วันนี้ (16พ.ย.61) สาวๆ หลายคนคงมีปัญหาและรู้สึกอาย หรือกลัว หากต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน วันนี้จะไปทำความรู้จักขั้นตอนและอุปกรณ์การตรวจภายในที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดใช้เวลาตรวจแค่ 5-10 นาที และที่สำคัญการตรวจภายในยังเป็นการป้องกันและคัดกรองโรคโดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที
หลักการทางการแพทย์จะมีขั้นตอนการตรวจภายในที่เป็นมาตรฐานชัดเจน และที่สำคัญคือ ต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นผู้หญิงซึ่งจะเป็นพยาบาล หรือผู้ช่วยพยาบาล อยู่ในกระบวนการตรวจภายในด้วยทุกครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นพยานให้แพทย์แล้ว ยังทำให้คนไข้(ผู้เข้ารับการตรวจภายใจ) มีความสบายใจ ซึ่งหากไม่มีบุคคลที่ 3 ผู้ตรวจภายในสามารถปฎิเสธการตรวจภายในได้ และระหว่างขั้นตอนการตรวจ ต้องมีการชี้แจงให้ทราบทุกครั้ง เพื่อให้คนไข้เตรียมพร้อมและเกิดความสบายใจ
สำหรับขั้นตอนการตรวจภายในจะเริ่มจากคนไข้ขึ้นเตียงที่เป็นขาหยั่ง โดยแพทย์หรือตรวจภายใน หรือที่เรียกกันว่า หมอสูติฯ จะตรวจภายนอกก่อนว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่ และใช้เครื่องมือ สเปคคูลัม( speculum) หรือที่รู้จักันในชื่อ ปากเป็ด สอดเข้าไปช่องคลองเพื่อเปิดให้หมอเห็นปากมดลูก เพื่อตรวจภายในดูผนังเยื่อบุมดลูก ว่ามีอาการอักเสบหรือไม่ แม้เจ้าปากเป็ดจะมีหน้าตา แบบนี้ สาวๆ ก็ไม่ต้องกลัวเจ็บ โดยปากเป็ดจะมีหลายขนาด ซึ่งหมอจะเลือกขนาดให้เหมาะสมกับช่องคลอดของคนที่เข้ารับการตรวจ
จากนั้นก็ใช้ไม้ป้ายเนื้อเยื่อตรงปากมดลูกเบาๆ ซึ่งเนื้อเยื่อตรงนี้จะนำมาเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หลังจากนั้น หมอก็จะนำปากเป็ดออกมาแล้วใช้นิ้วตรวจดูความผิดปรกติของช่องคลอด ปากมดลูก จนถึงมดลูกและรังไข่ทั้งสองข้าง ซึ่งก่อนจะดำเนินการขั้นตอนต่างๆนี้หมอจะแจ้งให้คนไข้(ผู้รับการตรวจ)ให้รับทราบ
นอกจากนี้ยังมี อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใส่ถุงยางก่อนใช้กับผู้ป่วย เช่น การตรวจอัลตราซาวด์ จะมีหัวตรวจสองแบบ คือตรวจทางหน้าท้อง กับตรวจทางช่องคลอดสำหรับการหัวที่ใช้ตรวจทางช่องคลอด จะต้องครอบถุงยางก่อนใส่เข้าไปเพื่อตรวจคนไข้
สำหรับขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้น ซึ่งการตรวจภายในโดยเฉพาะกับหญิงสาวที่มีเพศสัมพันธ์แล้วทุกคน ควรตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปี ซึ่งโรคนี้สามารถตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาจนหายขาดได้