร์ก และความสดใหม่ที่ซีรีส์นำเสนอ และวันนี้ “คิทตี้- ชิชา อมาตยกุล” ที่ใครๆก็คงจะเรียกเธอติดปากไปแล้วว่า “แนนโน๊ะ” นักแสดงสาวผู้รับบทลูกสาวซาตานผู้มาเยือนโลกใบนี้เพื่อท้าทายจิตใจด้านมืดของมนุษย์ก็ให้เกียรติมานั่งคุยกับเราถึงซีรีส์เรื่องนี้ในมุมมองของเธอ 

เธอคือใคร ?  

“แนนโน๊ะ เป็นตัวละครที่ค่อนข้างเหนือจริง เหมือนซูเปอร์ฮีโร่ในแบบหนึ่งที่จะคอยจัดการกับคนชั่วในแบบของแนนโน๊ะเอง ในเรื่องก็จะมี 13 Episodes ซึ่งเราจะเปลี่ยนโรงเรียนใหม่ไปเรื่อยๆ แล้วก็เป็นเด็กใหม่ในทุกๆโรงเรียน ซึ่งในแต่ละโรงเรียนก็จะมีประเด็นบางอย่างที่เราต้องการจะถ่ายทอดค่ะ”

กดดันบ้างไหมที่ต้องแสดงเป็นตัวละครที่เหนือจริงขนาดนี้? 

“จริงๆเราโชคดีที่มีทั้งทีมครีเอทีฟ ก็คือทีม Sour และก็ทีมของ "ครูบิว-ครูโน่" จากโรงเรียนสอนการแสดง Bew’s Act-Things ที่มาเป็น Acting Coach ให้ค่ะ เขาทำการบ้านกับเราหนักมาก เราใช้เวลากับการเรียนแอคติ้ง เวิร์กช็อปทำความเข้าใจตัวละครเป็นสิบครั้งเลยเหมือนกัน…ถ้าจะพูดถึงความกดดันก็น่าจะเป็นความกดดันของการที่ทีมงานทุกคนอุตส่าห์เลือกเรามาแสดงมากกว่า…เพราะเหมือนเราแบกรับการให้โอกาสของคนจำนวนมากเอาไว้ ก็กดดันว่าอยากจะทำให้ดีที่สุดค่ะ (ยิ้ม)” 

ได้อ่านข่าวจริงที่ซีรีส์เอามาใช้บ้างไหม?​

“อ่านค่ะ แต่จริงๆต้องบอกก่อนว่าแต่ละตอนเราไม่ได้ใช้แรงบันดาลใจจากข่าวแค่ข่าวเดียว มันเป็นการรวมข่าวหลายๆข่าวที่เป็นเรื่องคล้ายๆกันมาดีไซน์ให้เป็นหนึ่งเรื่องค่ะ” 

ข่าวไหนที่น่าเศร้าที่สุด? 

“น่าจะเป็นเรื่องของ…ข่าวที่เกี่ยวกับผลกระทบของการที่คนเราโพสอะไรลงไปในโซเชียลแบบไม่ระวัง และก็ไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดีว่าบางครั้งการแสดงความคิดเห็น…แบบ…ง่ายๆแค่ปลายนิ้วของเราเนี่ย มันจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นขนาดไหน…มันน่าเศร้านะคะ”

ข่าวไหนที่น่ากลัวที่สุด? 

“น่ากลัวที่สุด…น่าจะเป็นข่าวประเภทที่ว่าเพื่อนผู้หญิงด้วยกันลวงเพื่อนผู้หญิงของตัวเองให้ไปโดนรุมข่มขืน คืออย่างแรก เราเคยรู้สึกว่าภัยพวกนี้มันควรจะเป็นภัยที่มาจากคนนอก คนไม่รู้จัก มากกว่าจะมาจากคนที่เราไว้ใจหรือคนที่เราเรียกได้ว่าเพื่อนน่ะค่ะ เป็นอะไรที่น่ากลัวมากเหมือนกันถ้าเกิดคนที่เราคิดว่าไว้ใจได้กลายเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ขึ้นมา”

สังคมสมัยนี้น่ากลัวไหม? 

“เรารู้สึกว่าสังคมมันน่ากลัวทุกยุคสมัยอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าสมัยก่อนหรือสมัยนี้มันก็หลายๆอย่างที่อยู่ในเงามืดที่เราไม่เคยเข้าไปสัมผัสหรือรู้จัก และเราอาจจะเป็นคนที่โชคดีที่ไม่เคยโดนกระทำอะไรแบบนั้น แต่ว่าสมัยนี้เรามีสื่อที่จะสามารถช่วยให้เปิดโปงเรื่องพวกนี้ง่ายขึ้น เราก็เลยได้เห็นเรื่องพวกนี้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน” 

คิดยังไงที่ผู้หญิงมักตกเป็นเหยื่อ? 

“เรามองว่ามันน่าเศร้านะคะที่ผู้หญิงต้องเป็นเหยื่อ โดยหลายๆครั้งผู้หญิงก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง เพียงเพราะอาย และกลัวที่จะบอกให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองโดนกระทำอะไรมาบ้าง” 

ใช้ “ศาลเตี้ย” เพื่อทวงความยุติธรรมถูกต้องไหม?

“เรามองว่าทุกคนมีสิทธิ์ได้รับความยุติธรรมนะคะ แต่วิธีการมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าอยู่ดีๆเราถูกใครทำร้ายแล้วเราไปทำร้ายเขากลับ…เรามองว่ามันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเท่าไหร่ มันจะทำให้เรากลายเป็นคนร้ายไม่ต่างจากเขา แต่เราลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อทวงคืนความยุติธรรมของเราเช่น การเรียกร้อง การออกมาเปิดโปง การกล้าที่จะพูด มันก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่าที่จะปกป้องตัวเอง และช่วยเหลือคนอื่นไม่ให้ต้องมีใครมาตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป” 

เห็นด้วยกับการกระทำของ “แนนโน๊ะ” หรือเปล่า? 

“การกระทำต่างๆของแนนโน๊ะในซีรีส์มันเป็นความสะใจที่ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้มากกว่าค่ะ ตัวแนนโน๊ะก็ไม่ใช่คนดีมาก แต่เป็นอะไรที่ทำให้รู้สึกว่า เออ เรายังมีหวังนะ เราไม่ได้โดดเดี่ยว อย่างน้อยเราก็ได้เห็นในซีรีส์ว่าคนทำผิดก็จะได้รับโทษอยู่ เพราะหลายๆครั้ง ในความเป็นจริง…คนดีจะน้อยใจว่าเราเป็นคนดีมาตลอด ทำไมยังถูกรังแก ในขณะที่คนที่ทำไม่ดีกับคนอื่นก็ยังไม่ได้รับโทษที่เขาสมควรได้รับ โลกในซีรีส์ก็เลยจะเป็นโลกที่ตอบสนองจินตนาการในแง่นั้นมากกว่า” 

 กระแสตอบรับเป็นยังไงบ้าง?  

“คือวันที่ซีรีส์ออนวันแรก เรามีโอกาสได้ไปดูพร้อมๆกันกับทั้งทีมงาน ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และก็น้องๆฝึกงานหลายๆคนที่มาดูด้วยกันน่ะค่ะ แล้วก็มีคนคอยเช็คทวิตเตอร์ตลอด เราตื้นตันมากที่มันขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งในเทรนด์ทวิตเตอร์ มันไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนมาดูตอนแรกสดกันเยอะขนาดนี้ และก็ด้วยความที่ซีรีส์มันไม่ฉายย้อนหลังน่ะค่ะ มันก็ดีใจ ทุกคนก็หายเหนื่อย รู้สึกว่าที่เราเหนื่อยกันมามันคุ้มนะ”

“มีฟีดแบ็คจากคนดูค่อนข้างเยอะที่มาแชร์ประสบการณ์ว่า…เรารู้จักคนที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ในที่ๆเราเคยอยู่เคยมีเรื่องแบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเราดีใจที่เราได้เป็นกระบอกเสียงให้กับทุกๆคน คือเรื่องพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะจู่ๆมาพูดหรือเริ่มบทสนทนาได้ง่ายๆ แล้วหลายๆคนก็บอกว่าเขาดูกับพ่อแม่นะ ดูกับที่บ้าน ซึ่งซีรีส์ก็ทำให้เขาได้มีโอกาสได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ดีใจนะคะ เพราะปกติการจะเริ่มพูดเรื่องพวกนี้มันยาก” 

“เรามองว่าผู้หญิงทุกคนต้องมองก่อนว่าการเป็นคนที่ถูกทำร้ายหรือเป็นเหยื่อ มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย เราคือคนที่ถูกกระทำ คนที่สมควรอายน่าจะเป็นคนที่กระทำมากกว่า…ถ้าผู้หญิงส่วนมากเริ่มเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย และเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราว่าหลายๆคนก็จะกล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้กับตัวเองได้ค่ะ” 

ซีรีส์รสจัดสะท้อนสังคมที่ต้องดู

“เราเข้าใจนะว่าผู้ใหญ่บางคนอาจจะมองว่าการนำเสนออะไรที่มันแรงๆ ดาร์กๆ สะท้อนสังคมแบบนี้จะเป็นการชี้นำเยาวชนไปในทางที่ไม่ดีหรือเปล่า แต่เราขอยืนยันให้ดูจนจบทุกตอน แล้วจะรู้ว่าเราสร้างมันออกมาบนพื้นฐานของความต้องการที่จะท้าทายความชั่ว ความอยุติธรรม ความเลวร้ายของสังคม…เราอยากจะทำให้เห็นว่าสุดท้ายแล้ว คนทำชั่วไม่มีทางได้ดี และ สิ่งที่ทำไปเพราะความคิดชั่ววูบมันไม่มีทางนำไปสู่สิ่งที่ดีได้” 

ติดตามซีรีส์ “เด็กใหม่ - Girl From Nowhere” ไปพร้อมๆกัน ได้ทางช่องGMM25 ทุกวันพุธเวลา22:15 

อย่าลืม! ดูให้ทัน! เพราะจะไม่มีช่องทางให้ดูออนไลน์ย้อนหลังจนกว่าซีรีส์จะจบ!